โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ | 23 เมษายน 2552 07:45 น. |
นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) มีมติชัดเจนในการเพิ่มสิทธิประโยชน์การบำบัดรักษาผู้ป่วยที่ติดสารเสพติดที่ สมัครใจโดยการให้สารเมทาโดนทดแทนสารเสพติดในระยะยาว ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา แต่ในทางปฏิบัติ พบว่า เกิดปัญหาในการให้บริการ เนื่องจากการสื่อสารระหว่างหน่วยงานของ สปสช.โดยเฉพาะสถานพยาบาลในต่างจังหวัด ยังไม่มีความเข้าใจ ทำให้ผู้ป่วยที่ต้องการได้รับการบำบัดไม่สามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุข
“ปัจจุบัน หน่วยบริการสาธารณสุข ยังเข้าใจว่า การให้เมทาโดนไม่อยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ แต่ได้ฟรีเฉพาะในกรุงเทพมหานครเท่านั้น ดังนั้น ในต่างจังหวัดแทบจะไม่มีบริการส่วนนี้เลย ขณะที่โรงพยาบาลชุมชนบางแห่งก็ต้องควักเงินของโรงพยาบาลออกเอง ซึ่งมีผู้ติดสารเสพติดเพียง 2,000-3,000 รายเท่านั้นที่ได้รับเมทาโดนทดแทนสารเสพติด” นายนิมิตร์ กล่าว
นายนิมิตร์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการยกร่างแนวปฏิบัติในการให้เมทาโดนในระยะยาวเพื่อบำบัด รักษาผู้ป่วยที่ติดสารเสพติดที่สมัครใจ เพื่อให้สามารถปฏิบัติได้จริงในหน่วยบริการทุกระดับ โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์จึงจะแล้วเสร็จ จากนั้นทำหนังสือชี้แจงหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องยืนยันว่า การให้สารเมทาโดนเป็นสิทธิประโยชน์ที่ผู้ป่วยควรได้รับอย่างทั่วถึง โดยที่ สปสช.เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายโดยแยกจากงบเหงาจ่ายรายหัว หากสถานพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยมากก็ได้รับงบประมาณมากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ ต้องปรับแนวคิดการให้บริการว่าเป็นการบำบัดในระยะยาวไม่ใช่ให้สารเมทาโดน แล้วผู้ป่วยจะหยุดการให้สารเสพติดทันที แต่เป็นการลดอันตรายจากการใช้สารเสพติด การลดปริมาณเมทาโดนลงจะทำให้การรักษาบำบัดไม่ได้ประโยชน์
“การ รักษาที่มีประสิทธิภาพซึ่งมีการศึกษาข้อมูลแล้วพบว่า ควรให้เมทาโดนกับผู้ติดสารเสพติด 60-120 มิลลิกรัม จึงจะทดแทนการใช้สารเสพติดได้ ขณะเดียวกัน หากให้เมทาโดนน้อยกว่านี้ถือเป็นการสูญเปล่า ซึ่งการให้สารเมทาโดนทดแทนสารเสพติดนั้นช่วยให้ผู้ป่วยเลิกยาเสพติดได้เพียง 10% เท่านั้น เนื่องจากเมื่อเลิกยาเสพติดได้แล้วมักจะกลับมาเสพซ้ำ อย่างไรก็ตาม การให้เมทาโดนเป็นการช่วยลดอันตรายจากการใช้ยาเสพติดและสามารถเลิกได้เองใน อนาคตนอกจากช่วยในการลดเลิกยาเสพติดแล้ว ยังช่วยลดความรุนแรงในครอบครัว เนื่องจากช่วยลดแรงกดดันในการหาเงินมาซื้อสิ่งเสพติดทำให้ไม่ต้องขโมย หรือปล้นจี้เกิดเป็นปัญหาอาชญากรรม”นายนิมิตร์ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น