กทม.เตรียมจัด กิจกรรม 60+Earth Hour 2011 รณรงค์ปิดไฟที่ไม่จำเป็น 1 ชั่วโมง ในวันที่ 26 มี.ค.2554 ระหว่างเวลา 20.30-21.30 น.พร้อมเดินหน้ารณรงค์ให้ทุกภาคส่วนร่วมแสดงพลังในการลดภาวะโลกร้อน
นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังประชุมการจัดกิจกรรม รณรงค์ ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน ( 60+ Earth Hour 2011) ประจำปี 2554 ว่า ในปีนี้ กทม.และ WWF ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าสานต่อการจัดกิจกรรม ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน ภายใต้แคมเปญ มากกว่าปิดไฟให้โลกพัก ซึ่งปีนี้ยังคงเดินหน้ารณรงค์ให้ประชาชนได้ร่วมกันปิดไฟที่ไม่ใช้งานเป็น เวลา 1 ชั่วโมง ร่วมกับเมืองต่างๆ ทั่วโลกกว่า 4,616 เมือง จาก 128 ประเทศ โดยได้เพิ่มการณรงค์ให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการลดภาวะโลกร้อน เช่น การขี่จักรยาน การปลูกต้นไม้ หรือการเดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ เป็นต้น ซึ่งรูปแบบการจัดกิจกรรมจะแบ่งออกเป็น 3 กิจกรรมหลัก ประกอบด้วย กิจกรรมแถลงข่าวปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน ในวันที่ 12 มีนาคม 2554 ในเวลา 15.00-16.00 น.ณ หน้าสำนักงานตลาดนัดจตุจักร เขตจตุจักร โดยจะมีผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ร่วมศิลปิน ดารา ร่วมกันขี่จักรยานรณรงค์บริเวณตลาดนัดจตุจักร เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้ ส่วนกิจกรรมที่ 2 เป็นกิจกรรมเดินรณรงค์การจัดกิจกรรมปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน ไปตามถนนสายสำคัญต่างๆ อาทิ ถ.สีลม ถ.ข้าวสาร ถ.เยาวราช ศูนย์สรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ สยามพารากอน ระหว่างวันที่ 14-17 มี.ค.2554 โดยจะมีผู้บริหาร กทม.พร้อมศิลปินดาราจะร่วมเดินรณรงค์ กิจกรรมสุดท้าย คือ การปิดไฟที่ไม่ได้ใช้งานเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน วันเสาร์ที่ 26 มี.ค.2554 เวลา 20.30-21.30 น.
สำหรับผลการดำเนินการจัดกิจกรรม ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน ในรอบ 3 ปี ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2551-2553 ซึ่งกิจกรรมประสบผลสำเร็จเกินความคาดหมาย โดยในปี 2551 สามารถลดกระแสไฟฟ้าได้ 74 เมกะวัตต์ สามารถลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 46 ตัน คิดเป็นมูลค่า 220,000 บาท เมื่อเทียบกับก่อนปิดและหลังปิดไฟ ส่วนในปี 2552 สามารถลดกระแสไฟฟ้าได้ 1,423 เมกะวัตต์ สามารถลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ 894 ตัน คิดเป็นมูลค่า 4.31 ล้านบาท เมื่อเทียบกับการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาสูดสุด ส่วนปี 2553 สามารถลดกระแสไฟฟ้าได้ถึง 1,620 เมกะวัตต์ ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 1,003 ตัน คิดเป็นมูลค่า 4.8 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ถึงแม้ในปี 2553 จะไม่สามารถจัดกิจกรรมได้ เนื่องจากมีการชุมนุมทางการเมือง แต่ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วนและผลของการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น