โดย สุวิชชา เพียราษฎร์ 29 ธันวาคม 2551 18:38 น.
ส่งท้ายปีเก่า :
หากมองย้อนทบทวนเหตุการณ์ต่างๆ ในปี 2551 ที่กำลังจะผ่านไปในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้คงไม่มีใครปฏิเสธว่า เป็นปีแห่ง ‘วิกฤต’ จริงๆ
วิกฤตทั้งเศรษฐกิจ และการเมือง ซึ่งผลกระทบของมันลุกลามแพร่กระจายเป็นวงกว้างและรุนแรงที่สุดในรอบหลายๆ ปีที่ผ่านมา
จากพิษปัญหาสินเชื่อด้อยคุณภาพหรือซับไพรม์ของสหรัฐฯ ที่เดิมก็กัดแทะกินลึกอยู่ในระบบเศรษฐกิจโลกมาเรื่อยๆ และปะทุขึ้นอีกครั้งจนส่งผลให้สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจ ะล้มละลายได้ พังครืนลงมา ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ สร้างความหวั่นวิตกต่อตลาดเงิน-ตลาดทุนไปทั่วโลก
มิหนำซ้ำ ภาวะเศรษฐกิจไทยที่ตายซากอยู่แล้วยังถูกซ้ำเติมด้วยปัญหาการเก็งกำไรราคาน้ำ มัน ราคาขายปลีกน้ำมันที่ทำสถิติสูงสุดใหม่วันเว้นวันช่วงนั้นส่งผลให้เงินเฟ้อพ ุ่งทะยานคุกคามความเป็นอยู่ของคนไทยอึดอัดแทบตาย
ขณะที่ภาคการเมือง การเข้ามาของรัฐบาลนอมินีของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทั้งรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้กลายเป็นฝันร้ายที่ประชาชนจะไม่มีวันลืม
เหตุเพราะรัฐบาลทั้งสองชุดเข้ามาเจตนามุ่งหวังแต่เพียงแก้ปัญหารักษาผลประโย ชน์ให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ คนคนเดียว จนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยลุกฮือขับไล่สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ก ารเมืองภาคประชาชนที่ต่อสู้ยืดเยื้อยาวนานกว่า 193 วัน
กระนั้นการต่อสู้ของพันธมิตรฯ ก็แลกมาด้วยการสูญเสียบาดเจ็บ และเสียชีวิตด้วยฝีมือของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สั่งสลายการชุมนุมหน้ ารัฐสภาในวันที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แถลงนโยบายเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551
ต้อนรับปีใหม่ :
สำหรับปี 2552 ปีใหม่ที่รออยู่ วิกฤตทั้งสองนี้แนวโน้มจะเป็นเช่นใด จะคลี่คลายขึ้นหรือไม่? ขณะเดียวกันจะมีวิกฤตอื่นๆ ซุกซ่อนโผล่ขึ้นมาเป็นปัญหาแทรกซ้อน กระทบต่อการดำรงชีวิตของเราคนไทยอะไรอีกบ้าง?
โอกาสนี้ กองบรรณาธิการ “ASTV ผู้จัดการรายวัน” ร ่วมกับสำนักพิมพ์บ้านพระอาทิตย์ ได้รวบรวมเรียบเรียงจากการค้นคว้าหาข้อมูลสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้องเพื่อตอบโจท ก์ดังกล่าว โดยได้จัดทำเป็นเล่มในรูปแบบพ็อกเกตบุ๊กให้อ่านง่ายๆ ในชื่อ “10 วิกฤตชาติ’52” ซึ่งก็นับเป็นปีที่ 3 ติดต่อแล้ว
ในหนังสือเล่มนี้จะชี้ให้เห็นว่าด้วยปัจจัยพื้นฐาน และวิกฤตที่ยังคงต่อเนื่องจากปี2551 คนไทยยังจะต้องเจอวิกฤตในวิกฤต, วิกฤตที่สุดซึ่งซุกซ่อนความร้ายแรงไว้บั่นทอนทำลายชีวิตความเป็นอยู่อีกนานั ปการในปี 2552
เริ่มผลพวงจาก “วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์” ซึ่งขณะนี้ชัดเจนมากกว่าเศรษฐกิจโลกปี 2552 ไม่อาจหลีกเลี่ยงภาวะถดถอย วิกฤตจะแพร่กระจายความรุนแรงลงสู่ภาคธุรกิจต่อเนื่อง ซึ่งนั่นก็หมายถึง การจ้างงาน การตกงานที่จะเกิดขึ้นมากมายมหาศาลอย่างไม่ต้องสงสัย
ไม่เฉพาะแต่กลุ่มคนทำงานในภาคธุรกิจ ความเลวร้ายของเศรษฐกิจถดถอย ส่งออกหดตัวก็จะพลอยทำให้สินค้าเกษตรที่เคยขายได้ราคา เกษตรกรเคยมีช่วงเวลากอบโกยราวกับตกหลุมทอง ปีนี้ภาวะเช่นนั้นก็จะไม่หวนคืนมาอีกแล้ว
เช่นเดียวกันกับผู้บริโภคทั่วๆ ไปที่ยังจะต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตพลังงาน โดยเฉพาะที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น น้ำมัน และแก๊ส ความล้มเหลวของการจัดการภาครัฐได้ให้บทเรียนแก่เราเมื่อปี 2551 มาแล้วอย่างแสนสาหัส หากรัฐบาลใหม่ไม่แก้ปัญหานี้ ทุกอย่างก็น่าจะยังคงอยู่ในวงจรความไม่สมดุลของการใช้พลังงานเหมือนเดิม
ความหวังการฟื้นฟูเศรษฐกิจก็คงต้องรอดูฝีมือรัฐบาลใหม่ เช่นเดียวกับภาคการเมืองที่ปัญหาถูกหมักหมมมานาน การเปลี่ยนขั้วอำนาจ คลื่นใต้น้ำก่อกวนความไม่สงบจากกลุ่มอำนาจเก่าจากนี้ไป ตุลาการภิวัฒน์กับนอมินีทักษิณจะเป็นปมที่น่าสนใจยิ่งว่าจะเกิดผลอะไรตามมาอ ีก
อย่างไรก็ดี ท่ามกลางวิกฤตการเมืองที่ต่อเนื่องมาจากปี 2551 สิ่งที่เห็นชัดเจนอีกอย่างก็คือ วิกฤตสื่อ โดยปีที่แล้วสื่อต่างๆ ได้แปรเปลี่ยนจากการทำหน้าที่สื่อมวลชนก้าวล่วงไปสู่การกำหนดข่าวเพื่อเป้าห มายทำลายศัตรูทางการเมือง รวมถึงการล้มล้างสถาบันอย่างชัดเจนนั้นจะยังเป็นปัญหาต่อไปแค่ไหน อย่างไร
ทั้งหมดนี้เป็นปรากฏการณ์ที่น่าจับตามองในปีวัว!
เมื่อรวมกับอีก 2 วิกฤตซึ่งผ่านการมองและกลั่นออกมาจากประสบการณ์จริงของ อ.ธรณ์ ธำรงนาสวัสดิ์ ได้แก่ วิกฤตการศึกษา และวิกฤตสิ่งแวดล้อมและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ก็จะรวมเป็น 10 วิกฤตชาติที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2552
ทั้งนี้ กองบรรณาธิการฯ หวังว่า ปัญหาแม้จะหนักหนาสาหัส วิกฤตภัยแม้จะนำมาซึ่งความเสียหาย แต่ตราบใดที่มีข้อมูลเป็นเครื่องนำทาง เป็นเข็มทิศให้ชีวิตได้เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ ก็เชื่อได้ว่า เราคนไทยจะผ่านมันออกไปได้เหมือนๆ ทุกครั้งที่ผ่านมา
ลาทีปีเก่า และขอสวัสดีปีใหม่ครับ.
ท ่านผู้อ่านสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพิ่มเติมได้ที่ เอ็มบล็อก http://mblog.manager.co.th/suwitcha67 หรือ E-mail suwitcha@manager.co.th
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000153053
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น