++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2551

สาวน้อยในหีบเซ่ง

โดย อัญชะลี ไพรีรัก     24 ธันวาคม 2551 18:01 น.

หลังการชุมนุมที่เข้มข้น และยืดเยื้อยาวนานเกือบ 6 เดือนสิ้นสุดลง พันธมิตรฯ ส่วนใหญ่จะมีความรู้สึกเดียวกัน คือ เหงาจังเลย
      
       นั่นคือเหตุผลว่า ทำไมพันธมิตรฯ ทุกจังหวัด จึงพยายามจัดการชุมนุมต่อเนื่องไป โดยมีรูปแบบ และเนื้อหาเช่นเดียวกันกับเวทีพันธมิตรฯ ส่วนกลาง
      
       เป็นที่รู้กันว่า สมรภูมิกู้ชาติเปรียบเสมือนมหาวิทยาลัยราชดำเนิน ที่มีแกนนำเป็นอาจารย์ใหญ่ มีผู้ปราศรัยเป็นครูผู้สอน และผู้ชุมนุมเป็นนักศึกษาผู้ปราดเปรื่อง
      
       ดังนั้น 193 วันของการชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงผลิตต้นกล้ากองทัพประชาชนไปทั่วทั้งแผ่นดิน
      
       เมื่อต้นกล้าขี้เหงากลับบ้านเกิดเมืองนอน พวกเขาจึงเยียวยาโรค “ติดม็อบ” ด้วยการจัดการชุมนุมอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอด้วยตัวของเขาเอง และไม่ต่างจากเวทีใหญ่
      
       จะผิดกันก็ตรงที่ว่า คราวนี้ผู้ชุมนุมเป็นครูใหญ่ แกนนำทั้งหลายเป็นหัวหน้าห้อง และผู้ปราศรัยได้กลายเป็นนักเรียน ที่ออกเดินสายไปตามจังหวัดต่างๆ เพื่อเรียนรู้ความจริงที่ว่า การเมืองภาคประชาชนถูกปลุกให้ตื่นขึ้นแล้วด้วยพันธมิตรฯ และต้นกล้าเหล่านี้ได้เติบโตขึ้นด้วยน้ำหล่อเลี้ยงที่มาจากครรลองของระบอบปร ะชาธิปไตยอย่างแท้จริง
      
       เวลานี้เวทีพันธมิตรฯ ต่างจังหวัดผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด และเข้มแข็งจนกลายเป็นเครือข่าย คราวนี้ผู้ปราศรัยจากส่วนกลางได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับผู้ปราศรัยท้องถิ่นมากข ึ้น แนวรบเรื่อง “การเมืองใหม่” กำลังเริงร่าผลิบานอย่างเห็นได้ชัด และเต็มไปด้วยพลังกระตือรือร้น
      
       วลีว่า “พี่น้องเอ้ย” จึงดังสนั่นกึกก้องไปทั้งแผ่นดิน และกับคนทุกชนชั้น
      
       ใครจะเชื่อว่า เทศกาลปีใหม่ปีนี้ พี่น้องของเราจะแจกจานเอเอสทีวีเป็นของขวัญปีใหม่ และกำลังลามไปถึงการแจกจานเอเอสทีวีในวาระวันเกิด – ตรุษจีน และสารทจีนด้วย
      
       การเมืองใหม่เป็นอย่างนี้นี่เอง เริ่มต้นจากพลเมืองเข้มแข็งไปสู่ชุมชนเข้มแข็ง สังคมเข้มแข็ง และประเทศชาติเข้มแข็ง วรจรประชาธิปไตยแบบนี้ทำให้กระบวนการตรวจสอบคึกคัก
      
       ดังนั้น นักการเมืองเก่าๆ ที่ยังเวียนวนอยู่กับการเมืองน้ำเน่า เมื่อเห็นการชุมนุมต่อเนื่องจากพันธมิตรฯ จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศแล้ว จึงสยองขวัญหวาดผวา พวกกากเดนสารเลวเหล่านี้หวาดกลัว “พันธมิตรฯ” เสียยิ่งกว่า “แบงก์พันบาท” ปลอมที่ระบาดมาจากประเทศเพื่อนบ้านเสียอีก
      
       ยิ่งเห็นเครื่องตรวจสอบ “ธนบัตรปลอม” ขายดิบขายดีราวแจกฟรีด้วยแล้ว ไอ้นักการเมืองเวรตะไลพวกนี้ยิ่งหวาดกลัวเข้าไปใหญ่.... โดยเฉพาะกลัวว่าพันธมิตรฯ จะรู้ว่า “ใคร” และ “ไอ้หน้าไหน” เป็น “ต้นธาร” แบงก์พันปลอม
      
       ไหนๆ ก็พูดเรื่องนี้แล้ว ขอต่ออีกนิดสะกิดใจ ตำรวจเจ้าของสมญานาม “นวยทนได้” ให้ช่วยเหลือบตาไปดูหน่อยสิว่า “แบงก์พันปลอม” มาจากไหน....จาก “ประเทศเพื่อนบ้าน” ใช่หรือไม่ แล้วใครเอามาแจก ....ใช่ “เขาคนนั้น” หรือเปล่า....บอกได้แค่นี้ที่เหลือหัดไปหาเอาเองบ้าง เดี๋ยวขี้เกียจสันหลังยาว ขนขึ้นหลังไม่รู้ด้วย
      
       อย่างไรก็ตาม พวกเรามักกล่าวกันเสมอๆ ว่า พันธมิตรฯ ทั้งผองเป็นพี่น้องกัน และพี่น้องผองเพื่อนพันธมิตรฯ มีอยู่ทั่วทุกหัวระแหง ทุกซอกหลืบในสังคมไทย
      
       เรื่องนี้เจอกับตัวเอง พิสูจน์ได้ว่า เป็นคำกล่าวถูกต้อง แท้จริง ไม่เกินเลย
      
       ลองดูสิ...เวลานี้ไปไหนมาไหนมักเจอ “พ่อแม่พี่น้อง” กรากเข้ามาทักทายจับไม้จับมือ พร้อมแนะนำตัวเองว่า “ เป็นพันธมิตรฯ”
      
       บางคนจัดรุ่นให้ตัวเองเสร็จสรรพว่า รุ่น 1 คือ การชุมนุม “ทักษิณออกไป” ปี 2549
      
       และรุ่น 2 คือ การชุมนุม “การเมืองใหม่ ประชาภิวัฒน์” ปี 2551
      
       กลุ่มหลังนี้มักมีเรื่องคุยกันเยอะ เพราะชุมนุมยาวนาน แทบทุกคนมักสอบถามกันและกันว่า เธออยู่ตรงไหนที่มัฆวานฯ เธอเดินไปไหนยามดาวกระจาย ใครไปปีนทำเนียบรัฐบาล และปิดสองสนามบินบ้าง
      
       แต่ที่ “ยืดอก” มากที่สุดคือ การประกาศว่า ฉันนี่ละ “วิ่งหนีแก๊สน้ำตา” วันปิดล้อมรัฐสภาเมื่อ 7 ตุลาคม 2551
      
       ไม่เพียงพันธมิตรฯ เหล่านี้จะจัดการชุมนุมต่อเนื่อง เพื่อดับความโหยหาซึ่งกันและกัน และต่อยอดการเมืองใหม่ให้เป็นจริงเท่านั้น
      
       พี่น้องของเรายังเชื่อมโยงถึงกันและกัน ด้วยการสร้างระบบเครือข่ายขึ้นมาเอง
      
       ความรักมากมาย จนถึงข้อมูลหลากหลาย จึงได้รับการ “แบ่งปัน” ซึ่งกันและกันอย่างถ้วนหน้าเปี่ยมไมตรี
      
       ทุกคนจึงรู้จัก และไปมาหาสู่กัน ผูกสมัครรักใคร่ ตลอดจนช่วยเหลือเฟือฟายเติมเต็มซึ่งกันและกันอย่างน่าชื่นใจ
      
       ดูจากงานศพของ “ผู้กล้า” ของเราสิ
      
       มีพันธมิตรฯ จากทั่วทุกหัวระแหงมาร่วมงานอย่างแข็งขัน ทั้งๆ ที่หลายคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย แต่พวกเขามาช่วยงานเพียงเพราะเหตุผลประการเดียวคือ “เราเป็นพันธมิตรฯ ด้วยกัน” วัฒนธรรมใหม่กับการเมืองใหม่ได้เกิดขึ้นแล้ว หลังจบ “193 วัน”ของการชุมนุม
      
       แทนที่เสาร์-อาทิตย์จะนอนซึมอยู่กับบ้าน แต่พวกเขากลับลุกขึ้นมาด้วยความกระฉับกระเฉงและเดินทางไปร่วมชุมนุมยังที่ต่ างๆ บางคนไปใกล้ บางคนไปไกล แต่หลายคนอยากไปชุมนุมกับพันธมิตรฯ และแบบพันธมิตรฯ
      
       นักรบมือตบของเราหลายคนแต่งตัวโก้ในวันทำงาน และโพกผ้าไปร่วมชุมนุมในวันหยุดทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดด้วยความแข็งขัน
      
       ได้ทั้งความรู้ ได้ทั้งสานต่อความฝัน และยังได้พักผ่อนคลายความเครียดกับเพื่อนๆ พันธมิตรฯ ต่างจังหวัดที่ผลัดกันเป็นเจ้าภาพดูแลซึ่งกันและกันด้วยความเต็มอกเต็มใจ
      
       ใครจะรู้...บางคนได้เพื่อนใหม่ บางคนได้งานใหม่ และบางคนได้ “คนรัก” จากพันธมิตรฯ
      
       สัปดาห์นี้ก่อนจบและลากันไป “สวัสดีปีใหม่” ขอปิดท้ายด้วย “ช็อตเด็ด – คนดัง”
      
       เป็นบุคคลสาธารณะก็อย่างนี้ ไปไหนมาไหนมีแต่คนห้อมล้อม
      
       อย่างคนในภาพนี้ที่เจอกันโดยบังเอิญในร้านอาหารจีนชื่อ “หีบเซ่ง” ย่านเซนาโด้ สแควร์ ใจกลางมาเก๊า เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ไปทัวร์ฮ่องกง – มาเก๊ากับคิงคองทัวร์ พันธมิตรฯ เจ้าของสโลแกน หิวกิน หิวกิน ไม่อั้น
      
       คุณคิงคอง ไกด์ทัวร์พันธมิตรฯ คนเก่งพาพวกเราอันประกอบด้วย พี่ปอง –น้องเก๋ และพี่พิเชษฐ พัฒนโชติ ไปกินข้าวค่ำที่ร้านหีบเซ่ง สาขาของร้านโทโท่เก้ยที่เก่าแก่ และโด่งดัง
      
       ในร้านเล็กๆ แสนอร่อยที่อยู่ในตรอกซอกซอยแสนหายาก เราได้พบกับครอบครัวนักร้องคนดังกำลังเอร็ดอร่อยกับ “Hot Pot” เมนูขึ้นชื่อของร้าน โดยเห็น “เฮียเพ้ง – พงษ์ศักดิ์” นั่งกินโต๊ะข้างๆ กัน
      
       พวกนี้คงเอร็ดอร่อยกับอาหารจีนรสเลิศ ไม่ทันเงยหน้าขึ้นมามอง “พันธมิตรฯ” ที่นั่งร่วมร้านเดียวกัน
      
       ใครเป็นใคร...นั่งตรงไหน...ส่องดูกันเองเอง...ขี้เกียจบรรยาย
      
       เห็นรูปตัวเองแล้วไม่ต้องวี้ดว้าย ไม่ต้องมาฟ้องร้อง หรือเรียกไปกราบตีนงานนี้ ไม่ได้ถ่ายเอง แต่เป็นฝีมือ “พันธมิตรฯ” จัดให้
      
       ก็บอกแล้วไง “พันธมิตรฯ ทั้งผองเป็นพี่น้องกัน”
      
       ใครทำอะไรที่ไหน อย่างไร อย่าคิดว่า ไม่มีใครรู้
      
       พันธมิตรฯ น่ะ หูตาเป็นสับปะรดเชียว

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000151280

    เจ้ปอง ครับ

ยามออกรบ ..ช่วงนั้น ปชป.ทำอะไร เจ้ปอง ก็แสดงอาการเป็นมิตรดีหรอก ผิดใจนิดหน่อยก็มองข้ามๆไป ส่วนคุณอภิสิทธิ์ เจ้ปองก็บอกรักใคร่ชอบพอกันดี เพราะคุณอภิสิทธิ์เป็นคนดี เจ้ปองบอก.. แถมตอนนั้นเจ้ปองเป็นลีดเดอร์ของแม่ยก-พ่อยกพธม.เชียร์ มรว สุขุมพันธุ์ แรงมาก..(กลัวปลื้มเข้าวิน ซึ่งยอมไม่ได้เด็ดขาด)

ยามพักรบ..เจ้ปองด ่าปชป.ทุกวัน(ไม่เว้นแม้เรื่องในพรรค โกรธ-น้อยใจแทนใครหรือเปล่าครับ) คุณอภิสิทธิ์คนรักใคร่ชอบพอกันดีของเจ้ปองก็โดนเจ้ปองลุยทุกวัน..งานลีดเดอร ์ก็ไม่ค่อยได้ทำหน้าที่เชียร์ มรว สุขุมพันธุ์ เท่าไหร่(อย่างนี้น่ากลัว ปลื้ม จริงๆ)

ผมว่าเจ้ปองเพลาๆลุย คุณอภิสิทธิ์ และปชป. ลงบ้างเถอะครับ.. นายกฯอภิสิทธิ์เพิ่งผ่านการถวายสัตย์ฯ ยังไม่ถึงอาทิตย์เลย ดูรายการเจ้ปองทุกวันก็เห็นโดนลุยทุกวัน เรื่องที่นายกฯทำดี เริ่มต้นดี เจ้ปองไม่ค่อยพูดถึงเลย.. ผมไม่ขออะไรมากครับขอความรู้สึกของ "คนรักใคร่ชอบพอกันดี" กลับคืนมาบ้าง ไม่ต้องเชียร์มากหรอกครับ แต่ปล่อยให้ท่านได้ทำงานก่อน และคอยตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ให้เวลาท่าน เท่ากับให้เวลาประเทศไทยได้หายใจบ้างเถอะนะครับ
แฟนเจ้ปอง



ข่าวนี้พิสูจน์ได้เลย

ภาพด๊อกกี้แอนเลียดิ๊ ยังมีค่าน้อยกว่าเจ้ปองเลย

คนรอมาระบายกันเยอะเลย โดยหวังว่าเจ้จะเข้ามาอ่านบ้าง แทบจะไม่มีไครสนภาพที่เจ้เอามาลงเลย
ให้ตายเหอะค่ามันน้อยจริงๆ

ดู ดู๊ ดู พวกเราทำ ทำไมถึงทำกับเจ้ได้

เ จ้ปองเข้า 06.30 คุยๆๆ (ชอบม๊ากๆ ช่วงนี้)ไป ครึ่ง ชม. อ้าวเรามาเข้าข่าว หน้า1 กัน +++ผ่านไป30นาทีละ ผ่านไปจนจะหมดเวลา เห้ยๆ รายการเราออก 9 โมง บร้าหรอ 9โมงเราการเราอะ ..........แหม่กำลังมันเลยจบแล้ว เซ็ง...

เข้าใจกันหน่อย คนเคยอ่าน แบบ 4ชม ไม่หยุด ให้มาทำ 2.30 นาที คนทำก็แปลกคนฟังก็ขัดใจจริง อิอิ "ว้าจบแล้วหรอ"

ปีหน้า ถ้าเจ้ยังจัดรายการต่อก่อนไปเรียนต่อ ขอ
ผังรายการนี้เลย หน้า

06.30 - 10.00 ยามเช้าริมเจ้าพระยา เจ้ปองน้องเก๋
10.05 - 12.00 สภาท่าพระอาทิตย์ คุณ สำราญ
12.05 - 13.00 ข่าวเที่ยง
13.05 - 14.00 คุณบัณฑิต ท่านจันทร์ + อ.สามารถ ชอบมากๆ เข้ากันดี
14.05 - 15.30 เวทีชาวบ้าน คุณ ยุทธิยงค์
15.35 - 17.30 ชั่วโมงข่าว
17.30 - 18.00 ข่าว
18.05 - 21.00 อ.เจิมศักดิ์
21.05 - 00.00 พัธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
rerun รายการ

สาธุ ขยายเวลาเจ้ปองอีก นิดนะ ทำไงได้เคยดูวันละ 5 ชม. แล้วมาให้ดูแค่วันละ 2 ชมครึ่ง อ่า

มันไม่เต็มอิ่ม เลยจริงๆ
คนหน้าจอทั้งวัน

    เห็นด้วยกับคุณปอง ด่า ปชป. แค่นี้ยังถือว่าน้อย เตือนๆ เรียกสติ ปชป. ช่วงที่ สุเทพ วิ่งจัดตั้งรัฐบาล กอดคนโน้นคนนี้ที่เป็นระบอบทักษิณ ดิฉันยังอยากที่จะไปดาวกระจายที่พรรค ปชป.เลย ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ศรัทธา ปชป. แต่ในวันนี้บอกตรงๆว่า ผิดหวังอย่างมาก รัก ปชป. แต่รักกันด้วยสติ อย่ารัก ปชป. แบบไม่ลืมหูลืมตา ปชป.ตอนนี้เริ่มจะเดินตามรอย ทักษิณ บ้างแล้ว อย่าลืม สีขาวอยู่ใกล้สีดำมากๆ สีขาวสามารถเปลี่ยนเป็นสีดำได้เช่นเดียวกัน สิ่งที่น่าสงส่ารที่สุดในเวลานี้คือ ประเทศไทย ที่ถูกบรรดานักการเมืองเห็นประเทศชาติเป็นของเล่น และในที่สุด ประเทศไทยที่ทุกคนเคยภูมิใจ ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว อีกหน่อยจะไม่เหลืออะไรเลย ถ้านักการเมืองยังเดินไปทิศทางเดียวกัน ฉะนั้นอย่าไปว่าคุณปองเลย ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณปองพูดนั้นเป็นไปตามเนื้อผ้า เห็นอย่างไรพูดไปอย่างนั้นตามคอลัมน์ที่คุณปองเขี่ยน รักมาร์ค รักปชป. รักอย่างมีสตินะคะ .
mamprisana@gmail.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น