++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2552

ระวังหลุมพรางแห่งความหายนะ

โดย ชัยสิริ สมุทวณิช

ผมรับทราบจากข่าวสาร นสพ.ว่าทางคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลกำลังมีความเห็นพ้องกันว่า
ความวุ่นวายทางการเมืองในขณะนี้อยู่ในขั้นที่รุนแรง
ไม่เฉพาะแต่เกิดความแตกแยกระหว่างคนในชาติ
และสถาบันพระมหากษัตริย์ถูกโจมตีจาบจ้วงจากกลุ่มคนที่ทรยศต่อชาติบ้านเมือง
นอกจากนี้ก็ยังมีการประท้วงซึ่งนำไปสู่การจลาจล
จนถึงขั้นมีการปิดถนนและยุยงทำให้ทรัพย์สินของบ้านเมืองเสียหาย

รัฐบาลก็เลยคิดแบบ "มักง่าย" ว่า ถ้าหันหน้าเข้าหากันได้

เรื่องก็น่าจะจบเสียที

แต่รัฐบาลหาได้มองไปถึงสมุหฐานของความขัดแย้ง
กล่าวให้ง่ายขึ้นและก็สั้นที่สุด
คือไม่ได้ดูว่าตัวการที่ทำให้เกิดเรื่องคือใคร

ผมมองเห็นครับ ว่าปัญหามันเกิดจากคนคนเดียว
คือคุณทักษิณแกยังไม่ยอมที่จะหยุด

แกไม่ยั้งมือที่จะก่อกวน จนกว่าแกจะได้ทุกอย่างคืนมา

ทุกอย่างของแก คือเงินทอง ทรัพย์สิน ไม่ว่าจะโกงมาหรือไม่
และแกต้องการกลับมามีอำนาจและอยากขึ้นเวทีการเมืองอีกครั้ง

ผมก็ไม่รู้ว่า "ความอยาก"
ของคุณทักษิณนั้นมันถึงกับต้องแลกด้วยการทำให้บ้านเมืองย่อยยับไปเชียวหรือ

แต่รัฐบาลกลับไปคิดว่า
เรื่องมันจะได้ด้วยการคิดแบบมักง่ายว่าเราควรร่วมใจกัน "สมานฉันท์" หรือ
"ปรองดอง" กัน

คิดน่ะคิดง่าย และคิดได้ครับ

แต่การตบมือข้างเดียวก็เหมือนเอาไม้ไปรุนขี้

เพราะอะไรครับ

ก็เพราะที่ผ่านมา
ผมยังไม่เคยได้ยินพวกแกนนำเสื้อแดงหรือคุณทักษิณแกอยากจะ "สมานฉันท์"
หรือ "ปรองดอง" กับใครเลย

แกคิดว่ามันเลยเวลามานานแล้ว

แกคิดไกลไปถึงการปฏิวัติประชาชน แล้วยังอ้างมาติน ลูเธอร์ คิง
เสียอีก ทั้งๆ ที่ตัวแกกับมาติน ลูเธอร์ คิง นั้น เทียบกันไม่ได้

คนหนึ่งเป็นวีรบุรุษ

แกมันเป็นโมฆบุรุษ เป็นคนหนีตาย เป็นคนมีค่าตัว
และเป็นผู้ร้ายที่ถูกประกาศจับไปทั่วโลก เป็นคนคดโกง ไม่ใช่ลูเธอร์ คิง
ที่สู้เพื่อประชาชนโดยไม่ได้ไปคดโกงใคร
แต่มีอุดมการณ์ที่ไม่ใช่ใฝ่แต่อำนาจ

ทักษิณคิดแต่จะเอาเงิน เอาแต่ได้ หวังแต่ประโยชน์ของตน

ผิดกันนะครับ

ดังนั้น ไอ้ความคิดจะปรองดอง สมานฉันท์ มันจึงไม่เข้าท่า
และยังคิดไปอีกว่าควรนิรโทษกรรม แม้ว่าจะไม่เกี่ยวกับทักษิณ
เพราะติดอาญาแผ่นดินก็เถอะ

ผมนั้นเห็นใจพวกบ้านเลขที่ 111 เพราะเป็นผีนอนอยู่ในโลงศพมาหลายปี

แต่ถ้าจะปลุกให้คืนชีพขึ้นมาได้นั้น

ของอย่างนี้รัฐบาลควรคิดให้รอบคอบ และควรมีเงื่อนไขที่รัดกุมเสียก่อน

ไม่เช่นนั้นมันจะยิ่งวุ่นวายกันไปใหญ่

จริงอยู่ที่ในหมู่คนบ้านเลขที่ 111
นั้นมีคนจำนวนไม่น้อยเป็นคนที่มีศักยภาพ มีคุณภาพ และช่วยชาติได้
หากใจบริสุทธิ์

ครับ... ผมก็หวังว่ารัฐบาลจะคิดใหม่ในเรื่องเหล่านี้ว่าจะสมานฉันท์

แต่ผมเห็นด้วยว่า ทุกพรรคการเมืองควรหารือร่วมกันก่อน

ถือว่าเป็นการชิมลาง

หมดเรื่องนี้แล้ว ผมอยากเขียนเรื่องปรากฏการณ์ที่ผมเห็นว่ามันผิดปกติ

คือการลอบสังหารบุคคลสำคัญ

ตั้งแต่กรณีพยายามฆ่าองคมนตรี, การยิงระเบิดใส่ศาลรัฐธรรมนูญ

ล่าสุดหมายเอาชีวิตคุณสนธิ ลิ้มทองกุล

และปัจจุบันก็จะเอาชีวิต คุณอภิสิทธิ์ เข้าอีกคนด้วย

นี่มันบ้านเมืองไร้ขื่อไร้แปแล้วหรือไงครับ

คนกลุ่มไหนคิดการใหญ่ถึงเพียงนี้

ผมกำลังคิดว่า มันเป็นขบวนการที่วางแผนเชื่อมโยงกันไม่ใช่กลุ่มเดียว

แต่ต้องมี 3-4 กลุ่ม เหมือนที่คุณจิตตนาถ ลิ้มทองกุล แกพูดไว้ไม่มีผิดหรอก

เพราะอะไรหรือครับ

ก็เพราะว่าลักษณะการดำเนินการ มันไม่ใช่เป็นกลุ่มเดียว

พวกที่จะฆ่าองคมนตรีนั้น มันเป็นเหมือนพวกจ้างวานธรรมดาๆ

ส่วนคนที่ลอบยิงคุณสนธิ นั้นน่าจะเป็นคนในเครื่องแบบอาจเป็นทหาร

คนที่ไปยิงศาลรัฐธรรมนูญ นั่นก็อีกพวกหนึ่ง

แต่จังหวะเวลาที่ติดต่อกัน มันเป็นการเคลื่อนไหวที่สัมพันธ์กัน
และหวังผลให้เกิดเป็นปัญหาทางการเมืองทั้งสิ้น

แบบนี้แล้ว เราเกือบไม่ต้องคาดหมายอะไรทั้งสิ้น

แต่ฟันธงได้เลยว่าขบวนการนี้ต้องการล้มรัฐบาล
และต้องการที่จะเปลี่ยนขั้วอำนาจที่ชัดเจนอย่างยิ่ง

ที่น่ากลัวที่สุดก็คือ

คนที่อยู่ในเครือข่าย น่าจะใหญ่อยู่ในกองทัพ

ซึ่งก็หมายความว่า เราอาจจะหันหลังกลับจากระบอบประชาธิปไตย

แต่จะได้เผด็จการแบบเบ็ดเสร็จกลับมา

และก็น่ากลัวอย่างยิ่งว่า สถาบันสูงสุดที่ประชาชนให้ความเคารพรัก
อาจจะมีอันเป็นไป

ขบวนการนี้จะต้องสถาปนา "รัฐใหม่"
ซึ่งสอดคล้องกับที่คนสวมเสื้อแดง และที่คุณทักษิณเคยพูดมาตลอด

และถ้าคนไทยฮึดและลุกขึ้นสู้

มันก็จะลุกลามขึ้นเป็นสงครามทั่วประเทศ

ประเทศไทยก็จะจมปลักอยู่ในหุบเหวแห่งความหายนะไปอีกหลายปีนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น