++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2552

จิตแพทย์แนะดูแลเด็กเล็กอธิบายเสื้อแดงพฤติกรรมชั่วป้องก้าวร้าวรุนแรง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    
       จิตแพทย์ แนะใช้วันครอบครัวให้คุ้มค่า เตือนเสพสื่อระวังเครียด พักเป็นระยะๆ ชี้ดูแลเด็กเล็กอธิบายสถานการณ์พฤติกรรมเถื่อนเสื้อแดงป้องกันก้าวร้าว รุนแรง
      
       นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักสุขภาพจิตสังคม กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ประชาชนมีความตึงเครียดจากสถานการณ์การชุมชุนของกลุมนปช.ในช่วงหลายวันที่ ผ่านมา ขณะที่เมื่อคืนวันที่ 13 เมษายน ซึ่งมีการสลายผู้ชุมนุมโดยไม่ไม่รุนแรงมากนักโดยการสูญเสียค่อนข้างน้อย ทำให้ประชาชนมีความรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เส้นทางการจราจรดีขึ้น ทุกอย่างกลับเป็นปกติ หากรัฐบาลให้ความมั่นใจในความมปลอดภัยซึ่งเป็นความต้องการขั้นพื้นฐานอยู่ แล้ว ทุกอย่างจะต้องกลับมาดีขึ้นแน่นอนส่วนอาการของผู้ได้รับบาดเจบนั้นอยู่ ไอซียู 2 ราย
      
       “จริงๆ ช่วงนี้เป็นวัดหยุดวันครอครัวถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของปี เวลาที่ผ่านไปเป็นเวลาสำคัญในครอบครัว ดังนั้นจึงควรใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับครอบครัวให้มากที่สุด เพราะหากครอบครัวดี สังคมก็จะดีด้วยโดยการ ใช้เวลาอย่างเหมาะสม ดูแลเอาใจใส่เด็กและสูงอายุ ไม่ใช่สนเรื่องการเมืองอย่างเดียว หากเราไม่ได้รับผิดชอบโดยตรง ก็อยากให้ใช้เวลากับครอบครัวถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญยิ่งกว่า”นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
      
       นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า ความเครียดเกิดขึ้นเนื่องจากมีความเห็นต่างกัน ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยง ไม่ให้มีข้อขัดแย้ง ซึ่งปกติคนทั่วไปจะมีความเครียดสะสมที่มาจากปัญหาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ ครอบครัว ผู้ป่วยในครอบครัว จึงควรใช้เวลาในการพูดคุยแก้ปัญหาเรื่องราวๆ ต่างๆ เหล่านี้ ดีกว่าโดยเน้นให้ รู้จักหน้าที่ มีการแสดงออกที่เหมาะสม จัดเรียงลำดับความสำคัญ อะไรมีความสำคัญมากที่สุด
      
       ส่วนการเสพสื่อไม่ว่าจะเป็นวิทยุหรือทีวีนั้น นพ.ทวีศิลป์ กลาวว่า หน้าที่ของสื่อในการเสนอภาพข่าวเพื่อดึงความสนใจของคนที่ดูสื่ออยู่ด้วยทั้ง ภาพทั้งเสียงมีความตื่นเต้นเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ภาพความรุนแรงไม่สงบทำให้เกิดความตื่นเต้น ความเครียดขึ้นได้ดังนั้นให้ดูว่าหากเป็นข่าวที่รับรู้มาแล้วระยะหนึ่งไม่มี ข่าวใหม่ ให้พักฟังข่าวเป็นระยะๆ โดยไม่เปิดทีวีค้างไว้ จะช่วยให้ความเครียดลดลงมากทั้งนี้ ทั้งนี้ ครอบครัวควร ปกป้องเด็กกับผู้สูงอายุ ที่ภาพข่าวอาจจะกระตุ้นให้เกิดเครียดทั้งร่างกายและจิตใจ เด็กอาจหงุดหงิดก้าวร้าวไม่รู้ตัว โดยเฉพาะเด็กเล็กๆ ต่ำกว่าวัยประถมหรือชั้นประถม โดยคอยอธิบายว่า พฤติกรรมอย่างนั้นสังคมไม่ยอมรับไม่เหมาะสม ส่วนผู้สูงอายุซึ่งปรับตัวปรับใจได้ยากกว่าคนทั่วป อาจเกิดความวิตกกังวล เกิดความรู้สึกไม่มั่นคงปลอดภัยต่อทรัพย์สินชีวิต เป็นภัยใกล้ตัวก็จะวิตกมาก นอนไม่หลับหรือบ่นพูดซ้ำๆ ก็ขอให้ลูกหลานให้ความเข้าใจ เพราะเป็นอาการปกติของผู้สูงอายุ

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000042017

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น