++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2551

“รมว.กษิต” จุดยืนมั่นคง ยืนยันสื่อนอก พันธมิตรฯ ทำสิ่งที่ถูกต้อง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์     22 ธันวาคม 2551 20:29 น.


ASTVผู้จัดการออนไลน์ – รมว.ต่างประเทศ “กษิต ภิรมย์” ไม่หวั่นข้อกล่าวหาว่าเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ชี้ “นักการทูต-สื่อนอก” ควรดีใจที่ พันธมิตรฯ ทำสิ่งที่ถูก ในการต่อต้านการคอร์รัปชัน และขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดของทักษิณ ชี้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในสังคมใดที่ไม่มีต้นทุน อัดกลับคำถามเสี้ยม การ์ดติดอาวุธหนัก เผย ปกติภรรยาก็ไปชุมนุมทุกเย็น มีแค่อาหารกับยา
      
       ภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้รับการโปรดเกล้าฯจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็เริ่มมีเสียงกล่าวโจมตีจากกลุ่มอำนาจเก่าหลายประเด็น โดยหนึ่งในประเด็นของการโจมตีที่ดูเหมือนว่าจะถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงมากที่ส ุด ก็คือ กรณีที่ นายกษิต ภิรมย์ อดีตเอกอัครราชทูตหลายประเทศได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเ ทศ
      
       ทั้งนี้ ประเด็นที่กลุ่มอำนาจเก่า และสื่อในเครือข่ายใช้โจมตี ก็คือ นายกษิต เป็นคนของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพราะเคยขึ้นปราศรัยและเป็นวิทยากรบนเวทีพันธมิตรฯ มาแล้วหลายที่ รวมถึงที่สนามบินสุวรรณภูมิ
      
       สำหรับข้อกล่าวหาดังกล่าว มีหลักฐานปรากฏชัดว่า นายกษิต นั้น เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ.2549 ทั้งยังเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญทางด้านการต่างประเทศ โดยตำแหน่งสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ คือ เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.นอกจากนี้ เมื่อเข้าเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ก็ทำงานด้านการต่างประเทศให้พรรคมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ด้านการต่างประเทศ รมว.ต่างประเทศเงา เป็นต้น ขณะที่ทางกลุ่มพันธมิตรฯ เอง ก็ออกมายืนยันชัดเจนว่า นายกษิต ไม่ได้เป็น รมต.เพราะพันธมิตรฯ แน่นอน
      
       ล่าสุด บุคลากรในเครือข่ายระบอบทักษิณและสื่อจำนวนหนึ่งได้พยายามโจมตี ว่า นายกษิต ไม่มีความเหมาะสม โดยอ้างเหตุผลว่าเป็นหนึ่งในผู้ร่วม “ไฮแจ็ค” สนามบินสุวรรณภูมิ กับกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วย โดยในประเด็นนี้ นายกษิต รมว.ต่างประเทศ คนใหม่ ได้ตอบคำถามนักการทูต และผู้สื่อต่างประเทศจำนวนหนึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (19 ธ.ค.) โดยมีรายละเอียดโดยคร่าวดังนี้
      
       ประเด็นแรก นายกษิต กล่าวยืนยันกับนักการทูต และผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ว่า ตนมองการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ นั้น เป็นการขับเคลื่อนกระบวนการประชาธิปไตยไปข้างหน้า โดยเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านการคอร์รัปชัน และรัฐบาลหุ่นเชิดที่ถูกเชิดโดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และยืนยันว่า การชักใยอยู่เบื้องหลังการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้
      
       “การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ นั้น เป็นสิ่งที่ชาวต่างประเทศควรจะดีใจ เพราะถือว่าเป็นครั้งแรกที่ประชาชนคนธรรมดา มีอำนาจเต็มที่ในการต่อต้านการคอร์รัปชัน และการที่สังคมต่างๆ จะเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่าได้ ก็จำเป็นต้องมีราคาที่ต้องจ่าย” รมว.ต่างประเทศ คนใหม่ กล่าว
      
       ในส่วนที่มีการถามว่ากองทัพมีส่วนอย่างไรกับการทำให้ พรรคประชาธิปัตย์ ได้จัดตั้งรัฐบาล นายกษิต ก็ตอบคำถามว่า ตนไม่ทราบ
      
       สำหรับข้อความที่สื่อไทย-สื่อต่างประเทศ หลายฉบับได้พยายามหยิบยกขึ้นมา ก็คือ ประโยคที่ นายกษิต กล่าวถึงการชุมนุมในบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ ว่า “เป็นการชุมนุมที่สนุก (a lot of fun) อาหารก็ยอด เพลงก็เยี่ยม” นั้น ถือเป็นการกล่าวอย่างติดตลกของนายกษิตมากกว่า
      
       ขณะที่เมื่อมีชาวต่างประเทศตั้งคำถาม โดยกล่าวหาว่า กลุ่มพันธมิตรฯ มีการว่าจ้าง “การ์ด” ติดอาวุธต่างๆ ทั้งไม้พลอง ปืน และ ระเบิด นายกษิต ก็ได้กล่าววิพากษ์ว่าเป็นคำถามที่ชักจูงให้รู้สึกว่าการเคลื่อนไหวของพันธมิ ตรฯ นั้น มีการใช้ความรุนแรง ทั้งๆ ที่ผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการชุมนุม 193 วันนั้น เป็นส่วนใหญ่เป็นกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งหมด
      
       นอกจากนี้ นายกษิต ยังตอบกลับไปด้วยว่า “คนอื่นหาว่าเรามีอาวุธ แต่ภรรยาผมก็ไปร่วมชุมนุมทุกเย็น แล้วเธอพกอาวุธอะไรไปน่ะเหรอ ก็อาหารกับยาน่ะซิ!





   ผมเป็น พทม.นฐ.ขอกราบขอบคุณ ท่าน กษิต ภิรมย์ มากครับ ตั้งแต่เริ่มมี ทีมข่าง ASTV กับ ทีมคุณ สนธิ ลิ้มทองกุล ผมเริ่มมีความสนใจถึงความเป็นอยู่ของประเทศมากขึ้นและเริ่มรู้เช่นเห็นชาติ สส.และรัฐบาลรวมถึงข้าราชการทั้งหมดว่าเป็นเช่นไร ตั้งแต่พทม.เริ่ม25 พค.51ในครั้งนี้ทำให้ผมเห็นว่า เป็นครั้งที่สำคัญมากที่ทำให้เกิดกลุ่มผู้กล้าที่ออกมาสู้เพื่อชาติและประเท ศรวมถึงสิ่งที่เขาเถิดทูน โดยใช้ชื่อว่า พทม. ข้าราชการที่ดีเริ่มออกมาร่วมต่อสู้มีทั้งเปิดเผยตัวเองและไม่เปิดเผย แบ่งแยกเห็นๆชัดเจน
     แต่ข้าราชการที่เปิดเผยตัวตนและมีจุดยืนมานานที่ไม่ได้มองว่ากลุ่มนี้คือกลุ ่มใคร เพียงต้องการองค์ความรู้จะพร้อมที่จะไปให้ในทุกฝ่าย โดยมีจุดยืนที่ประเทศชาติ ประชาชนต้องได้รับรู้ความจริง ผิดคือผิด ถูกคือถูก เขาผู้นี้คือ ท่านกษิต ภิรมย์ ข้าราชการในพระบาทสมเด็จฯ ตัวจริง
    ด้วยจิตรคารวะ
    พทม.นฐ.

----


นายกฯ เผยได้รับทราบข้อเท็จจริงจาก “กษิต” แล้ว ย้ำไม่จำเป็นต้องปลด รมว.ต่างประเทศ เพราะพูดก่อนเข้ารับตำแหน่ง พร้อมยันไม่ต้องลบภาพความสัมพันธ์กับพันธมิตรฯ เพราะทุกคนสามารถวิจารณ์ได้ ชี้การบริหารงานจะเป็นบทพิสูจน์ รวมถึงมาตรการที่ต้องไม่ให้มีการปิดล้อมสนามบินอีก เร่งสร้างความเชื่อมั่น ขณะเดียวกัน มอบ “ปณิธาน” ปฏิบัติหน้าที่แทนโฆษกรัฐบาล
      
       วันนี้ (24 ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีสว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการปิดสนามบินของพันธมิตรฯเป็นเรื่องสนุกสนาน ซึ่งเกรงกันว่าจะทำให้บานปลายกระทบเรื่องการสร้างความเชื่อมั่น ว่า เมื่อวาน(23 ธ.ค.) ได้ออกแนวทางการทำงาน 9 ข้อ สิ่งที่เกิดขึ้นกับนายกษิต ก่อนที่จะมีพระบรมราชโองการฯ ตนไม่ได้รับทราบ มาอ่านจากหนังสือพิมพ์ทีหลังและได้สอบถามนายกษิต แล้ว ท่านอธิบายว่า สิ่งที่พูดเจตนาที่พูดกับสิ่งที่ถ่ายทอดออกมาอาจไม่ตรงกัน แต่จากนี้ไป นายกษิต มีหน้าที่จะยึดนโยบายของรัฐบาลตามแนวทาง 9 ข้อที่ให้ไว้ ฉะนั้นหลักขณะนี้ของกระทรวงการต่างประเทศคือ จะต้องไปยืนยันว่ารัฐบาลนี้จะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ได้ละเมิดกฎหมายใน ช่วงที่ผ่านมาโดยเท่าเทียมกัน
      
       เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรให้ภาพ ส่งผลเรื่องความเป็นกลาง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราเอาของจริง ไม่ต้องพูดถึงเรื่องภาพ เรื่องพวกอะไรเอาของจริง คือ คดีความต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับเรื่องของการชุมนุม ไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็ตาม จะให้ทางเจ้าหน้าที่เดินหน้าอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการเลือกปฏิบัติ
      
       ผู้สื่อข่าวถามว่า พอจะชี้แจงความสัมพันธ์ระหว่างนายกฯ นายกษิต และพันธมิตรฯ ได้หรือไม่เพราะวันนี้มีการโยงว่ามีความสัมพันธ์เกี่ยวดองกันนายอภิสิทธิ์กล ่าวว่า ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรเป็นพิเศษนอกจากการเมืองภาคประชาชนที่มีความเคลื่อ นไหว เป็นเรื่องที่ตน ติดตามตลอดทุกฝ่ายทุกกลุ่ม ข้อเรียกร้องของแต่ละกลุ่มบางทีตรงกับจุดยืนของตน ของพรรค บางข้อเรียกร้องก็ไม่ตรงก็ไม่มีอะไร ตนมีหน้าที่ ในการปกป้องสิทธิตามรัฐธรรมนูญของทุกคน และยืนยันมาตลอดว่า อะไรที่ไม่ตรงกับจุดยินของตนและอะไรที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ตนก็แสดงความไม่เห็นด้วยคัดค้านมาโดยตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร
      
       เมื่อถามว่า จะลบภาพที่นายกษิตขึ้นเวทีพันธมิตรฯอย่างไร เพราะอาจจะกระทบกับตำแหน่งรมว.ต่างประเทศ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คิดว่าไม่มีความจำเป็นที่เราจะลบภาพหรือไม่ลบภาพแต่คนที่เข้ามาอยู่ในตำแหน่ งต้องทำตามหน้าที่ ทำตามนโยบายของรัฐบาล เมื่อทำอย่างนี้แล้ว คิดว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย เมื่อถามว่า จะทำให้ถูกโจมตีตลอดเวลาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การวิพากษ์วิจารณ์โจมตี สามารถทำได้ ตนมีหน้าที่ในการชี้แจงและขอยืนยันว่า อะไรที่ใครทำไว้ไม่ถูกต้องรัฐบาลนี้จะไม่ปกป้องโดยไม่ต้องไปเลือกดูว่าเป็นก ารกระทำของใคร เมื่อถามว่า จะให้ความมั่นใจกับชาวต่างชาติอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สื่อญี่ปุ่นทั้งหมดมาสัมภาษณ์ตนได้ยืนยันไปชัดเจน ซึ่งเขาก็เข้าใจดี ส่วนมาตรการของสนามบิน จะเป็นหนึ่งในมาตรการที่รัฐบาลต้องเร่งพิจารณาหลังแถลงนโยบาย
      
       ต่อข้อถามที่ว่า กังวลหรือไม่ว่านายกษิต จะกลายเป็นสายล่อฟ้าคนแรกของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คิดว่ารัฐมนตรีทุกคนต้องพร้อมที่จะถูกตรวจสอบอยู่แล้ว และท่านก็มีหน้าที่ชี้แจง หากชี้แจงแล้วไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นได้ ก็ค่อยว่ากันอีกที แต่ขณะนี้ท่านมีความมั่นใจว่า จะสามารถทำความเข้าใจได้ ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายนายกษิต ในวันแถลงนโยบายนั้น คิดว่า เขาคงอภิปรายหลายคน ไม่มีปัญหา เมื่อถามว่า มีการเสนอถึงขั้นให้เปลี่ยนตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ คิดว่าจำเป็นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในชั้นนี้คิดว่าไม่จำเป็น เพราะนโยบายของรัฐบาลที่ปรากฏต่อสื่อสาธารณะมีความชัดเจน การให้สัมภาษณ์ของนายกษิต ที่ปรากฏออกไป ที่อ้างว่าเป็นปัญหากันอยู่ เกิดขึ้นก่อนจะมาเป็นรัฐมนตรี หลังจากนี้ไปจุดยืนของรัฐบาลและรัฐมนตรี จะเป็นไปอย่างที่ตนได้ประกาศไปแล้ว ไม่มีแนวทางอื่น
      
       เมื่อถามว่า เหตุการณ์จะเกิดขึ้นก่อนหรือหลังไม่สำคัญเท่าสำนึก หรือจิตวิญญาณ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คิดว่าต้องให้ความเป็นธรรมด้วยว่า สิ่งที่นายกษิตพูด ๆ ในบริบทอะไร ตอบคำถามอะไรและพูดในแง่มุมไหน ตนอ่านแล้วก็พอเข้าใจว่า สิ่งที่พยายามสื่อสารนั้นคืออะไร เช่น พยายามจะตอบว่าการชุมนุมที่เกิดขึ้นเป็นการชุมนุมซึ่งคนส่วนใหญ่มองว่า ไม่ได้มีปัญหาเรื่องความรุนแรง จุดประสงค์คืออย่างนั้น แต่เมื่อถ่ายทอดออกมาทำให้เกิดความรู้สึกว่า ไปสนับสนุนหรือเห็นดีเห็นชอบกับการปิดสนามบินหรือไม่เท่านั้นเอง แต่ต่อจากนี้ไปแนวทางต้องชัดเจนว่าเรื่องการปิดสนามบิน เป็นปัญหาและเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ ต้องดำเนินการ
      
       นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ยังว่างลงว่า นายปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะทำหน้าที่รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมืองและปฏิบัติหน้าที่แทนโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในช่วงที่ยังไม่มีคนมาทำหน้าที่นี้ไปก่อน

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000150957
    รศ. ดร.ปณิธาน วัฒนายากร อ. ประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ นายกฯ อภิสิทธิ์ เลือกเป็น โฆษก รัฐบาล ควบรองเลขานายกฯ อ.เป็นคนเก่งมาก รอบรู้และเข้าใจเรื่องการต่างประเทศ ยุทธศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อย่างดี

พ ี่ปอง บอกว่า “ไม่เข้าใจ คนในพรรค ปชป มีตั้งเยอะทำไมไม่เลือก ทะเลาะกันจะตายเรื่องตำแหน่ง ไปเอาคนนอกมาทำไม” อยากบอกพี่ปองว่า เห็นมีคนชอบ วิจารณ์ ครม.ว่าทำไมนายกฯ ไม่เลือกคนนอกเก่งๆ มาช่วยงาน.. ตำแหน่งนี้ท่านนายกฯเลือกเอง ท่านเลือกอ.ปณิธาน.. ซึ่ง อ.เก่งมาก เก่งทั้งด้านความรู้วิชาการและพูดได้เข้าใจ มีหลักการ เป็นระบบ เป็นเหตุ เป็นผล ดีมาก รวมถึงบุคลิกเหมาะสมมาก จะมีคุณประโยชน์ต่อประเทศ จึงไม่อยากให้พี่ปองพูดแบบนั้น จะสร้างความแตกแยก (พี่ปองพูดมาสองวันแล้ว)
ชื่นชม อ.


    นายกอภิสิทธิ์ ฯ เยี่ยมยอดมาก
พวกที่ออกมาว่า รมว.กษิตฯ นั้น
เพราะพวก มรันกลัว รมว.กษิต
แทนแม้ว

ท่านกษิต ฯ ท่านตรง เฉียบ
เราขอเป็นกำลังใจให้
can

ครม.ชุดนี้ประวัติดีที่สุดคือท่านทูตกษิต เก่ง สุภาพ พูดตรงไปตรงมา ไม่ใช้อารมย์ พูดมีเหตมีผล และเทอดทูนสถาบันมาก เหมาะที่จะเป็น รมว.ต่างประเทศมาก ถ้านายกิภิสิทธิ์ปลดท่าน ภาพลักษณ์ของครม.ชุดนี้จะแย่มาก เพราะมีแต่ภาพความโกงกิน และเห็นแก่ตัว ทักษิณ คงกลัวคนดีอย่างท่านมากถึงให้ลิ่วล้อออกมาป่วน ทองแท้ต้องไม่กลัวไฟ ขอให้ท่านอดทนให้มากที่สุดท่านจะได้ช่วยประเทศชาติบ้านเมืองในยามที่สยามหาค นดียากเต็มทน
เด็กวัด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น