++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

พระอาจารย์ม.มหาจุฬาฯ สอนวัยใสรักแบบใช้ “สติ”

14 กุมภาพันธ์ วัยรุ่นหลายคนจำได้ขึ้นใจว่าเป็นวันวาเลนไทน์ แต่ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันเหล่าวัยโจ๋ มักหลงลืม “วันมาฆบูชา” วันสำคัญทางพุทธศาสนาที่เกี่ยวข้องกับความรักได้เช่นกัน ซึ่งหากบรรดาวัยโจ๋ ได้ลองศึกษาธรรมะที่แฝงไว้ในหลักธรรมคำสอน ย่อมรู้ซึ้งได้ว่า ความรักตามหลักพุทธศาสนา สอดคล้องกับวันแห่งความรักได้อย่างกลมกลืน


สวนลุมพินี เป็นเขตพุทธาวาส ระหว่าง 14-18 ก.พ.54

พระนัตกร ชนาสโภ พระธรรมวิทยากร ฝ่ายบริหารฝึกอบรม ส่วนธรรมนิเทศ และ พระธวัชชัย ปัญญาวชิโร จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กล่าวถึงความรักในพุทธศาสนา ว่าเป็นความรักแบบหลักพรหมวิหาร4 ได้แก่ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา โดยในทางพุทธศาสนา ไม่ได้ห้ามความรักแบบหนุ่มสาว เพียงแต่พุทธศาสนาสอนให้รู้จักคิด ถามตัวเองว่าเราพร้อมไหมที่จะดูแลกัน ต้องคิดเรื่องเรียนก่อน ส่วนใครจะรักไปด้วย เรียนไปด้วยก็ทำได้ แต่ต้องยึดพรหมวิหาร4 มาเป็นหลักในความรักด้วย

“จากประสบการณ์อบรมตามสถานศึกษาต่างๆ ปัญหาความรักที่เจอในกลุ่มวัยรุ่น มักเป็นเรื่องไม่เข้าใจกับแฟน ไปด้วยกันไม่ได้ บางคนอกหักเสียใจ ไม่เคยมีความรักมาก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหญิง ก็จะคิดสั้น ประชดชีวิตตัวเอง ทำร้ายตัวเอง ให้ผู้ชายสนใจว่ารักเขาจริง ประชดชีวิต เพราะยังขาดหลักธรรมสร้างจิตใจให้เข้มแข็ง เราต้องสอนให้รู้จักคิดว่า ผู้ชายไม่ได้มีเพียงคนเดียวในโลก แต่ในสถานการณ์นั้น บางคนก็คิดไม่ได้ เพราะความรักทำให้หลงความงาม ความหล่อ ขาดหลักธรรมนำใจ แม้วัยรุ่นไม่ค่อยกล้ามาปรึกษาปัญหาเรื่องความรักมากนัก แต่ก็พอมี เพราะเขาไม่รู้จะไปถามใคร เขาก็คิดว่าคุยกับพระ น่าจะรับฟังได้ หากไปคุยเพื่อนหรือพ่อแม่ ก็รู้สึกว่ายังไม่เข้าใจ แต่คิดว่าธรรมมะน่าจะช่วยแก้ไขปัญหาความรักให้กับตนเองได้” พระนัตกร กล่าวถึงประสบการณ์การอบรม


พระนัตกร ชนาสโภ (ขวา) พระธวัชชัย ปัญญาวชิโร (ซ้าย)

พระนัตกรกล่าวต่อว่า หลายคนอาจตั้งข้อสงสัย ว่าพระสงฆ์จะมาอธิบายเรื่องความรักได้อย่างไร เพราะบางรูปบวชตั้งแต่เล็ก และไม่เคยใช้ชีวิตฆราวาส ซึ่งความจริง คือ พระสงฆ์ติดตามข่าว อ่านหนังสือ และศึกษาปัญหาต่างๆในสังคมตลอดเวลา จากนั้นก็นำหลักธรรมของพระพุทธเจ้ามาตอบ และใช้แก้ปัญหาได้

พระธรรมวิทยากร จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ยังให้หลักคิดเชื่อมโยงระหว่างวันวาเลนไทน์ กับวันมาฆบูชา ว่ามีความใกล้เคียง และกลมกลืนไปด้วยกันได้

“สาเหตุหนึ่งที่วัยรุ่นสนใจวาเลนไทน์มาก เพราะเป็นวันที่มีมานานหลายปีแล้ว แต่สำหรับวันแห่งความรักในทางพุทธศาสนา หรือวันมาฆบูชานั้น เราเพิ่งประชาสัมพันธ์ในรูปแบบนี้เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งวันมาฆบูชา เราจะระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ รวมถึงหลักธรรมเรื่องความรักที่พระพุทธองค์ตรัส คือ พรหมวิหาร4 ส่วนทางคริสต์ศาสนาก็เป็นเรื่องที่ดี ที่มอบความรักในรูปแบบการให้ความรู้สึกดีๆ มอบของขวัญ ดอกไม้ บอกรักกันและเป็นวันแห่งความรัก ทางพุทธศาสนาจึงประยุกต์ต่อเนื่องมาสอนวัยรุ่น ว่าการบอกรักนั้นอย่าไปเทจนหมดใจ เขาขออะไรก็ให้ จนบางคนพลาด ต้องเสียตัวเสียใจ ดังนั้นในวันใกล้ๆกัน เรานำเอาวันทางพุทธมาระลึกถึงหลักธรรมก่อนจะคิดจะทำอะไรที่พลาดพลั้ง จะได้ไม่ต้องเสียใจภายหลัง ทุกวันนี้วัฒนธรรมเสื่อมถอยไป เยาวชนก็รักจนหมดใจ ขาดสติ ต้องรู้จักนำหลักธรรมมารักอย่างมีสติมากขึ้น อาตมาคิดว่า วันที่ 14 ก.พ. เป็นวันที่ดี แต่บางครั้งอาจเป็นดาบสองคม หากเรารักแบบไม่มีสติ ก็เสี่ยงที่จะเกิดทุกข์ เยาวชนจึงต้องนำหลักธรรมทางพุทธศาสนา มาเป็นแนวทางในความรักเพื่อเดินให้ถูกทาง”



สำหรับในสัปดาห์วันสำคัญทางพุทธศาสนาปีนี้ พุทธศาสนิกชนที่สนใจ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมกับมหาวิทยาลัยแห่งสงฆ์ได้หลากหลาย โดยมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร) จัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลวันมาฆบูชาไปจนถึงวันที่ 18 ก.พ. 2554 โดยจัดให้มีนิทรรศการวันมาฆบูชาให้ได้ศึกษา และชมกิจกรรมของนักเรียนนักศึกษา ณ อาคารสุชีพ ปุญญานุภาพ และวันที่ 18 กุมภาพันธ์ (วันมาฆบูชา) ในเวลา 18.00 น.จะจัดกิจกรรมให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมเวียนเทียน ฟังโอวาทปาฏิโมกข์ ณ อาคารธรรมสถาน มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมพุทธศาสนาน่าสนใจ ซึ่งจัดขึ้นใจกลางกรุง คือ งานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลมาฆบูชา ประจำปี 2554 ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งที่องค์กรเครือข่ายทางพระพุทธศาสนาร่วมกันจัดขึ้น ณ สวนลุมพินี โดยประกาศให้เป็นเขตพุทธาวาส ตั้งแต่วันที่ 14-18 ก.พ.นี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น