++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2552

9 วิธี ดูแลผู้สูงอายุสุขภาพดี/อ.นพ.สมบูรณ์ อินทลาภาพร

9 วิธี ดูแลผู้สูงอายุสุขภาพดี/อ.นพ.สมบูรณ์ อินทลาภาพร
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์


ใครมีผู้สูงอายุ ที่ต้องดูแล ช่วยเหลือตัวเองได้น้อย
จะรู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งวิกฤตเศรษฐกิจปีนี้ รุนแรงกว่าครั้งใดๆ
การป้องกันดูจะเป็นยาขนานเอกที่ได้ผลเกินคาด
วันนี้เรามีวิธีดูแลสุขภาพผู้สูงอายุมาฝาก

1. เลือกอาหาร
โดยวัยนี้ร่างกายมีการใช้พลังงานน้อยลงจากกิจกรรมที่ลดลง
จึงควรลดอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล และไขมัน
ให้เน้นอาหารโปรตีนจากเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะปลา
และเพิ่มแร่ธาตุที่ผู้สูงอายุมักขาด ได้แก่ แคลเซียม สังกะสี และเหล็ก
ซึ่งมีอยู่ในนม ถั่วเหลือง ผักผลไม้ ธัญพืชต่างๆ และควรกินอาหารประเภทต้ม
นึ่ง ย่าง อบ แทนประเภทผัด ทอด จะช่วยลดปริมาณไขมันในอาหารได้
นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสหวานจัด เค็มจัด
และดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 6 - 8 แก้วต่อวัน

2. ออกกำลังกาย หากไม่มีโรคประจำตัว
แนะนำให้ออกกำลังกายแบบแอโรบิกสัก 30 นาทีต่อครั้ง ทำให้ได้สัปดาห์ละ 3 -
4 ครั้งจะเกิดประโยชน์ต่อหัวใจและหลอดเลือดอย่างมาก
โดยขั้นตอนการออกกำลังกายจะต้องค่อยๆ เริ่ม มีการยืดเส้นยืดสายก่อน
แล้วค่อยๆ เพิ่มความหนักขึ้นจนถึงระดับที่ต้องการ ทำอย่างต่อเนื่อง
จนถึงระยะเวลาที่ต้องการ จากนั้นค่อย ๆ ลดลงช้า ๆ และค่อย ๆ หยุด
เพื่อให้ร่างกายและหัวใจได้ปรับตัว

3. สัมผัสอากาศที่บริสุทธิ์ จะช่วยลดโอกาสการเกิดโรคได้
อาจเป็นสวนสาธารณะใกล้ๆ สถานที่ท่องเที่ยว
หรือการปรับภูมิทัศน์ภายในบ้านให้ปลอดโปร่ง สะอาด อากาศถ่ายเทสะดวก
มีการปลูกต้นไม้ จัดเก็บสิ่งปฏิกูลให้เหมาะสม
เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค และสามารถช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้
หรือหอบหืดได้

4. หลีกเลี่ยงอบายมุข ได้แก่ บุหรี่และสุรา
จะช่วยลดโอกาสการเกิดโรค หรือลดความรุนแรงของโรคได้
ทั้งลดค่าใช้จ่ายในการรักษา และยังช่วยป้องกันปัญหาอุบัติเหตุ
อาชญากรรมต่างๆ อันเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมในขณะนี้

5. ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
โดยเลือกกิจกรรมให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลและโรคที่เป็นอยู่
ส่งเสริมสุขภาพให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรง
ปรับสภาพแวดล้อมในบ้านให้ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหรือการหกล้ม
6. ควบคุมน้ำหนักตัวหรือลดความอ้วน โดยควบคุมอาหารและออกกำลังกาย
จะช่วยทำให้เกิดความคล่องตัว ลดปัญหาการหกล้ม และความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ
เช่น โรคข้อเข่าเสื่อม และโรคหลอดเลือดหัวใจ เป็นต้น

วิธีประเมินว่าน้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์อ้วนหรือไม่
โดยคำนวณจากดัชนีมวลกาย หรือเรียกสั้น ๆ ว่า BMI (body mass index)
ถ้าน้ำหนักตัวเกิน ค่า BMI จะอยู่ระหว่าง 23 - 24.9 กิโลกรัม/เมตร2
แต่ถ้าอ้วนล่ะก็ ค่า BMI จะตั้งแต่ 25 กิโลกรัม/เมตร2 ขึ้นไป

สูตร ดัชนีมวลกาย(BMI) = น้ำหนักตัว(กิโลกรัม)/ส่วนสูง (เมตร)2

อย่างผู้สูงอายุ หนัก 67 กิโลกรัม สูง 160 เซนติเมตร

ดัชนีมวลกาย(BMI) = 67/(1.6) 2 = 26.17 ถือว่าเข้าข่ายอ้วน

7. หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ไม่เหมาะสม เช่น การซื้อยากินเอง
การใช้ยาเดิมที่เก็บไว้มาใช้รักษาอาการที่เกิดใหม่
หรือรับยาจากผู้อื่นมาใช้ เนื่องจากวัยนี้
ประสิทธิภาพการทำงานของตับและไตในการกำจัดยาลดลง
ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดพิษจากยาหรือผลข้างเคียง อาจมีแนวโน้มรุนแรง
และเกิดภาวะแทรกซ้อนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ฉะนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาจะดีที่สุด

8. หมั่นสังเกตอาการผิดปกติต่างๆ ของร่างกาย เช่น คลำได้ก้อน
โดยเฉพาะก้อนโตเร็ว แผลเรื้อรัง มีปัญหาการกลืนอาหาร กลืนติด กลืนลำบาก
ท้องอืดเรื้อรัง เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ไอเรื้อรัง ไข้เรื้อรัง
เหนื่อยง่าย แน่นหน้าอกหรือถ่ายอุจจาระผิดปกติ มีอาการท้องเสียเรื้อรัง
ท้องผูกสลับท้องเสีย ถ้าอย่างนี้ล่ะก็พามาพบแพทย์ดีที่สุด

9. ตรวจสุขภาพประจำปี แนะนำให้ตรวจสม่ำเสมอเป็นประจำทุกปี
หรืออย่างน้อยทุก 3 ปี โดยแพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย
และอาจมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
เพื่อหาปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดแข็ง เช่น โรคเบาหวาน
โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง ตรวจหาโรคมะเร็งที่พบบ่อย ได้แก่
มะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก และยังมีตรวจการมองเห็น
การได้ยิน ตลอดจนประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุด้วย

นอก จากการดูแลสุขภาพกายแล้ว สุขภาพใจก็เป็นสิ่งสำคัญ
การทำจิตใจให้แจ่มใส มองโลกในแง่ดี ไม่เครียดหรือวิตกกังวลกับเรื่องต่างๆ
มากจนเกินไป รวมถึงการเข้าใจและยอมรับตนเองของท่านและผู้อื่น
จะช่วยให้เป็นผู้สูงอายุที่สุขภาพดีอย่างแท้จริง

ว่าแต่อย่าลืมทำกันนะครับ จะดีต่อผู้สูงอายุในบ้านและครอบครัว

เรียบเรียง: ยุพดี ห่อเนาวรัตน์

--------------------------------------------------------------

ผู้รักสุขภาพเชิญทางนี้

ในโอกาสครบรอบ 121 ปี รพ.ศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
ม.มหิดล เชิญชวนประชาชนร่วมงาน "121 ปี ศิริราช เดิน-วิ่งผสานชุมชน"
ในวันอาทิตย์ที่ 19 เม.ย. ที่ รพ.ศิริราช เวลา 06.00 น. ประกอบด้วย
วิ่งแข่งมินิมาราธอน ระยะทาง 11 ก.ม.
ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
และเดินเพื่อสุขภาพ ระยะทาง 5 ก.ม. ภายในงานมีบริการตรวจสุขภาพ ซุ้มอาหาร
เครื่องดื่ม ผลไม้ และที่จอดรถ 600 คัน ไว้บริการ ลงทะเบียน 250 บาท
พร้อมรับเสื้อที่ระลึก และเหรียญเมื่อเข้าเส้นชัย สมัครได้ที่
ชมรมกรีฑาศิริราช ตึกผู้ป่วยนอกเก่า ชั้น 2 โทร. 0 2419 9547, 0 2419
7433 พิเศษ! ผู้มีน้ำหนัก 80 กก.ขึ้นไป
สมัครเดินฟรีและรับของที่ระลึกเมื่อเข้าเส้นชัย ติดต่อได้ที่
งานประชาสัมพันธ์ ตึกอำนวยการ ชั้น 1 โทร. 0 2419 8927-8
รายได้สนับสนุนโครงการพัฒนาศิริราชสู่สถาบันการแพทย์ชั้นเลิศในเอเชีย
อาคเนย์

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000042377

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น