++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2553

พันธมิตรฯ...บทกวีที่ยังไม่จบ.. พันธมิตรฯ..เป็นของเราทุกคน..

วันเสาร์ที่ 25 ก.ย. 2553 ที่ผ่านมา ไปร่วมงานการเสวนาปราศรัยของพี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ จ.ตรัง จากนั้นค่ำวันที่ 26 ก.ย.ไปร่วมงานคอนเสิร์ต “คิดถึง...ทอดตาแลด้ามขวาน”

อันเนื่องจากบรรยากาศ ณ ปลายปี 2553 มันคนละบรรยากาศคนละสถานการณ์กับปี 2549 ยุคขับไล่รัฐบาลทักษิณและ 2551 ขับไล่รัฐบาลนอมินีของระบอบหน้าเหลี่ยมที่เข้มข้น วันวารดังกล่าวสมรภูมิภาคใต้คึกคัก จัดปราศรัยเมื่อไหร่ต้อง 2-3 หมื่นคน แต่วันนี้เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไปพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ขณะที่พันธมิตรฯ มีฉันทามติตั้งพรรคการเมืองใหม่ ทำให้พันธมิตรฯ ที่เป็นแฟนคลับของประชาธิปัตย์มองว่า พันธมิตรฯ เป็นของพรรคการเมืองใหม่ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็ไม่อยากเข้าร่วมกิจกรรม...

การชุมนุมจัดงานในบรรยากาศ สถานการณ์วันนี้จึงอยู่ในระดับ 2-3 พันคน...

แม้ผมจะสังกัดพรรคการเมืองใหม่ แต่ทั้งที่ตรังและหาดใหญ่ ผมเลยกราบเรียนพี่น้องประชาชนไปตรงๆ ว่า..อย่าให้คำว่า “ประชาธิปัตย์” หรือ “การเมืองใหม่” มาเป็นม่านหรือกำแพงขวางกั้นในการทำกิจกรรมเพื่อสังคมเพื่อ “ชาติ ศาสน์ กษัตริย์” เพราะสุดท้ายแล้วคำว่า “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” จะไม่ใช่สมบัติของพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคการเมืองใหม่...หรือใครคนใดคนหนึ่ง

สำหรับพรรคการเมืองใหม่นั้น คือ ผู้อาสาที่จะสืบสานเจตนารมณ์อุดมการณ์ของพันธมิตรฯ ให้เป็นจริงเท่านั้น...

คำว่า “พันธมิตรฯ” เป็นสมบัติกลางของพี่น้องประชาชนผู้รักบ้านรักเมือง พร้อมที่จะปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์...ทุกคน

งานคอนเสิร์ต “คิดถึง...” ที่หาดใหญ่ค่อนข้างคึกคักด้วยวงดนตรีของ แสง ธรรมดา, หงา คาราวาน และเศก-ซูซู ส่วนตัวผมกับคุณสมศักดิ์ โกศัยสุข, พิเชฏฐ พัฒนโชติ และมาลีรัตน์ แก้วก่า ผู้จัดเขาให้เวลาคนละ 10 นาที ไปทักทายพูดกับพี่น้องพันธมิตรฯ..

ผมเพิ่งรู้ก่อนขึ้นเวทีไม่ถึงชั่วโมงว่า ทางผู้จัดได้โฆษณาไปทั่วเมืองหาดใหญ่ว่า..คุณสำราญจะร่วมอ่านบทกวีใน คอนเสิร์ต ทำเอาผมเครียดขึ้นมากะทันหัน เลยแอบไปหลบมุมสวมวิญญาณกวีซีฟูดเลียนแบบกวีซีไรต์คนล่า “ซะการ์รียา อมตยา” ร่ายกลอนเปล่าหรือกวีไรต์ฉันทลักษณ์ขุดมาจากความรู้สึกส่วนลึก....แล้วนำไป อ่านด้วยลีลาน้ำเสียงแห่งกวีกานท์...

"พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
พันธมิตรฯ ที่รัก

เธอก่อเกิดขึ้นมาในยามที่พระเจ้าหลับใหล
เธอเผาไหม้ตัวเองในนามเทียนแห่งธรรม...
เพื่อส่องแสงในคืนเดือนมืด แผ่นดินสิ้นแสง..
เธอเป็นสารส้มก้อนเล็กๆ ที่ละลายตัวเองเพื่อให้น้ำที่ขุ่นข้นสะอาดใส
ชีวิต จิตใจเธอเพื่อรักษาความถูกต้อง
โดยไม่ได้หวังรางวัล อำนาจและเงินตรา
เธอไม่ใช่ทหารเสือพระราชา ทหารเสือราชินีหรือทหารรักษาพระองค์
แต่เธอปกป้องสถาบันสูงสุดของชาติด้วยเลือดเนื้อ น้ำตา และชีวิต
อย่างน้อยก็เพื่อความเป็นธรรมแห่งพระองค์ท่าน..
ศูนย์รวมจิตใจแห่งเรา...

พันธมิตรฯ ที่รัก

ฉันรู้เธอเหนื่อยยากและเหนื่อยหนัก
กระนั้น, ความเสียสละจากเธอยังหลั่งรินแรงเป็นสายธาร
หลั่งรินแรงเป็นสายธาร...
เพื่อพันธกิจที่ยังไม่สิ้นสุดและไม่รู้เมื่อไหร่จะสุดสิ้น…

พันธมิตรฯ ที่รัก

ขอเราจงก้าวข้ามวันคืนอันฝันร้าย
และข้ามพ้นกับดักแห่งความเป็นพรรคฝ่าย...
ก้าวข้ามตัวตนแห่งเรา
เป็นตัวเราที่เหนือพรรคเหนือพวก แต่อยู่ใต้ประโยชน์ชาติ
เพื่อปักธง พิทักษ์ความเป็นธรรม ความถูกต้อง ประโยชน์ชาติ-ประชาชน
สนับสนุนคนดี คนกล้า ให้ทำหน้าที่ที่เหมาะสม..
หยดเหงื่อ น้ำตาเรายังต้องรินไหล
ขอเปลวไฟการต่อสู้อย่าดับแสง..
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

พันธมิตรฯ ที่รัก

ฉั น รั ก เ ธ อ”
...........................................

ครับเป็นบทกวีสุกๆ ดิบๆ ที่ยังไม่จบ... แต่หลังอ่านจบ ได้พูดจาปราศรัยอีก 4-5 นาที พูดถึง “สุญญากาศทางการเมือง” ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงปลายปี พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในต่างประเทศ นั่นคือกองทุนคนเสื้อแดงตามเมืองใหญ่ในยุโรป อเมริกา เป็นกองทุนที่ระบอบคนหน้าเหลี่ยมไปหยอดเงินไว้หล่อเลี้ยงปลุกเร้าความ เคลื่อนไหวที่ร้อนแรง และพุ่งเป้าไปที่สถาบันสูงสุดของชาติเป็นสำคัญ ประสานเสียงประสานมือประสานทุนมายังคนเสื้อแดงประเทศไทย...

ยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศเวอร์ชันใหม่ อันตรายกว่าเก่าได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว..

พี่น้องเอ๊ยยย..พี่น้องเอ๊ยยยยย...พ่อแม่พี่น้องเอ๊ยยยยยยยยย....!!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น