++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

"รัก" ออกแบบได้อย่างมีสติ สไตล์ จ๊ะ- รวิกานต์

เชื่อว่าคงไม่มีใคร ที่ไม่รู้จักPuppy Love หรือรักในวัยเรียน หลายคนเจอรักแท้อยู่กันยืดยาวจนแต่งงาน แต่ส่วนใหญ่กลับอกหักรักคุด แถมปัญหาการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรก็พ่วงมาด้วย เรื่องนี้ถูกยกมาพูดกันอย่างกว้างขวางเพื่อหาทางออก ผู้ใหญ่อาจมีคำตอบในทางหนึ่ง แต่ในมุมของเด็กๆอย่างนิสิตลูกพระเกี้ยวคนนี้ มีมุมมองความรักใน พ.ศ. นี้ที่ต่างออกไป

"จ๊ะ" รวิกานต์ เดชดี นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แสดงความเห็นว่า ความรักสำหรับเธอ คือ ความผูกพันกับคนหรือกลุ่มคนก็ได้ ส่วนเรื่องความรักในวัยเรียนนั้นไม่ใช่สิ่งที่ผิด ขึ้นอยู่กับว่าเหล่าวัยใสทั้งหลายมีสติที่จะรักแค่ไหน ในยุคนี้พฤติกรรมการแสดงออกของวัยรุ่นวัยเรียนที่เธอเห็นคือ วัยรุ่นมักจะแสดงความรักออกมาในลักษณะของรูปธรรมที่ชัดเจน ตรงๆ ง่ายๆ

"การ ซื้อดอกไม้ให้ การบอกรักเป็นคำพูด การไปเที่ยวด้วยกัน เดินจับมือ ไปกินข้าว หรืออะไรก็ตามที่แสดงออกมาได้ชัดเจน พฤติกรรมเหล่านี้วัยรุ่นจะมีเยอะเพราะ มันเห็นถึงความชัดเจนว่านี่คือการแสดงออกของความรัก แต่ในแง่ของนามธรรมหรือความรู้สึกที่จับต้องไม่ได้ วัยรุ่นจะไม่มองถึงตรงนั้น ก็อาจจะเป็นเพราะยุคสมัย และอาจจะเป็นเพราะสิ่งเหล่านี้สามารถเข้าใจง่าย และคิดว่าอิทธิพลของสื่อก็มีส่วนด้วย อย่างในหนัง ตัวละครมักจะสื่อสารออกมาว่าถ้าคนเดินจับมือกัน ไปดูหนังกัน เหล่านี้เป็นพฤติกรรมที่แสดงว่าว่าคนคู่นั้นรักกันนะ ฉะนั้นการที่วัยรุ่นมีความรัก ก็จะมีพฤติกรรมเหล่านี้ตามมา มันแสดงออกมาแบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อน วัยรุ่นอาจจะยังไม่ได้มองในจุดที่เป็นความรักระยะยาวหรือการสร้างครอบครัว" รวิกานต์ กล่าว

รวิกานต์ ยอมรับว่า ความใกล้ชิดที่เกินขอบเขตของวัยรุ่น อาจทำให้ความสัมพันธ์นั้นเลยเถิดจนเกิดปัญหาตามมาได้ ดังนั้นพฤติกรรมการแสดงออกด้านความรักของวัยรุ่นก็อาจเป็นความเสี่ยงอย่าง หนึ่ง ที่อาจทำให้ชีวิตวัยเรียนต้องหมดอนาคตลงไป ดังนั้นการรักแบบมีสติ ควบคู่กับมีความรู้ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับเจนวายในยุคนี้

"ก็ ยอมรับว่ามันเพิ่มความเสี่ยงในเรื่องความสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ตรงนี้มองว่าอยู่ที่ตัวเราเองมากกว่า ถามว่าทุกคนรู้ไหมว่ารักที่มันเกินขอบเขต ถึงขั้นมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งทางร่างกายมันอาจส่งผลเสียตามมา คิดว่าวัยรุ่นทุกคนรู้ แต่ว่าเมื่อรู้แล้วควบคุมได้หรือไม่ ยับยั้งชั่งใจได้แค่ไหน มันอยู่ที่ตัวเราหมดเลย บางคนอาจมองว่า สมัยนี้พ่อแม่ต้องปรับตัวในการสอนลูกเรื่องนี้ แต่เชื่อว่า มันยังมีช่องว่างระหว่างวัยกั้นขวางอยู่ พ่อแม่อาจทำได้เพียงบางส่วน แต่ที่เหลือต้องอยู่ที่ตัวเด็กเองว่าจะควบคุมตัวเองได้หรือไม่" จ๊ะเล่า

จ๊ะบอกอีกว่า การลดความเสี่ยงไม่ให้เกิดความสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรนั้น อาจทำได้โดยหากิจกรรมอื่นๆที่ไม่สุ่มเสี่ยงต่อเรื่องเพศ มาเป็นสื่อกลางในการแสดงความรักก็ได้ แทนที่จะดูหนัง ฟังเพลง ก็เปลี่ยนไปติวหนังสือกับเพื่อนเป็นกลุ่มเป็นก๊วน หรือการออกค่ายต่างๆ นอกจากจะได้ใช้เวลาร่วมกันแล้ว ยังเป็นการสร้างเครือข่ายใหม่ๆให้ตนเอง และเป็นการทำประโยชน์ให้สังคมอีกด้วย

>

"มัน มีกิจกรรมที่จะแสดงออกเรื่องความรักได้หลายอย่างที่ไม่ใช่แค่เซ็กส์ การทำกิจกรรมอื่นๆร่วมกันมันจะสร้างความผูกพันเป็นสายใยที่อยู่กันได้ยืดยาว มากกว่า ไม่ใช่มีแค่ความรู้สึกชั่ววูบ ถามว่าจำเป็นไหมว่าต้องให้กุหลาบหรือช็อคโกแลตในวันวาเลนไทน์ คิดว่าไม่จำเป็นค่ะ ถ้าเราเป็นคนไม่ชอบกุหลาบหรือช็อคโกแลตล่ะ ก็ไม่ต้องก็ได้ คือมันออกแบบได้ แล้วเรื่องการออกแบบมันอยู่ที่เราและคนที่เรารักว่าอยากให้มันเป็นแบบไหน แต่ต้องมีสติรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ เรามีความรักในบริบทที่ตอนนี้ยังเรียนอยู่ ก็ควรดูว่ามีขอบเขตทำได้แค่ไหน" จ๊ะอธิบาย

ทางออกสำหรับเรื่องความสัมพันธ์ ก่อนวัยอันควรที่อาจนำไปสู่ปัญหานั้น จ๊ะมองว่าต้องมีการปรับเปลี่ยนค่านิยมของสังคม วัยรุ่นต้องกล้าพูด กล้าแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ การพูดแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจะทำให้มีสติมองเห็นปัญหา ไม่เฉพาะวัยรุ่นเท่านั้น แต่สังคมต้องเปิดใจกว้าง รวมถึงสื่อต่างๆ ต้องมีส่วนช่วยกันแสดงให้เห็นว่าการพูดเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ต้องสร้างให้เกิดการตระหนักรู้สาธารณะว่าให้มีสติก่อนตัดสินใจทำ หรือทำได้แต่ต้องป้องกัน ก็จะช่วยลดปัญหาเรื่องนี้ได้

"คิด ว่าตอนนี้เรื่องแบบนี้มันเปิดกว้างแล้ว คิดว่าเรื่องค่านิยม ถ้าจะช่วยในแง่ของกระแสสังคม สื่อก็อาจจะต้องเปิดกว้างมากขึ้นว่า เอาสิ่งพวกนี้มาพูดกันอย่างเปิดเผยในเชิงให้ความรู้ให้มากขึ้น ซึ่งตอนนี้ก็ถือว่าเปิดเผยมากกว่าเมื่อก่อน อย่างเมื่อก่อนเราจะไม่เคยเห็นสื่อเสนอเรื่องถุงยางอนามัยเลย แต่ทุกวันนี้ก็เห็นมีโฆษณาต่างๆที่รณรงค์เรื่องนี้มากขึ้น พกไว้ไม่เสียหาย มันเป็นเรื่องที่เปิดเผยกันได้เพราะมันเป็นสิ่งปกติของคนเราที่จะต้องมีความ สัมพันธ์ระหว่างชาย-หญิง และสังคมก็ต้องเปิดใจกว้างด้วย หรือสื่อก็ต้องมีส่วนช่วยให้เห็นว่าการที่เอาเรื่องพวกนี้มาพูด ไม่ใช่เรื่องที่ผิด ทำให้สังคมสร้างAwareness ขึ้นมา ทำให้เป็นสิ่งปกติธรรมดาที่พอเอ่ยถึงเรื่องทำนองนี้แล้ว เออ ทุกคนต้องมีสติก่อนทำนะ หรือถ้าทำต้องป้องกันนะ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องปกปิดหรือเขินอาย เพราะมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง เพียงแต่เราไม่พูดกันแค่นั้นเอง" จ๊ะย้ำ

สาวน้อยลูกพระเกี้ยวทิ้งท้ายว่า การรักที่ดีที่สุด คือ การรักให้มีสติและสร้างสรรค์ ความรักไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่รักสามารถออกแบบได้ว่าเราจะให้เป็นอย่างไร การที่เรามีสติอยู่เสมอ รู้ว่าจะทำอะไรต่อไป จะทำให้เราตอบคำถามตัวเองได้ว่าเรามีความรักไปเพื่ออะไร เพื่อเรื่องทางเพศเท่านั้นหรือไม่ เมื่อ มีสติบวกกับการสร้างสรรค์ให้มีความรักที่ดี ก็จะได้คำตอบว่าความรักไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องทางเพศเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของความผูกพันที่เราได้ใช้ชีวิต ได้ทำกิจกรรมกับคนที่เรารู้สึกดีด้วย แค่นั้นก็ถือเป็นความรัก และเป็นความรักในระยะยาว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น