โดย ผู้จัดการออนไลน์ | 28 กรกฎาคม 2551 13:49 น. |
อุดรธานี - ผู้ว่าฯ-ผบก.อุดรธานี นั่งแถลงข่าวดักหน้า ก่อน"ขวัญชัย-อุทัย" 2 หัวโจกนำม็อบถ่อยไล่ตีพันธมิตรฯ เข้ามอบตัว อ้างให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ตั้งคณะทำงานเร่งรัดคดีให้ได้บทสรุปโดยเร็ว ขณะที่ 2 หัวหน้าแก๊งอันธพาลโร่ขึ้นโรงพัก ลั่นหากถูกดำเนินคดีจะฟ้องกลับคนแจ้งความ แถมยังอาฆาตพันธมิตรฯ หากมาปราศรัยในอุดรฯ จะยกพวกล้มเวทีอีก
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (28 ก.ค.) ที่ห้องประชุมฉัตรไพฑูรย์ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี นายสุพจน์ เลาวัณย์ศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี, พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี, พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วงษ์สุเมธ ผู้กำกับ สภ.เมืองอุดรธานีได้ร่วมแถลงข่าวกรณีเหตุการณ์ที่กลุ่มพันธมิตรฯถูกกลุ่มคนร ักอุดรไล่รุมทำร้าย ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 13 คน
นายสุพจน์ เลาวัณย์ศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวจังหวัดถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเ ฉียบขาด โดยทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ได้ตั้งคณะทำงานชุดสืบสวนสอบสวนขึ้นทันที เพื่อเร่งรัดรวบรวมพยานหลักฐาน จนปรากฏชัดว่ามีผู้กระทำความผิดเป็นแกนนำ 2 คน ส่วนคนอื่นกำลังดำเนินการสอบสวน โดยดูจากเทปวีดีโอจากทุกส่วนที่มีการบันทึกภาพไว้ และจะนำตัวมาดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด
นายสุพจน์ กล่าวอีกว่า ตนในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัด และตราบใดที่ยังเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอยู่ จะดำเนินการทุกอย่างให้เป็นไปตามตัวบทกฎหมายของบ้านเมืองอย่างเคร่งครัด และการออกข่าวว่า จังหวัดห้ามคนที่ไม่ใช่ชาวอุดรเดินทางมาชุมนุมที่อุดรธานี ไม่เป็นความจริง เพราะทุกคนสามารถเดินทางมาได้ และทุกคนสามารถชุมนุมเพื่อเรียกร้องหรือแสดงความคิดเห็นใดๆ ก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใด แต่ทั้งนี้ การชุมนุมต้องเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่กระทำผิดกฎหมาย ถ้ามีการกระทำผิดกฎหมาย จังหวัดจะต้องดำเนินการจับกุมและดำเนินคดี
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายสุพจน์ เคยกล่าวถึงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ว่า เป็นเรื่องธรรมดาเหมือนสามีภรรยาทะเลาะวิวาทกันเท่านั้น และอ้างว่ามีผู้บาดเจ็บเพียง 10 คน ถือว่าน้อยมาก เมื่อทเยบกับจำนวนผู้ชุมนุมเป็นพันคน
ด้านผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี กล่าวเสริมว่า ในเบื้องต้นพอจะสรุปได้ว่าใครเป็นแกนนำและใครทำความผิดอะไรบ้าง ซึ่งขณะนี้ได้ตั้งกรรมการสืบสวนสอบสวนขึ้นมา 3 ชุด เพื่อให้มีการดำเนินการทางคดีอย่างรวดเร็วโดย 2 ชุดแรกเป็นชุดสืบสวนสอบสวนของตำรวจภูธรจังหวัด มีรองผู้บังคับการเป็นหัวหน้าชุด
ส่วนอีกชุด เป็นชุดของตำรวจภูธรภาค 4 โดยจะแยกในส่วนของคนเจ็บออกเป็น 4 ส่วน ส่วนแรกฝ่ายพันธมิตรฯ ส่วนที่สองฝ่ายคนรักอุดร ส่วนที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ และส่วนที่ 4 ประชาชนที่รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ เพื่อสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิด รวมทั้งจากภาพวีดีโอ และภาพนิ่งที่มีการบันทึกภาพไว้ ทั้งจากสื่อมวลชน เจ้าหน้าที่ และผู้ที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นเวลา 10.30 น.หลังจากเสร็จสิ้นการแถลงข่าว นายขวัญชัย ไพรพนา พร้อมนายอุทัย แสนแก้ว น้องชาย นายธีระชัย แสนแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สองหัวโจกแก๊งอันธพาลได้เดินทางมายังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พร้อมทนายความและประชาชนจากชมรมคนรักอุดร 200 คน ที่เดินทางมาร่วมให้กำลังใจ โดยมีการมอบดอกไม้แสดงความยินดีก่อนที่จะขึ้นไปพบ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
นายขวัญชัย กล่าวว่า ตน และ นายอุทัย เดินทางมาเพื่อแสดงตัวว่าจะไม่ได้หลบหนีไปไหน หากมีการดำเนินคดีกับพวกตน พวกตนก็จะฟ้องกลับ พ.ต.ท.ทัศนาบดี ตระกูลพิทักษ์ชน ที่มาแจ้งความกล่าวหาพวกตนว่า เป็นซ่องโจร เพราะพวกตนก่อตั้งชมรมคนรักอุดร มาถึง 3 ปี ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 200,000 คน ทำงานเพื่อสังคมจะเป็นซ่องโจรได้อย่างไร และขอยืนยันว่า หากกลุ่มพันธมิตรฯ มีการตั้งเวทีปราศรัยอีกพวกตนและสมาชิกชมรมคนรักอุดรก็จะออกมาขับไล่อีกเหมื อนเดิม
ด้าน พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อนายขวัญชัย และ นายอุทัย มาแสดงตัววันนี้เบื้องต้นก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะสอบปากคำ หากพบว่ามีความผิดก็ต้องแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งขอยืนยันว่า ตำรวจจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดและให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย
ส่วนภาพที่ออกมาตามสื่อต่างๆ นั้น ก็ไม่มีใครอยากจะให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายก็ทำงานตามหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว ก็ขอให้เป็นบทเรียน
ส่วนใครจะมองและคิดอย่างไรก็เป็นสิทธิของคนนั้นๆ และหากกลุ่มพันธมิตรฯ ยังยืนยันว่าจะมาจัดเวทีอีก ตำรวจก็ต้องเพิ่มกำลังมากขึ้น และอาจจะขอเพิ่มจากตำรวจภาค 4 มาเสริม ส่วนการขอกำลังเจ้าหน้าที่ทหารมาช่วย เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น