++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2551

พันธมิตรฯ แถลงประกาศชัยชนะ-ยุติชุมนุมทุกจุด 3 ธ.ค.

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 ธันวาคม 2551 19:09 น.








แถลงการณ์ ฉบับที่ 27/2551

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

เรื่อง

ประกาศชัยชนะของประชาชน





ตามที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้จัดชุมนุมใหญ่มาตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2551 รวม 192 วันนั้น ได้มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้



1. คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550



2. ขับไล่รัฐบาลทรราชฆาตกรหุ่นเชิด เพื่อนำไปสู่การเมืองใหม่



ตลอดระยะเวลาการชุมนุมต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทยถึง 192 วัน เราได้ทำหน้าที่พิทักษ์ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และรัฐธรรมนูญ ดังนั้นคุณูปการของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่สำคัญประการหนึ่ง คือการพิทักษ์รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ได้สำเร็จจนเป็นผลให้กระบวนการยุติธรรมในประเทศไทยสามารถเดินหน้าพิสูจน์ความผิดของนักการเมืองได้มาจนถึงวันนี้



ผลจากคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แสดงให้เห็นว่าการได้อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินที่ผ่านมานั้นไม่ใช่วิถีทางของประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ แต่เป็นการได้มาซึ่งอำนาจด้วยการทุจริตการเลือกตั้ง และเป็นบทพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นว่าการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้นเป็นความถูกต้องชอบธรรมเป็นที่ประจักษ์



จากผลคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนั้นเป็นผลทำให้ช่วงระยะเวลานี้ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บรรลุเงื่อนไขทั้ง 2 ประการคือ



1. ได้รับชัยชนะในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ได้เป็นผลสำเร็จ จนทำให้เกิดการยุบพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่ทุจริตการเลือกตั้งถึง 3 พรรคการเมือง



2. ได้รับชัยชนะในการขับไล่รัฐบาลทรราชฆาตกรหุ่นเชิดชุดนี้ได้เป็นผลสำเร็จ



พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงขอประกาศการได้รับชัยชนะตามวัตถุประสงค์ในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551 เป็น “ชัยชนะของประชาชน”



เมื่อได้รับชัยชนะตามวัตถุประสงค์แล้ว ประกอบกับเป็นช่วงเวลามหามงคลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ไม่มีความปราถนาที่จะชุมนุมต่อไปโดยไม่จำเป็น



พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงขอประกาศยุติการชุมนุมทั้งที่ทำเนียบรัฐบาล สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง ในวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2551



พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยถือว่าในช่วงเวลานี้เป็นสูญญากาศ ไม่มีรัฐบาลบริหารประเทศตามกฎหมาย จึงขอเรียกร้องให้ฝ่ายใดก็ตามที่จะเข้าสู่อำนาจในการบริหารประเทศ หาทางออกประเทศ อย่าได้สร้างเงื่อนไขที่จะก่อให้เกิดวิกฤติทางการเมืองอีก ขอให้หยุดยั้งอย่าให้มีนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณ ขอให้สะสางความผิดนักการเมืองในระบอบทักษิณ และขอให้ร่วมกับประชาชนสร้างการเมืองใหม่เพื่อปฏิรูปการเมืองอย่างแท้จริง



เราขอประกาศเจตนารมณ์นับแต่นี้ต่อไปว่า



1. หากรัฐบาลหุ่นเชิดของระบอบทักษิณกลับมาอีก หรือมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมาย เพื่อฟอกความผิดให้กับคนในระบอบทักษิณ เอื้อประโยชน์ให้กับนักการเมือง หรือลดพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็จะกลับมาอีก



2. หลังจากนี้ไป รัฐบาลชุดใดๆก็ตามที่เข้ามาบริหารราชการแผ่นดินแต่ไม่มีความจริงใจในการปฏิรูปสู่การเมืองใหม่โดยร่วมกับประชาชน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็จะกลับมาอีกทันทีเช่นกัน



เราขอกราบขอบพระคุณพี่น้องประชาชนทุกท่าน ในการมีส่วนร่วมเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ และจนกว่าเราจะพบกันอีกเมื่อชาติต้องการ



ด้วยจิตคารวะ



พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551





อ่านรายละเอียดคำแถลงของแกนนำพันธมิตรฯ ช่วงตอบคำถามผู้สื่อข่าว



ผู้สื่อข่าว - 3 ธันวาคมนี่ กี่โมง

นายสนธิ กล่าวว่า พรุ่งนี้ก็เริ่ม 10 โมงเช้าเลย



ผู้สื่อข่าว - ที่ทำเนียบ หรือที่ไหน/10 โมงนี่ถอนออกหมดเลย

นายสนธิ กล่าวว่า ทุกแห่งครับ



ผู้สื่อข่าว - ถอนออกหมดเลยนะครับ

นายสนธิ กล่าวว่า หมดเลยครับ



ผู้สื่อข่าว - ที่ทำเนียบ เห็นบอกว่า จะคืนวันพฤหัสฯ ไม่ใช่เหรอ

นายสนธิ กล่าวว่า ไม่ครับ หมดเลยครับ นี่เป็นมติของแกนนำ



ผู้สื่อข่าว - เริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่นะคะ

นายสนธิ กล่าวว่า 10 โมงเช้าออกแล้วครับ



ผู้สื่อข่าว - 10 โมงเช้าพรุ่งนี้ ทุกที่นะคะ

นายสนธิ กล่าวว่า ทุกที่ครับ



ผู้สื่อข่าว - แต่ตอนนี้มีกระแสข่าวว่า 6 พรรคร่วมรัฐบาลก็กำลังจะจับมือกันอีกครั้ง

นายสนธิ กล่าวว่า ก็ปล่อยเขาทำ เราถือว่าเราทำหน้าที่เราจบแล้ว ถ้าเขายังหน้าด้านต่อ ก็ดูแถลงการณ์หน้าสุดท้ายแล้วกัน ในข้อ 1



ผู้สื่อข่าว - วันที่ 8 หรือ 9 อาจมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี

นายสนธิ กล่าวว่า ก็ลองให้เขาดูนะครับ คนเกเร หรือคนที่มีความชั่วช้าในทางการเมืองแล้วไม่สำนึก ไม่สำนึกเลยว่าตัวเองเจออะไรบ้าง เราก็พร้อมจะกลับมาอีกนะครับ



ผู้สื่อข่าว - หมายความว่า ถ้า 8 กับ 9 เขานำเสนอชื่อนายกฯ ที่มาจาก 6 พรรคร่วมใหม่ พันธมิตรฯ จะชุมนุมอีกครั้ง

นายสนธิ กล่าวว่า แน่นอนครับ



ด้าน พล.ต.จำลอง กล่าวว่า อีกอย่างหนึ่ง ก็คือ อย่างที่บอกไปแล้วนะครับ ว่า เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์เราก็พร้อมที่จะมาพูดคุยกัน แม้ว่าเราจะยุติการชุมนุมไปแล้ว ดังนั้น ถ้าถามล่วงหน้านัก มันก็เยอะเกินกรณีที่เราจะตอบ



นายสมเกียรติ กล่าวว่า คือรัฐบาลที่ผลิตจาก 3 พรรค ที่ถูกยุบพรรค พรรคทั้ง 3 เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และทุจริตการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นไม่มีความชอบธรรมที่จะหวนกลับมาอีกแล้ว หากกลับมาอีก ประเทศไทยจะเกิดวิกฤตที่ลึกมากกว่านี้ เราพร้อมจะกลับมาอีกทันทีนะครับ ระดมพลทันทีเลย หมดแล้วครับ หมดเวลาสำหรับพวกพรรคการเมืองสารเลวกลุ่มนี้แล้วครับ ที่จะไปหารังชั่วช้าสามานย์ใหม่



นายพิภพ กล่าวว่า เส้นทางในอนาคต ควรจะมองเส้นทางในอนาคตที่ดี สิ่งที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ทำงานทางการเมืองใหม่ ต่อสู้กับระบอบชั่วร้าย ผมคิดว่าเส้นทางในอนาคตคงจะเกิดการเมืองใหม่แน่นอนครับ แล้วพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมที่จะสนับสนุนให้เกิดการเมืองใหม่ เพื่อการปฏิรูปทางการเมือง ที่เรียกว่า การเมืองสะอาด



นายสนธิ กล่าวว่า เราได้พิสูจน์ชัดใน 192 วัน นะครับ ว่า การเมืองภาคประชาชนมีความเป็นไปได้ และเป็นไปแล้ว ถึงแม้ว่าภาคประชาชนจะต้องสูญเสียชีวิตไป จนถึงวันนี้ก็เกือบ 10 คนแล้ว การถูกโจมตีด้วยอาวุธสงคราม ผมเน้นนะครับ “อาวุธสงคราม” นั้น เป็นการจงใจส่อให้เห็นเลยว่า อำนาจเก่ายังคงใช้อำนาจรัฐเข้ามายิงระเบิดใส่ที่ชุมนุม แล้วก็เราไม่ได้สติแตกที่ออกไปล้างแค้น ไปเผาสถานที่ต่างๆ แสดงว่า ภาคประชาชนนั้นมีสติ และภาคประชาชนนั้น ถึงแม้จะถูกรังแกอย่างใดก็ตาม ภาคประชาชนยังยึดถือการเอาธรรมนำหน้า และ สันติ อหิงสา โดยตลอดนะครับ วันนี้ก็เป็นวันที่พิสูจน์ชัด ว่า ด้วยสันติ อหิงสา ที่แท้จริง จึงทำให้ศาลรัฐธรรมนูญ กระบวนการยุติธรรม สามารถทำงานตามที่กระบวนการยุติธรรมถูกมอบหมายให้ทำได้โดยปราศจากการรบกวน และแทรกแซง อันนี้เป็นประเด็นที่สำคัญที่สุด



พล.ต.จำลอง กล่าวว่า และที่เราทำงานกันมานะครับ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้แสดงให้เห็นเด่นชัดแล้วว่า เราไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง ไม่ได้ทำเพื่อพวกพ้อง เราทำเพื่อประโยชน์ของสังคม ประเทศชาติ โดยแน่ชัด และเราไม่ได้ทำเพื่อหวังอะไร มีหลายต่อหลายคน คาดว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะยุติการชุมนุมเมื่อได้เป็นนั่นเป็นนี่ ไม่ใช่ครับ เราไม่ได้มีความมุ่งหมายอย่างนั้นเลย ก็ขอยืนยันให้พี่น้องประชาชนได้ทราบนะครับ ว่า การกระทำนั้นมันเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเราจริงแท้แน่นอนกับอุดมการณ์ของเรา



นายสนธิ กล่าวว่า ผมอยากให้ท่านสื่อมวลชนพิจารณานิดหนึ่ง ว่า คนที่ตายไป 6-7 คน และก็บาดเจ็บอีก 400-500 คนนั้น เขาทำเพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง หากไม่มีความอดทน และไม่มี ถึงแม้จะถูกทำร้ายถึงขนาดไหน ไม่มีจิตใจที่เข้มแข็ง ไม่ได้เอาธรรมนำหน้า วันนี้กระบวนการยุติธรรมจะไม่ได้ทำหน้าที่ที่ตัวเองควรจะกระทำอย่างเด็ดขาด เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ชัด ในขณะที่เรายืนหยัดอยู่ สู้อย่างสันติ อหิงสา วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาท่ามกลางกระบวนการ นปก. นปช.คนเสื้อแดง ที่เอาของไปขว้าง เอาไปข่มขู่ เราไม่เคยข่มขู่ศาลเลยแม้แต่นิดเดียว เรามีแต่ถูกทำร้ายอยู่ฝ่ายเดียว



ถึงแม้ว่า สื่อมวลชนทางโทรทัศน์บางช่อง จงใจ และเจตนาที่จะใส่ร้ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่ในที่สุดแล้วเราก็ฝ่ามรสุมตรงนั้นไปได้ และก็คน 6 คนที่ตาย นั้น 6-7 คนที่ตายนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นวีรชนของประชาธิปไตยทั้งสิ้น ประวัติศาสตร์จะต้องจารึกลงไปนะครับ ไม่ว่าจะเป็นน้องโบว์ 2 โบว์แล้ว อีกโบว์หนึ่งก็เพิ่งเสียชีวิต น้องโบว์ 2 โบว์ สารวัตรจ๊าบ และก็การ์ดอาสา คุณยุทธพงษ์ และ คุณเจนกิจ เห็นได้ชัดนะครับคนพวกนี้ ตลอดจนคนที่บาดเจ็บอีก 400 กว่าคน



เพราะฉะนั้นแล้ว คนพวกนี้ คือ วีรชน คุณรณชัย ด้วยนะครับ คือ วีรชนของสังคมไทยจริงๆ ที่ออกมาปกป้องชาติบ้านเมือง แม้กระทั่งชีวิตก็ยอมเสียให้ได้ เมื่อสื่อมวลชนดู เปรียบเทียบ ระหว่างคนสองกลุ่ม กลุ่มเสื้อแดงนะครับ กลุ่มเสื้อแดง กลุ่มซึ่งโทรทัศน์ NBT หนุนหลังอยู่ แล้วก็สื่อมวลชนสาย NBT เนี่ย เป็นกลุ่มซึ่งจ้องที่จะทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างแท้จริง ในขณะที่ซึ่งของเรานั้นยืนอยู่ในทุกสถานการณ์ ฝนจะตก แดดจะออก ฟ้าจะใสตรงไหน เราก็ยืนอยู่ที่เดิม เราไม่เคยเปลี่ยนแปลง และเราไม่เคยเน้นการใช้ความรุนแรง ทั้งๆ ที่หลายต่อหลายครั้งก็ต้องยอมรับว่าก็เกือบที่จะห้ามคนของเราไม่ได้ที่จะออกไปใช้ความรุนแรง แต่ในที่สุดแล้ว สันติ อหิงสา ก็ได้รับชัยชนะครับ



พล.ต.จำลอง กล่าวว่า เพื่อรำลึกถึงวีรชน 2 รายสุดท้าย ที่ได้เสียชีวิตไปในระยะเวลาอันไล่เลี่ยกันนี้ ต้องขอเชิญชวนประชาชนนะครับ โดยเฉพาะท่านที่สะดวกที่จะไปร่วมในพิธีงานศพ ขอได้โปรดไปร่วมกันอย่างพร้อมเพรียง เพื่อให้เกียรติกับวีรชน 2 รายสุดท้าย เดี๋ยว อ.พิภพ จะได้พูดๆ คร่าวๆ ครับว่าที่ไหน ยังไง



นายพิภพ กล่าวว่า ท่านหนึ่งที่เสียชีวิตไป คือ น้องโบว์ อายุเท่ากันกับน้องโบว์ คนแรกนะครับ 27 ปี วันนี้รดน้ำศพ เมื่อเวลา 5 โมงเย็น และก็สวดศพเวลา 18.30 น.ที่วัดโสมนัสวิหาร ผมอยากจะเรียนเพิ่มเติมที่เพื่อนนักข่าวถามว่า มีความพยายามของการเมืองเก่าที่จะกลับมาเป็นรัฐบาล ผมอยากจะเรียนว่า ประวัติศาสตร์ได้เดินไปข้างหน้าแล้ว ความพยายามใดๆ ที่จะหวนกลับไปสู่การเมืองเก่า ผมคิดว่าจะไม่สามารถทำได้ เพราะประชาชนที่ร่วมกันต่อสู้อย่างสุดชีวิต และเน้นสันติวิธี อหิงสา ซึ่งต้องขอบคุณประชาชนทั้งหมดที่ได้อดกลั้นในการต่อสู้ในนามพันธมิตรประชาชชนเพื่อประชาธิปไตย โดยไม่มีการตอบโต้ด้วยความรุนแรงใดๆ ทำให้มีความหวังว่า อหิงสา และ สันติวิธี ยังเป็นเรื่องที่สังคมไทยยึดถือ และจะสามารถได้ชัยชนะทางการเมืองในข้างหน้าต่อไป และการเมืองใหม่ ทำให้เชื่อมั่นว่าการเมืองภาคประชาชนสามารถที่จะเดินการเมืองใหม่ต่อไปได้ครับ



นายสมเกียรติ กล่าวว่า ผมจะสื่อสารไปถึงพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ว่า ขณะนี้การเมืองภาคประชาชนได้รับการสถาปนาขึ้นจนเข้มแข็งแล้ว มีพลังไม่น้อยกว่าพรรคการเมืองนะครับ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ยกระดับเป็นสถาบัน ไม่น้อยกว่าอำนาจของกองทัพด้วย ถ้าพูดถึงในวันนี้ ในพลังในการเปลี่ยนแปลงสังคม เพราะฉะนั้นรัฐบาลใหม่ที่จะขึ้นมา อย่าดูแคลนพลังของภาคประชาชนเด็ดขาด เช่น มาแล้วจะต้องเอารัฐบาลหุ่นเชิดมา หรือการจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้วไม่ปฏิรูปการเมืองสู่การเมืองใหม่ ประเด็นที่ 2 ผมอยากจะขอบคุณพี่น้องประชาชนทั่วประเทศนะครับ โดยเฉพาะพลังของเสื้อเหลือง พลังของพันธมิตรฯ และพลังที่หนุนช่วยทุกท่านที่กรุณาสร้างประวัติศาสตร์จนมาถึงวันนี้ ซึ่งเป็นที่ประชาชนได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น