++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

นิทานเซน 47 สอนวิชาแบบเซ็น

มีขโมยที่เพิ่งจะหัดกระทาโจรกรรม ลอบเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งซึ่งมีเพียงตาและหลาน เมื่อ
เข้าไปแล้วก็ลงไปแอบซ่อนตัวอยู่ใต้เตียงนอนของชายชรา บังเอิญชายชราได้อุ้มหลานมานั่งเล่นบน
เตียงนอนนั้น หลานชายซึ่งยังเล็กกาลังเล่นผลส้ม ปรากฏว่าได้ทาผลส้มหลุดจากมือกลิ้งหายไปใต้
เตียง ขโมยหน้าใหม่ตกใจคิดว่าถ้าปล่อยไว้ประเดี๋ยวชายชราก้มลงมาเก็บก็คงเห็นตนแน่ ก็เกิด
ปัญญาขึ้น จึงหยิบผลส้มออกไปวางข้างๆ รองเท้าของชายชรา ชายชราก้มลงไปเก็บ ขณะที่ก้มลง
นั้น เท้าของแกก็ไปเหยียบถูกส้มที่วางอยู่ข้างรองเท้า แกรู้ทันที จึงพูดขึ้นว่า
"พี่ชายที่ซ่อนตัวอยู่ใต้เตียง ออกมาเสียดีๆ จะดีกว่า"
ขโมยตกใจ รู้ว่าเจ้าของรู้แล้วก็คลานออกมาแต่โดยดี กราบไหว้อ้อนวอนขอให้ยกโทษ ชาย
ชราจึงว่า
"แกเป็นคนมีปัญญาเหมือนกัน แต่ยังไม่ถึงที่สุด แกเริ่มงานโจรกรรมมานานเท่าไรแล้ว ?"
"ครั้งนี้เป็นครั้งแรกครับ" ขโมยตอบ
"แกมีครูสอนบ้างไหม ?" ชายชราถาม
"ไม่มีเลย" หัวขโมยตอบ
"ไม่มีครูสอนก็มักพลาดอย่างนี้ ฉันประกอบโจรกรรมมาสิบกว่าปีแล้วไม่เคยถูกจับเลย วันนี้แก
มาเข้าบ้านโจรอย่างฉัน แต่ฉันไม่เอาโทษแกหรอก" ชายชราเปิดเผยความจริง
หัวขโมยพอรู้เรื่องก็อ้อนวอนขอเรียนวิชาโจรกรรม ชายชราตกลง แต่มีข้อแม้ว่า แกสอนอะไร
หัวขโมยจะต้องปฏิบัติตามทุกอย่าง แล้วก็กาหนดจะพาไปขโมยของที่บ้านเศรษฐีในคืนวันพรุ่งนี้ เมื่อ
ถึงเวลาทั้งสองก็ลอบเข้าไปในบ้านเศรษฐี ผู้คนกาลังนอนหลับสนิท ชายชราได้เปิดหีบสมบัติ ซึ่งเป็น
หีบโบราณขนาดใหญ่ สามารถบรรจุคนได้สบาย แกขนเอาสมบัติออกจากหีบจนหมด แล้วสั่งให้
หัวขโมยเข้าไปอยู่ในหีบ ชายชราปิดหีบสมบัติและลั่นกุญแจปล่อยทิ้งไว้ตนเองรีบหลบหนีออกไป
ฝ่ายขโมยพอถูกวิธีนี้เข้าก็ตกใจเป็นที่สุด คิดว่าเสียรู้ขโมยแก่เสียแล้ว จึงครุ่นคิดหาอุบายหาทางออก
อยู่ครู่ใหญ่ก็คิดออก ด้วยสมัยโบราณ คนจีนไม่ว่าหนุ่มหรือแก่จะไว้ผมยาวกันทั้งนั้นและรัดเกล้าเป็น
มวยไว้บนศีรษะ หัวขโมยหนุ่มจึงแก้รัดเกล้า แล้วปล่อยให้ผมสยายยาวรุงรัง ฉีกเสื้อผ้าขาดวิ่นให้ดู
คล้ายภูตผี แล้วทาเสียงตึงตังอยู่ในหีบ ข้างเศรษฐีได้ยินเสียงก็ตกใจ งัวเงียลุกขึ้นมาเปิดหีบดูพอหีบ
เปิดเจ้าขโมยก็ทาเสียงกรีดร้องหลอกหลอน จนเศรษฐีขวัญหนีดีฝ่อคิดว่าเป็นปีศาจ เลยล้มสลบลง
ขโมยหนุ่มได้โอกาสก็รีบหลบหนีออกไป และไปต่อว่าชายชราต่างๆ นานา ชายชราจึงอธิบายว่า
"ถ้าฉันไม่ทากับแกเช่นนั้น ปัญญาของแกจะเกิดหรือ แกจงรู้เถิดว่าความสามารถนั้นถ่ายทอด
กันไม่ได้เพราะเป็นของแต่ละคนฉันทาเช่นนี้ก็เพื่อปลุกปัญญาแกให้เกิด เมื่อถึงคราวอับจนจะได้นา
ออกมาใช้แก้ไขได้เอง แกจะมัวแต่พึ่งคนอื่นตลอดเวลาจะมีประโยชน์อะไร ถ้าวันหนึ่งไม่มีคนแนะนา
แกจะมิตายหรือ เมื่อถึงคราวอับจนแกสามารถหลุดออกมาได้เช่นนี้จึงใช้ได้"
ขโมยหนุ่มได้ฟังดังนั้นก็เข้าใจตลอด
การสอนแบบเซ็น จะไม่ใช้วิธีแบบป้อนข้าวป้อนน้าเด็ดขาด แต่จะใช้วิธีตั้งโจทย์ให้ศิษย์ขบคิด
เอาเอง โดยไม่แนะอะไรให้ทั้งสิ้นขบปัญหาแตกเมื่อไรก็สาเร็จเมื่อนั้น เซ็นจึงมีปริศนาธรรมมากมาย
ท่านพร้อมที่จะไปกระทาโจรกรรมกับขโมยเฒ่าหรือยัง ?
คั

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น