++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2551

เสียใจ ผิดหวัง เสื่อมศรัทธา ประชาธิปัตย์

โดย ปราโมทย์ นาครทรรพ     24 ธันวาคม 2551 18:32 น.
       ท่านผู้อ่านที่เคารพ ถ้าหากหัวข้อข้างบนนี้เป็นคำของผม ผมคงไม่พ้นที่จะถูกยำใหญ่จากองครักษ์พิทักษ์ประชาธิปัตย์เป็นแน่ แต่คำพูดข้างต้นนี้เป็นของ คุณจุติ ไกรฤกษ์ ขุนพลภาคเหนือคนหนึ่งของ พรรคประชาธิปัตย์
      
        ผมขอเสนอภาพของ คุณจุติ และคำบรรยายภาพในเว็บ www. Abhisit .org และผนวกเพื่อน ส.ส.ของคุณจุติเข้าไปอีก 3 คนคือ คุณนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ องอาจ คล้ามไพบูลย์ และ พล.อ.พิชาญเมธ ม่วงมณี ทั้งหมดเป็นรัฐมนตรีเงาของพรรคประชาธิปัตย์
      
        ท่านผู้อ่านที่อยากรู้ว่ารัฐมนตรีเงามีผู้ใดบ้าง โปรดเปิดดู www.abhisit.org ใครได้ตำแหน่งตรงกับกระทรวงที่วางไว้หรือไม่ ส่วนคนที่พลาดเมื่อเทียบกับคนพรรคร่วมแล้วคุณภาพใกล้เคียงหรือแตกต่างกันเพี ยงใด ทำไมสภาหอการค้าฯ และภาคเอกชนจึงโวยวายยี้กันเป็นการใหญ่ ก ารจัด ครม.ครั้งนี้ อาจทำให้เห็นว่าคำพูดและการกระทำของอภิสิทธิ์ตรงกันหรือไม่ ทำไมไม่จัดการให้เรียบร้อยภายในพรรคเสียก่อน ปล่อยให้ นิพิฏฐ์ กับ จุติ ออกมาสาวไส้ให้กากินทำไม คำแก้ตัวของสุเทพและอภิสิทธิ์ฟังขึ้นหรือไม่
      
        “เปลว สีเงิน” ออกมาสะท้อนเสียงประชาชนว่า “ครม.อภิสิทธิ์จึง “ยี้แตก” กันทั้งเมือง!”
      
       ผมอยากให้ท่านผู้อ่านช่วยกันคิดว่าจะรับเหตุผลของ คุณเปลว ดีหรือไม่
      
       เรื่องที่ 1 เปลว สีเงิน เขียนว่า แต่ในส่วนตัวผม ไม่ใช่ “ยี้” เพราะประชาธิปัตย์ไปเอาคนนอก 2 คนอย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ นายวีรชัย วีระเมธีกุล มาเป็นรัฐมนตรี และก็ไม่ได้ “ยี้” เพราะเห็นว่าคนที่พลาดตำแหน่ง “ดีกว่า” คนนอก 2 คนนั้น! แต่ “ยี้” เพราะพรรคร่วมรัฐบาลที่ นายสุเทพ ยกกระทรวงหลักๆ ให้ไปเป็นของชำร่วยที่มาช่วยงานครั้งนี้ เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรม
      
       เรื่องที่ 2 “แย่งเก้าอี้รัฐมนตรี ไม่น่ารังเกียจ” แต่การไม่ได้เก้าอี้รัฐมนตรีแล้ว “เผาบ้าน” ตัวเองอย่างนี้ถือว่า “น่ารังเกียจ” ยิ่งเกิดกับพรรคประชาธิปัตย์ที่ยกตนว่าเป็น “สถาบันการเมือง” “ผมว่าน่าขยะแขยง” คนอย่าง “นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” ออกมาด่าประจานพรรคตัวเองอย่างน่าละอาย
      
        ผมเคยพูดเรื่องที่ 1 ไปแล้วในบทความฉบับก่อน ส่วนเรื่องที่ 2 ถึงผมจะเคารพความคิดเห็นของ เปลว สีเงิน ผมก็เห็นใจทั้ง นิพิฏฐ์ และ จุติ และเห็นว่าการที่ทั้งสองออกมาพูดนั้นอาจจะจำเป็น ถ้าหากประชาธิปัตย์อยากจะปฏิรูปพรรคอย่างจริงจัง เพราะก๊วนผู้นำของประชาธิปัตย์กระทำเรื่องเยี่ยงนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้ง นิพิฏฐ์ และ จุติ เป็นทรัพยากรชั้นดีของ ประชาธิปัตย์ จุติ นั้นเป็นทายาทรุ่น 3 ของนักการเมืองตัวอย่างของ พิษณุโลก เป็นหลานปู่ของ ร.ท.จงกล ไกรฤกษ์ เป็นลูกชายของ โกศล ไกรฤกษ์ ศิษย์ก้นกุฏิของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อย่างนี้เป็นนักการเมืองพันธุ์แท้ที่ควรสนับสนุน มิใช่จะมัวโอ๋แต่พวก ทายาทอสูร หรือนอมินีผัว-เมีย-ชู้ ผู้มีเงินที่ได้ดีเกร่อในการเมืองไทย
      
        ผมชมเชย องอาจ คล้ามไพบูลย์ บัณฑิตจากสวีเดนและ ส.ส.ยอดขยันหลายสมัย และ พล.อ.พิชาญเมธ ที่มิได้ออกมาส่งเสียงเอะอะ แต่ผมหวังว่าทั้งสองคงจะร่วมขบวนการ “ค้นหาวิญญาณที่แท้จริงของประชาธิปัตย์” เพื่อจะให้ประชาธิปัตย์เป็นพรรคของสมาชิกและประชาชนอย่างแท้จริง
      
        “เสียใจ ผิดหวัง และเสื่อมศรัทธา” แม้นจะกลั่นออกมาจากใจของ นายจุติ แต่มีประชาธิปัตย์รุ่นแล้วรุ่นเล่าที่ได้ขานรับคำกล่าวดังกล่าว ด้วยการเดินขบวนออกจากประชาธิปัตย์ไปอย่างไม่ไยดี ไม่ว่าจะเป็น “เสือ-สิงห์-กระทิง-แรด” ที่ย้ายกันคนละ 4—5 พรรคอย่าง เฉลิม อยู่บำรุง เชาวรินทร์ ลัทธิศักดิ์ศิริ จาตุรนต์ ฉายแสง หรือพวกอุดมกการณ์กลับอย่าง สมัคร สุนทรเวช นอกจากกลุ่ม 16 มกรา นำด้วยเฉลิมพันธุ์ ศรีวิกรม์ ที่มี วีระ มุสิกพงศ์ ห้อยติ่งมาด้วย ทั้งคู่เป็นอดีตเลขาธิการพรรค เช่นเดียวกับ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ใช้เลขาธิการเปลืองที่สุดและแตกพรรคมากที่สุด ที่สำคัญประชาธิปัตย์เสียนักการเมืองน้ำดีมากมาย เช่น คึกฤทธิ์ ปราโมช ใหญ่ สวิตชาติ บุญเท่ง ทองสวัสดิ์ อุทัย พิมพ์ใจชน บุญชู โรจนเสถียร พิจิตต รัตตกุล เป็นต้น
      
       ถ้าประชาธิปัตย์ยัง “ค้นหาวิญญาณที่แท้จริง” ของตนไม่พบ และมีการกระทำที่ไม่ใช่สมาชิกเท่านั้น แต่เป็นประชาชนที่ต้อง “เสียใจ ผิดหวัง และเสื่อมศรัทธา” ครั้งแล้วครั้งเล่า ในไม่ช้าก็จะไม่มีประชาธิปัตย์ในทะเบียนพรรคการเมืองไทย


ผมได้รับจดหมายจากท่านผู้อ่าน เขียนมาจากเมืองยูสตัน รัฐเท็กซัส โรงเรียนเก่าของทักษิณ ผมเห็นว่าน่าอ่าน จึงขอคัดมาโดยมิได้ตัดทอน
      
       ตอนนี้ใครๆ ต่างก็ดีใจที่ได้รัฐบาลใหม่แต่คนเดิม มีคนที่ทุกคนตั้งความหวังว่า น่าจะดีอยู่คนเดียว ก็คือ อภิสิทธิ์ และก็คิดว่า บุคคลนี้จะสามารถสร้างปาฏิหาริย์เป็นผู้มากู้ชาติบ้านเมือง ก็ในเมื่อทุกคนต่างดีใจ ในฐานะคนไทยที่ชื่นชอบนิยมทำกันตามกระแส ผมก็คงบอกว่า ดีใจด้วย อย่างน้อยก็ช่วยผ่อนคลายการนองเลือดไปได้ ส่วนจะหวังการเมืองใหม่ที่ประชาชนจะผ่องใสในระยะยาวคงไม่ใช่อย่างแน่นอน แต่จะเอาอะไรกับบ้านเมืองนี้ ที่ความคิดส่วนใหญ่ของคนที่อ่อนแอ พร้อมที่จะไหลตามกระแสของความคลั่งไคล้ในตัวบุคคล จนลืมหลักการ
      
       1. ผมไม่เชื่อว่า อภิสิทธิ์จะสามารถทำอะไรภายใต้พรรคการเมืองที่ชื่อว่า “ประชาธิปัตย์” ได้ดีไปกว่านายกฯ คนอื่นเพราะอภิสิทธิ์เองต้องอาศัยคนอื่นหายใจ และอาศัยกำลังของคนอื่น นอกจากอาศัยพวกคนเก่ากินเมืองในพรรค ซึ่งถึงวันนี้ก็ยังต้องอาศัยคนอื่นที่ร่วมกันโกงกินทำลายบ้านเมืองมาแล้วมาห นุนหลัง โดยสามารถสร้างประวัติศาสตร์ให้ส่วนตัวและวงศ์ตระกูลว่า เป็นนายกฯ หนุ่มที่สุดในประเทศไทย แต่ประเทศชาติจะได้อะไร คงเป็นคำถามที่รอคำตอบ
      
       ผมเองเป็นคนใต้แต่ไม่เคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์ เพราะไม่เคยเห็นพรรคพวกดีกว่าชาติบ้านเมือง พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองมานานแต่ก็ไม่ได้พัฒนาอะไร เคยขึ้นมาเป็นรัฐบาลกี่ครั้งส่วนใหญ่ก็ไปเพราะการโกงกินเหมือนกัน และก็ลงคะแนนไม่เลือกใครเกือบทุกครั้ง เนื่องจากยังหาคนดีไม่ได้ ก็ขอไม่ร่วมเลือกคนมาทำลายชาติบ้านเมือง นั่นเป็นทางเลือกเดียวที่ผมทำได้ ช่วยไม่ได้ก็ไม่ขอร่วมทำลายชาติบ้านเมือง มีอยู่เพียงครั้งเดียวที่จำต้องเลือกประชาธิปัตย์ในสมัยของไอ้ทรราชหน้าเหลี ่ยม เพราะหวังต้องการเลือกให้หมาต่างกลุ่มมากัดแข้งกัดขากันเอง
      
       2. สำหรับไอ้ห้อยเนวินแล้ว ผมว่า เหตุผลเดียวที่เขาจะช่วยประชาธิปัตย์ทำลายทักษิณ ก็คงเพียงทำลายชื่อของทักษิณให้หมดไปจากคนอีสาน เนื่องจากไม่ต้องการให้มีกำลังกลับมาแก้แค้นได้ในภายหลัง นับจากนี้เราจะเห็นชื่อของทักษิณค่อยๆ หายไปพร้อมกับความเจ็บแค้นข้ามชาติที่ฝังอยู่ในจิตใจของทรราชเอง นี่แหละพิษสงของนักกินเมืองไทย แต่เขาจะใช้วิธีการเดียวกับทักษิณ เพราะเขารู้เหมือนคนไทยทุกคนว่า ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีประเทศนี้ ใครก็ซื้อได้ ขอให้เพียงมีเสียงข้างมากจะลากเอาโจรมาเป็นนายกฯ ก็ย่อมได้ เนื่องจากคนส่วนใหญ่ยังซื้อได้ เรื่องของผลประโยชน์ต่างตอบแทนระหว่างชาวบ้าน หัวคะแนน และนักกินเมืองจึงเป็นเรื่องเดิมๆ เพียงแต่มาเริ่มต้นกับผู้ร้ายคนใหม่จากบุรีรัมย์ ไอ้ห้อยเนวินย่อมรู้ความสามารถของตนเองดีว่า ศักยภาพในเวลานี้ ขอเพียงให้สีดำมันจางเพราะแสงสว่างจ้าของอภิสิทธิ์ มันก็เป็นนายกฯ ประเทศนี้ได้เหมือนกัน
      
       นับจากนี้ไปยอมอดเปรี้ยวไว้กินหวาน รอให้นายมาร์คเป็นนายกฯ ขัดตาทัพไปก่อน ส่วนเขาก็ทำงานสร้างเครือข่ายขุมกำลังไปเงียบๆ ในวันข้างหน้าเมื่อมีการเลือกตั้งใหม่ เราจะเห็นถนนทุกสายทั้งอีสาน กลาง เหนือ จะวิ่งเข้าหาไอ้ห้อยเนวิน เพราะนี่เป็นธรรมชาติของสัตว์กินเมืองที่เห็นหน้าก็รู้ใจกันหมด และอำนาจต่อรองของเขาจะมากมายยิ่งใหญ่แน่นอน ซึ่งทางเดียวที่จะดับฝันส่วนตัวของมันได้อยู่ที่ไม่รอดจากคดีที่อยู่ในการพิ จารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่นักกินเมืองพวกนี้ก็กลายพันธุ์ได้เหมือนไวรัส เพราะฉะนั้นเราจะเห็นญาติพี่น้องลูกเมียมันเป็นตัวตายตัวแทนขึ้นมามีอำนาจได ้เหมือนเดิม
      
       3. และถ้าใครคิดว่า นักกินเมืองพวกนี้จะกลับมาใหญ่ไม่ได้เพราะมีทหารใหญ่คอยขวาง ก็ขอให้คิดดูว่า ครั้งนี้ที่ไอ้ห้อยเข้ามาร่วมรัฐบาลทั้งด้วยเหตุผลที่คนหลับตาเชื่อว่า กลับใจรักชาติ และด้วยเหตุผลของการฮึ่มจากทหารใหญ่ หลังจากที่เสียฟอร์มปฏิวัติเงียบ แต่พวกทรราชไม่สนใจ เลยต้องอาศัยลูกขู่กับพวกที่ยังพอจะตกลงผลประโยชน์ร่วมกันได้แบบเนวินและพวก รัฐบาลครั้งนี้จึงเป็นความร่วมแรงร่วมใจของโจรภายใต้ภาพลักษณ์ของคนดี ในวันข้างหน้าคนอย่างเนวินที่เป็นคนประนีประนอม “ยอมเสียห้าเพื่อได้สิบ” ซึ่งผิดกับทรราชหน้าเหลี่ยม จึงเป็นคนที่ทหารใหญ่ย่อมใช้แลกเปลี่ยนผลประโยชน์
      
       น ี่คืออนาคตการเมืองไทยในวันข้างหน้า ใช่หรือไม่ใช่ให้คอยดูกันต่อไป และสำหรับผมแล้ว ไม่เคยเห็นว่า มีราชสีห์ที่แท้จริงตัวไหนจะยอมลดตัวไปเป็นหัวหน้าของฝูงหมา นอกจากว่า ราชสีห์ตัวนั้นเป็นเพียง “หมาในร่างราชสีห์” ส่วนใครคิดว่า ถ้าเอาใจช่วยแล้ว จะช่วยให้บ้านเมืองมันดีขึ้น ก็เชิญตามสบาย แต่ผมไม่เคยเชื่อ ไม่งั้นคนทั้งโลกคงนั่งสวดมนต์ให้ใจสบาย แล้วขอให้รวย ให้มีความสุข กันได้ทั้งโลกแล้ว
      
       คนผ่านทาง


http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000151296

มื่อเปิดเข้าเว็บผู้จัดการ ผมไม่เคยพลาดที่จะอ่านบทความหรือข้อเขียนของอาจารย์ ผมชื่นชม แต่ก็ไม่เคยออกความเห็น ครั้งนี้ผมค่อนข้างเห็นต่างจากอาจารย์ ความเห็นต่างของผมเริ่มตั้งแต่อาจารย์วิจารณ์การจัดตั้งรัฐบาลของ นายก อภิสิทธิ์
ผมจะไม่ร่ายยาวว่าเห็นต่างอย่างไรบ้าง แต่อยากเรียนถามอาจารย์ว่า ถ้าอาจารย์เป็นอภิสิทธิ์ อาจารย์จะจัดสรรคณะรัฐมนตรีอย่างไร ถ้าอาจารย์ใส่ชื่อ สส.ประชาธิปัติย์ ที่มีคุณภาพดีสามสี่ท่านที่ว่ามานี้ไปในคณะรัฐมนตรี อาจารย์จะตัดชื่อใครออกเพื่อให้พรรคร่วมรัฐบาลไร้ข้อขัดข้อง ขอตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมได้ไหมครับ

ก็ไหนอาจารย์บอกว่า คุณอภิสิทธิ์จะได้เป็นนายกไม่ค่อยสง่างามนักก็ไม่เป็นไร คณะรัฐมนตรียี้หน่อยก็ไม่เป็นไร ยอมทนชั่วคราวเพื่อขจัดระบอบทักษิณให้สิ้นไปก่อนเท่านั้น ชั่วคราวของอาจารย์สั้นไปหน่อยนะครับ สงครามทำทีว่ากำลังจะชนะ อาจารย์ก็เป็นหนึ่งในขุนศึกพันธมิตร ประชาชนฟังเสียงอาจารย์ค่อนข้างมาก ความเห็นของอาจารย์ย่อมต้องมีผลต่อผู้อ่านพอสมควร สงครามก็ยังไม่ชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด น่าจะประคับประคองเรือลำนี้ให้เดินหน้าไปอย่างราบเรียบก่อนไม่ได้หรือครับ อย่าเพิ่งโยกเรือให้คลอนเลยครับ ความสุขของผมตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่ความสวยงามของคณะรัฐบาล แต่ความสุขของผมตอนนี้อยู่ที่ ระบอบทักษิณกำลังค่อย ๆ พ่ายแพ้ไป เรื่องความสามัคคีภายในของพรรคประชาธิปัติย์ ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้บริหารพรรคเขาว่ากันไป ส่วนเรื่องที่เกรงว่าแก๊งเนวินจะทำพิษนั้น ผมว่าคนอย่างคุณอภิสิทธิ์ ยอมล้มกระดานหากพรรคร่วมรัฐบาลใดพ่นพิษ หรือหักหลัง ผมเชื่อในความเด็ดขาดของเด็กหนุ่มคนนี้ครับ

ท้ายที่สุด ผมว่าบทความของอาจารย์วันนี้ ไม่ได้โยกเฉพาะรัฐบาลให้สั่นคลอน แต่จะโยกพรรคประชาธิปัติย์ให้คลอนไปด้วย เสียดายครับ ๆ เก็บแรงไว้คอยตีงูพิษที่อาจฟื้นคืนชีพมาดีกว่าครับ เพราะตอนนี้ยังตีมันไม่ตายเลย ผมเป็นพันธมิตรต่างแดน บ้านผมไม่ต้อนรับคนไทยที่ชื่นชมทักษิณ ผมทนไม่ได้ที่คนไทยที่มีความรู้สูง ๆ มาชื่นชมยกยอปอปั้นทักษิณให้ผมได้ยิน ผมเสียเพื่อนไปหลายคนแล้วครับ

ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง
Siamese in BC


    ข้อเท็จจริง คือ ปชป.ไม่ได้มีเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว การได้เป็นรัฐบาลในครั้งนี้ต้องอาศัยโอกาสจังหวะ "ล้ม" ของพรรครัฐบาลเดิม โดยพึ่งเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลเดิมส่วนหนึ่ง
ผมคิดว่า หลาย ๆ คนคงอยากเห็นอย่างนี้ ใช่ไหมครับ?
ค ุณอภิสิทธิ์ ตั้งรัฐบาลโดยรัฐมนตรีเป็นรัฐมนตรีเงาเดิม, สมาชิกในพรรคปชป. หรือ เป็นคนนอกที่มีความรู้ความสามารถ ไม่มีคนจากพรรคร่วมอื่น ๆ เลยแม้แต่คนเดียว แล้วรัฐบาล ปชป.จะได้ตั้งไหมครับ? หรือตั้งแล้วออกมาแบบที่ว่า เท่ากับไปเบี้ยวเขา รัฐบาลจะอยู่ได้ไหมครับ? ตอนนี้ สิ่งที่เราต้องการและเป็นไปได้อันดับแรก คือ การเปลี่ยนขั้วการเมืองออกจากเงื้อมมือทักษิณ หรือ การเมืองที่สะอาดบริสุทธิ์หมดจด 100% ครับ? ผมว่าสิ่งที่เราประชาชน ควรจะทำ คือ สนับสนุนคุณอภิสิทธิ์ให้ดำเนินแนวทางตามสิ่งที่แถลงไว้ในวันรับโปรดเกล้า และช่วยกันกดดันรัฐมนตรีที่ทำงานไม่ได้เรื่อง หรือทุจริต เพื่อเป็นเกราะกำบังหรือสร้างความชอบธรรมในการที่คุณอภิสิทธิ์จะต้องไปควบคุ มหรือกำราบบุคคลเหล่านี้ มิฉะนั้น เท่ากับไปสร้างแรงกดดันเพิ่มให้คุณอภิสิทธิ์อีกทาง จะปลูกต้นไม้ใหม่ ต้องช่วยกันฟูมฟักให้อยู่รอดให้ได้ก่อน อาจต้องอาศัยดินที่มีทั้งปุ๋ยทั้งอุจจาระเหม็นเน่าอยู่บ้าง แต่นี่คือสิ่งดีที่สุดในชีวิตจริงที่เราสามารถมีได้ในตอนนี้ครับ
JO


    เฮ้อ สังคมยุคนี้ คนเราเปลี่ยนไปแปลกไปจริงๆ แกนนำ อาจารย์ปราโมทย์ต่อสู้เพื่อบ้านเมืองอย่างจริงใจไม่เคยหวังผลตอบแทน
เคยตกระกำลำบากร่วมวิ่งหนีหลบกระสุนสู้ทุกข์สู้ยากมาก

แต่คนกลับไม่ชอบ กลับไปนิยมสรรเสริญ คนที่ไม่ได้ทำอะไร เป็นตาอยู่ ชุบมือเปิบ ดั่งเช่นพรรคประชาธิปัตย์แทน

อะไรคือคนดีกันหนอสำหรับคนไทยยุคนี้

แ ำกนนำไม่ได้อยากขัดปชป.เลย อยากปิดตาข้างหนึ่งส่งเสริมด้วยซ้ำถ้าแกนนำไม่ได้มีข้อมูลเบื้องลึกรู้ดีว่า พรรคปชป.และเนวินกำลังทำอะไรอยู่

คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจไม่เป็นไรค่ะแกนนำ อย่างน้อยคนมีตาก็รู้และเข้าใจอยู่ และดินฟ้าจะเป็นประจักษ์พยาน....คนทำดีต้องได้ดีแน่นอน
love แกนนำที่ต่อสู้เพื่อบ้านเมืองอย่างจริงใจตลอดมา

1 ความคิดเห็น: