อ า ภั พ ๑ ๘ ป ร ะ ก า ร
ได้มีเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่งได้ส่งอีเมล์มาถามว่า "อาภัพ ๑๘ ประการ มีอะไรบ้าง" ซึ่งพวกเราคงจะคุ้นเคยกับคำอธิษฐานประจำวันที่อยู่ในหนังสือสวดมนต์ ตอนหนึ่งว่า "ขอให้ข้าพเจ้าไม่ถึงแห่งความอาภัพ ๑๘ ประการ" ดังนั้นจึงขอโอกาสนี้ยกเอาตอนหนึ่งในหนังสือ " วิมุตติรัตนมาลี " ซึ่งพระเดชพระคุณพระพรหมโมลี (วิลาศ ญาณวโร ป.ธ.๙) ท่านได้รจนาไว้ และได้รับรางวัลชนะเลิศวรรณกรรมไทย ประเภทร้อยแก้ว สาขาศาสนา เมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๑๖ ดังนี้
" จริงอยู่ นับตั้งแต่ได้ก่อสร้างพระกฤษฎาภินิหารมา (บุญอันยิ่งที่ทำไว้) จนกระทั่งได้รับสัทธยาเทศคำพยากรณ์ จากสำนักแห่งองค์สมเด็จพระชินวรสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าเป็น นิยตโพธิสัตว์ คือพระโพธิสัตว์ผู้เที่ยงแท้ที่จักได้สำเร็จแก่พระปรมาภิเษกสัมโพธิญาณใน อนาคตกาลแล้ว ในขณะที่ก่อสร้างอบรมบ่มพระพุทธบารมีอยู่อย่างมโหฬาร ต้องสังสรณาการท่องเที่ยวเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสายธารแห่งห้วงมหรรณพภพ สงสาร นับด้วยแสนโกฏิชาติเป็นประมาณหรือมากยิ่งกว่านั้น พระบรมโพธิสัตว์ผู้เที่ยงที่จะได้บรรลุพระโพธิญาณทั้งหลาย ย่อมได้รับอานิสงส์แห่งพระพุทธบารมีที่ตนบำเพ็ญเป็นหลักเกณฑ์แน่นอน ๑๘ ประการ คือ
๑. ไม่เป็นคนมีจักษุบอดมาแต่กำเนิด
๒. ไม่เป็นคนหูหนวกมาแต่กำเนิด
๓. ไม่เป็นคนบ้า
๔. ไม่เป็นคนง่อยเปลี้ย
๕. ไม่เป็นคนใบ้
๖. ไม่เกิดในประเทศป่าเถื่อน
๗. ไม่เกิดในท้องแห่งนางทาสี
๘. ไม่เป็นคนมีความเห็นผิดเป็นนิยตมิจฉาทิฐิ
๙. ไม่เป็นสตรีเพศ
๑๐. ไม่ประกอบกรรมอันเป็นอนันตริยกรรม
๑๑. ไม่เป็นคนมีโรคเรื้อน
๑๒. เมื่อไปเกิดในกำเนิดแห่งสัตว์เดียรฉาน ย่อมเป็นสัตว์ที่จัดอยู่ในประเภทมีกายไม่เล็กกว่านกกระจาบ และมีกายไม่ใหญ่กว่าช้าง
๑๓. ไม่ไปเกิดในกำเนิดแห่งขุปปิปาสิกเปรต นิชฌามตัณหิกเปรต แลกาลกัญชิกาสุรกาย
๑๔. ไม่ไปเกิดในอเวจีมหานรก และโลกันตนรก
๑๕. เมื่อไปเกิดเป็นเทวดาในกามาวจรสวรรค์ คือสวรรคเทวโลก ๖ ชั้น ก็ไม่เกิดเป็นเทวดาซึ่งนับเนื่องเข้าในเทวดาจำพวกหมู่มาร
๑๖. เมื่อเกิดเป็นองค์พระพรหม ณ เบื้องบรมรูปาพจรพรหมโลก ก็ไม่ไปเกิดในปัญจสุทธาวาสพรหมโลก ทั้งนี้ก็เพราะว่าพรหมโลกชั้นปัญจสุทธาวาสนี้ เป็นภูมิที่อยู่แห่งพรหมอนาคามีอริยบุคคลโดยเฉพาะ
๑๗. ไม่ไปเกิดใน อรูปพรหมโลก เลยเป็นอันขาด
๑๘. ไม่ไปเกิดในจักรวาลอื่นเลยเป็นอันขาด "
สร้างบุญเมื่อใด อย่าลืมตั้งจิต ให้พ้นจากความอาภัพ 18 ประการ ที่จะขวางการสร้างความดีของเราด้วยนะครับ
จากใจธรรมะสวัสดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น