รายงานพิเศษ : “รมต.” คดีหวยบนดิน อย่า “ศรีธนญชัย”!!

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 28 กรกฎาคม 2551 14:59 น.

อมรรัตน์ ล้อถิรธร...รายงาน
      
       ก ารที่ศาลสั่งรับฟ้องคดี “หวยบนดิน” ไม่เพียงสะท้อนฝีมือการทำงานของ คตส.ในฐานะผู้ฟ้อง ครม.ทักษิณกับพวก แต่ยังเป็นการ “ตีแสกหน้า” อัยการสูงสุดที่ไม่สั่งฟ้องคดีนี้ให้ โดยอ้างว่า สำนวนไม่สมบูรณ์ด้วย แต่ปัญหาขณะนี้ ก็คือ แม้ศาลจะสั่งรับฟ้องแล้ว แต่ 3 รมต.ใน รบ.นี้ ที่ถูกกล่าวหาในคดีดังกล่าว เริ่มออกอาการศรีธนญชัย ว่าจะไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่ระหว่างการพิจารณาคดี ทั้งที่มีกฎหมายระบุว่า ต้องหยุดพักงานชั่วคราว ลองไปฟังเหตุผลของ รมต.ที่ศรีธนญชัยว่าจะฟังขึ้นหรือไม่
      
       คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 ตัว และ 3 ตัว (หวยบนดิน) นับเป็นคดีแรกที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ต้องออกโรงยื่นเรื่องฟ้องต่อศาลเอง หลังไม่ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานอัยการสูงสุดในการสั่งฟ้องคดี การที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งรับฟ้องคดีใน วันนี้ (28 ก.ค.) นอกจากจะถือเป็นความสำเร็จยกแรกในการทำงานของ คตส.แล้ว ยังจะส่งผลสะเทือนต่อรัฐมนตรีในรัฐบาลปัจจุบัน 3 คน ที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ที่จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำ พิพากษาด้วย นั่นคือ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯ และรัฐมนตรีคลัง,นายอนุรักษ์ จุรีมาศ รัฐมนตรีช่วยคมนาคม และนางอุไรวรรณ เทียนทอง รัฐมนตรีแรงงาน
      
       แม้ผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้จะมีถึง 47 คน ซึ่งประกอบด้วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และ ครม.รัฐบาลทักษิณ รวมทั้งคณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล แต่ความสนใจกำลังพุ่งไปยัง นพ.สุรพงษ์-นายอนุรักษ์ และ นางอุไรวรรณ ที่ถูกกล่าวหาในฐานะเป็นรัฐมนตรีที่มีส่วนร่วมในโครงการออกหวยบนดินในสมัยรั ฐบาลทักษิณ และบังเอิญขณะนี้ก็เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล นายสมัคร ซึ่งแม้ พ. ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2542 หรือกฎหมาย ป.ป.ช.(ซึ่ง คตส.ใช้อำนาจตรวจสอบและยื่นฟ้องผู้กระทำความเสียหายแก่รัฐเสมือน ป.ป.ช.เช่นกัน โดยเป็นไปตามประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 ที่ให้อำนาจ คตส.) ระบุว่า หากรัฐมนตรีหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา แต่ล่าสุดวันนี้ (28 ก.ค.) นพ.สุรพงษ์ ได้ส่งสัญญาณทำนองว่า จะไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่แม้ศาลจะมีคำสั่งรับฟ้อง โดยอ้างว่า คตส.ไม่ใช่ ป.ป.ช.ที่หากชี้มูลความผิดแล้ว รัฐมนตรีจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที นพ.สุรพงษ์ ยังออกอาการยื้อด้วยว่า จะให้ฝ่ายกฎหมายตีความหรือให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก่อนว่าต้องหยุดทำหน้าที่หรือไม่
      
       ซึ่งหากย้อนไปก่อนหน้านี้ ช่วงที่ คตส.เพิ่งยื่นฟ้องคดีนี้ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ (เดือน มี.ค.51) บุคคลในรัฐบาลหลายต่อหลายคน รวมถึงอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยต่างก็ออกมาอุ้ม 3 รัฐมนตรีในคดีนี้ (นพ.สุรพงษ์-นายอนุรักษ์-นางอุไรวรรณ) ว่า ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดย นายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชาชน อ้างเหตุที่ 3 รัฐมนตรีดังกล่าวไม่ต้องหยุดทำหน้าที่ ว่า เนื่องจาก คตส.ฟ้องรัฐมนตรี ครม.ทักษิณ แต่นี่คนละรัฐบาลกัน ตำแหน่งก็เปลี่ยนไปแล้ว รัฐมนตรีทั้งสามจึงไม่ต้องหยุดทำหน้าที่แต่อย่างใด นายสมัคร ยังยกตัวอย่างเปรียบเทียบแบบเข้าข้างตัวเองด้วยว่า “อย่างคดีซื้อรถ และเรือดับเพลิง หาก นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.ถูกกล่าวหา เมื่อถูก ป.ป.ช.ยื่นเรื่องก็ต้องพักงาน เพราะอยู่ในตำแหน่ง อย่างผมที่เคยเป็นผู้ว่าฯ แต่ตอนนี้ไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ แล้ว เพราะผมมาเป็นนายกฯ จะมาพักงานผมไม่ได้”
      
       ขณะที่ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย ซึ่งปัจจุบันเป็นโฆษกส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็อ้างก่อนหน้านี้เช่นกันว่า 3 รัฐมนตรีที่ถูก คตส.ฟ้องคดีหวยบนดินไม่จำเป็นต้องพักงาน เพราะได้ยุติบทบาทตำแหน่งในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณแล้วหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
      
       เมื่อรัฐมนตรีที่เป็นจำเลยในคดีหวยบนดินออกอาการดื้อแพ่ง ไม่ยอมพักงานทั้งที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ มีคำสั่งรับฟ้องคดีนี้แล้ว โดยอ้างว่า คตส.ไม่ใช่ ป.ป.ช.และขณะนี้ก็เปลี่ยนรัฐบาลแล้ว ลองมาดูกันว่า เหตุผลดังกล่าวฟังขึ้นหรือไม่?
      
       นายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีต ส.ว.กทม.และอดีตรองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ เคยยืนยันตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วว่า คตส.มีอำนาจหน้าที่เหมือน ป.ป.ช.การที่อ้างว่า เมื่อเปลี่ยนรัฐบาล-เปลี่ยนตำแหน่งรัฐมนตรีแล้ว ไม่สามารถตรวจสอบหรือไม่สามารถให้รัฐมนตรีที่ถูกชี้มูลหยุดทำหน้าที่ได้นั้น เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพราะถ้าหากย้ายตำแหน่งแล้วพ้นผิดได้ ก็คงย้ายกันหมด กฎหมายก็คงเป็นหมัน
      
       “ประเ ด็นนี้ผมไม่เห็นด้วยกับเขาหรอก เพราะถ้าอย่างนั้นเนี่ย มันกลายเป็นว่า ใครก็ตามถูกดำเนินคดี มันก็ย้ายกระทรวงเปลี่ยนกันไปเรื่อย กฎหมายมันก็เป็นหมันน่ะ เจตนาก็คือ เขา(กฎหมาย)ต้องการว่า ใครที่ถูกดำเนินคดี คือ คุณมีความด่างพร้อยแล้ว 2.เขาไม่ต้องการให้คุณอยู่ในอำนาจรัฐ ที่จะเข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม 3.ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ทุกคนก็ย้ายหมด พอโดนคดีก็ย้าย ย้ายแล้วไม่ต้องดำเนินคดี สมมติว่า อยู่ในตำแหน่งอธิบดี ถ้าหากว่าย้ายแล้วไม่ต้องถูกดำเนินคดี ก็ย้ายเป็นปลัดกระทรวงซะเลยสิ อย่างนี้มันก็เสีย”
       
       ขณะที่ รศ.ดร.อุดม รัฐอมฤต รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร และอาจารย์ภาควิชากฎหมายมหาชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ยืนยันว่า คตส.มีอำนาจเหมือน ป.ป.ช.ซึ่งกฎหมาย ป.ป.ช.ระบุว่า เมื่อ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดรัฐมนตรีคนใด รัฐมนตรีนั้นต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที ดังนั้น เมื่อ 3 รัฐมนตรีในรัฐบาลนี้ถูก คตส.ชี้มูลความผิด ก็ควรจะหยุดทำหน้าที่ตั้งแต่ตอนที่ถูก คตส.ชี้มูลความผิดแล้วด้วยซ้ำ ไม่ใช่มารอหยุดทำหน้าหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ มีคำสั่งรับฟ้อง
      
       “ การใช้อำนาจตามที่ประกาศของ คปค.(ฉบับที่ 30) ที่ให้อำนาจ (คตส.) ตรวจสอบ เขาให้ คตส.มีอำนาจตามกฎหมาย ป.ป.ช.ทีนี้พอมาดูอำนาจ ป.ป.ช.เนี่ย ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีอาญา คือ ตาม รธน.ปัจจุบันก็บอกว่า ในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ เขียนไว้ในส่วนของการถอดถอนจากตำแหน่งว่า ในกรณีที่ ป.ป.ช.มีมติด้วยคะแนนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งว่าข้อหานี้มีมูล ผู้ดำรงตำแหน่งที่ถูกกล่าวหาจะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปไม่ได้ จนกว่าวุฒิสภาจะมีมติและให้ประธาน ป.ป.ช.ส่งเอกสารไปให้วุฒิสภา และอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ...เท่ากับว่า เขาเริ่มจากการชี้มูลของ ป.ป.ช.เป็นหลักว่า เห็นว่าควรมีมูลถอดถอนมั้ย หรือมีมูลในการที่จะให้ดำเนินคดีอาญามั้ย คือถ้าเทียบตามนี้เท่ากับว่า เขาเอาการชี้มูลขององค์กรที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเนี่ยเป็นต้นไป เพราะฉะนั้นถ้ามองตามนี้ ผมคิดว่า กฎหมายไม่ได้เขียนชัด แต่ก็พอจะเข้าใจได้ว่า เขาน่าจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่”
       
       ด้าน ดร.วิชา มหาคุณ 1 ในกรรมการ ป.ป.ช.ก็มองกรณีที่ 3 รัฐมนตรีในรัฐบาลนี้ต้องหยุดพักงานจากการถูกฟ้องในคดีหวยบนดินว่า จริงๆ แล้วตามกฎหมาย ป.ป.ช.แค่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด รัฐมนตรีที่ถูกชี้มูลก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว แต่คิดว่าการที่ 3 รัฐมนตรีในคดีหวยบนดินไม่หยุดทำหน้าที่ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ อาจเป็นเพราะไม่แน่ใจในอำนาจฟ้องของ คตส.และไม่แน่ใจว่าศาลฯ จะรับฟ้องหรือไม่ แต่เมื่อศาลมีคำสั่งรับฟ้องแล้ว โดยมารยาท รัฐมนตรีก็ต้องพิจารณาว่าควรปฏิบัติหน้าที่ต่อไปหรือไม่
      
       คงต้องติดตามท่าทีของรัฐบาลและ 3 รัฐมนตรีคดีหวยบนดินต่อไปว่า จะมีมารยาทพอที่จะหยุดทำหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาคดีหรือไม่ การปรับ ครม.ที่น่าจะมีขึ้นในเร็วๆ นี้ คงเป็นคำตอบว่า เก้าอี้ของ 3 รัฐมนตรีดังกล่าวจะยังคงอยู่หรือไม่ หากพิจารณาคำพูดของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ ที่หลุดปากก่อนหน้านี้ว่า การปรับ ครม.ล็อตใหญ่จะรอหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ มีคำสั่งว่าจะรับฟ้องคดีหวยบนดินหรือไม่ ก็น่าจะชัดเจนว่า ต้องปรับ 3 รัฐมนตรีดังกล่าวถ้าศาลรับฟ้อง ซึ่ง นายสมัคร ก็รู้อยู่แก่ใจด้วยว่า หากศาลรับฟ้อง จะส่งผลให้ 3 รัฐมนตรีในรัฐบาลต้องพักงานอย่างแน่นอน นายสมัครถึงได้เป็นเดือดเป็นร้อน รีบออกมาดักคอและดิสเครดิตศาลผ่านรายการ “สนทนาประสาสมัคร” เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ว่า “ มีความพยายามจะเอากันให้ได้ ต้องการเอารัฐบาลนี้ออก พูดชัดเจนว่า รอบารมีของท่านที่จะสั่งมาวันที่ 28 ก.ค.นี้ ตัดสินลงมา มีคนอยู่ใน ครม.3 คน ทำอะไรไม่ได้เลย”!?!