++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

สั่งแบนรายการวิทยุดีเจดัง “สุรสีห์ ผาธรรม” เหตุยืนข้างพันธมิตรฯช่วยทวงคืนปราสาทพระวิหาร

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 23 กรกฎาคม 2551 17:42 น.

อุบลราชธานี- การเมืองท้องถิ่นเมืองดอกบัว สั่งแบนรายการ “โสกันสองโมงเช้า” ที่มีดีเจผู้กำกับตุ๊กตาทอง “สุรสีห์ ผาธรรม” จัดรายการ อ้างเหตุวางตัวไม่เป็นกลาง เหตุนำประเด็นทวงคืนปราสาทเขาพระวิหาร และสนับสนุนการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯมาออกรายการ สุรสีห์ ย้ำจุดยืนสื่อไม่จำเป็นต้องวางตัวเป็นกลาง หากทำแล้วประเทศชาติจะเสียหาย ส่วนเจ้าของสถานีครวญ ได้พูดคุยให้เลี่ยงการนำเสนอประเด็นการเมืองไว้ก่อน แต่เมื่อไม่ฟังก็ต้องให้หยุดไปก่อน ไม่ให้เกิดความแตกแยกในบ้านเมือง
       

       วันนี้ (23 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ผ ู้สื่อข่าวประจำจังหวัดอุบลราชธานี ได้รับแจ้งว่า รายการวิทยุของสถานีชุมชนคลื่น 97.5 อปพร.ที่มี นายสุรสีห์ ผาธรรม ผู้กำกับภาพยนตร์ตุ๊กตาทองและเพื่อน เป็นผู้ดำเนินรายการวิเคราะห์ข่าวระหว่างเวลา 08.00-09.00 น.จันทร์-ศุกร์ ใช้ชื่อรายการ “โสกันสองโมงเช้า” ประกาศอำลาผู้ฟังรายการ โดยให้เหตุผลยุติรายการ เพราะได้รับแจ้งจากนายสถานี ว่า มีผู้ฟังร้องเรียนจัดรายการไม่เป็นกลาง เนื่องจากนำเสนอข่าวสารการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไ ตย และนำเสนอข่าวทวงคืนเขาพระวิหาร จะทำให้บ้านเมืองแตกแยกมากยิ่งขึ้น จึงถูกขอให้ยุติการจัดรายการช่วงนี้ไปก่อน
      
       ต่อมาผ ู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายสุรสีห์ ว่า รูปแบบการจัดรายการ “โสกันสองโมงเช้า” เป็นรายการสาระเชิงข่าวสาร นำเสนอข่าวความเคลื่อนไหวต่างๆ ในท้องถิ่นและจากส่วนกลางครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม บันเทิง และการเมือง โดยนำรายละเอียดเหตุการณ์มาเล่าให้ผู้ฟังทราบ และช่วงท้ายรายการมีการตั้งประเด็นให้ผู้ฟังเข้ามาร่วมแสดงความเห็น ไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน
      
       ช่วงนี้ความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่น่าสนใจ คือ การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกรณีเขาพระวิหาร ที่ไทยอาจต้องสูญเสียดินแดนเพิ่มเติมจากการทำหน้าที่ที่ผิดพลาดของรัฐบาล
      
       “ถือเป็นหน้าที่ของสื่อมวลชนที่ต้องบอกให้ประชาชน ทราบว่า กำลังเกิดอะไรขึ้นในประเทศนี้ ถ้าจะกล่าวหาว่าตนและทีมงานเลือกข้างก็ถูกต้อง เพราะวันนี้สื่อมวลชนจะมัวแกล้งทำตัวเป็นกลางแล้วประเทศชาติเสียหาย จะเป็นสื่อมวลชนไปทำไม” นักจัดรายการรายนี้ กล่าวและว่า
      
       เ มื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ประชาชนจะได้รู้เสียที และเลือกเลยว่าควรจะยืนอยู่ข้างไหน เพราะความจริงสังคมแตกแยกกันชัดเจนแล้ว สำหรับการดำเนินรายการของสถานีวิทยุชุมชน ไม่ใช่จะมีรายการของตนรายการเดียวที่นำเสนอข้อมูลของกลุ่มพันธมิตรฯ หรือกรณีเขาพระวิหาร ยังมีสถานีวิทยุชุมชนอื่นอีก เช่น คลื่น 101.2 เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งดำเนินรายการโดย ผศ.วิรัตน์ ทองเรือง ก็ประกาศตัวชัดเจนยืนข้างพันธมิตรฯ และต้องการทวงผืนดินของไทยบนเขาพระวิหารด้วย
      
       แต่สถานีวิทยุดังกล่าวไม่ได้รับผลกระทบ เพราะผู้จัดรายการเป็นเจ้าของสถานีวิทยุเอง ขณะเดียวกัน ก็ยังมีสถานีวิทยุที่ต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ คือ คลื่น 93.75 นครอุบล ที่เจ้าของสถานีเป็นอดีตนักการเมืองฝ่ายรัฐบาล ผู้ดำเนินรายการช่วง “ชักธงรบ” ระหว่างเวลา 05.00-06.00 น.มีการใช้ถ้อยคำยั่วยุให้คนไม่ชอบกลุ่มพันธมิตรฯออกมาฆ่าแกงกัน ก็สามารถจัดรายการได้
      
       นายสุรสีห์ กล่าวต่อว่า ผิดกับรายการของตนที่นำเสนอข่าวแบบสันติวิธีให้ความรู้กับผู้ฟัง เพราะคนฟังรายการของตนส่วนใหญ่เป็นคนสูงอายุ เป็นคนมีความรู้ ไม่ใช่พวกสุดโต่งไม่ฟังเหตุผลอะไร แต่ก็ถูกเล่นงาน และเชื่อว่า มีการเมืองอยู่เบื้องหลังการยุติรายการของตน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ตกลงใจจะไปจัดรายการต่อที่สถานีไหน จะขอดูเหตุการณ์ไปเรื่อยๆ ก่อน นักจัดรายการรายนี้ กล่าวในที่สุด
      
       ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า สำหรับรายการ โสกันสองโมงเช้า ได้ย้ายรายการจากสถานีวิทยุที่เคยจัดมาที่สถานีวิทยุชุมชน อปพร.ได้ประมาณ 1 ปี โดยไม่ต้องเสียค่าเช่าเวลา แต่เมื่อมีรายได้จะแบ่งให้กับทางสถานีตามที่ตกลงกันไว้ และมีผู้ร่วมดำเนินรายการรวม 4 คน คือ นายสมศักดิ์ รัฐเสรี นายกสมาคมสื่อมวลชนอุบลราชธานี, นายชวลิต ผ่องแผ้ว, นายขุพนพล แดนอีสาน และ นายสุรสีห์ ผาธรรม
      
       สำหรับ นายสุรสีห์ ปัจจุบันนอกจากเป็นนักจัดรายการวิทยุแล้ว อดีตยังเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังหลายเรื่อง และเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ตุ๊กตาทองยอดเยี่ยมประจำปี 2526 จากเรื่อง ผู้แทนนอกสภา แต่ภาพยนตร์ที่สร้างชื่อเสียงและทำให้เป็นที่รู้จักอย่างมาก คือ “ครูบ้านนอก” นำแสดงโดย ปิยะ ตระกูลราษฎร์ และ วาสนา สิทธิเวส ซึ่งได้รับรางวัลผู้กำกับภาพยนตร์สร้างสรรค์เยาวชนดีเด่นจากการประกวดภาพยนต ร์ของประเทศรัสเซีย ปี 2521 ล่าสุดได้รับรางวัลศิลปินมรดกอีสานสาขาภาพยนตร์จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น
      
       ด้านน ายกิตติพงษ์ ภูธรโยธิน หรือ ดีเจหนุ่มสยาม เจ้าของสถานีวิทยุชุมชน อปพร.97.5 และเป็นประธาน อปพร.จังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้ให้ยุติรายการ แต่ให้เว้นช่วงรายการไปก่อน เนื่องจากสถานการณ์การเมืองอ่อนไหวมาก และสถานีได้รับการต่อว่าจากสมาชิก อปพร.รวมทั้งผู้ฟังคนอื่นที่ไม่เห็นด้วยในการนำเสนอของรายนี้ จึงหาทางออกด้วยการให้เว้นระยะจัดรายการไปสักพัก เมื่อแจ้งให้ผู้จัดรายการทราบเมื่อวาน วันนี้ ผู้ดำเนินรายการก็ประกาศยุติรายการทันที ทั้งที่ให้เวลาอำลาผู้ฟังได้ถึงวันศุกร์ก็ตาม
       

       สำหรับกรณีที่มีข่าวออกมาว่าเป็นคำสั่งจากเบื้องบน ที่เป็นอดีตนักการเมืองให้ยุติรายการนั้นไม่เป็นความจริง แต่ได้มีการพูดคุยหารือกับผู้จัดรายการมาก่อนโดยขอให้พยายามเลี่ยงกล่าวถึงส ถานการณ์การเมือง เพราะไม่ต้องการให้สถานีถูกมองว่าเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และจุดประสงค์การตั้งสถานีต้องการบอกข่าวสารในท้องถิ่นและสร้างความบันเทิงใ ห้ผู้ฟัง ไม่เน้นเรื่องการเมืองมากนัก เมื่อมีความเข้าใจไม่ตรงกันก็จำเป็นต้องหยุดไว้ก่อน อนาคตหากทุกอย่างดีขึ้นก็กลับมาจัดกันใหม่ได้
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น