ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจำเป็นต้องจัดตั้ง
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นองค์กรที่ถูกต้องและถาวร
ประเทศไทยมีประชาธิปไตยมาแล้วมากกว่า 76 ปี
แต่ดูเหมือนจะล้มลุกคลุกคลานมาตลอด
เราได้ทดลองการเมืองในหลายรูปแบบ
ไม่ว่าจะเป็นการเมืองแบบไม่สังกัดพรรคการเมือง หรือสังกัดพรรคการเมือง
จัดการเลือกตั้งแบบพวงเล็กหรือพวงใหญ่ มีผู้แทนราษฎรทั้งระบบบัญชีรายชื่อ และระบบเขตเลือกตั้ง
ให้มหาดไทยหรือองค์กรอิสระ เช่น ก.ก.ต.ควบคุมการเลือกตั้ง จัดตั้งองค์กรอิสระต่างๆ
เพื่อตรวจสอบเช่นศาลรัฐธรรมนูญ หรือศาลปกครอง
แต่ดูเหมือนว่าการเมืองไทยก็ยังไม่ดีเพียงพอ
ตัวแทนประชาชนที่เรียกกันว่านักการเมืองอาชีพยังสามารถใช้ประชาธิปไตยแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัวได้มากขึ้นเรื่อย ๆ
งบประมาณแผ่นดินจากเดิมที่เสีย สิบเปอร์เซ็นต์เป็นค่าคอมมิสชั่นนักการเมือง
ปัจจุบันก็เพิ่มเป็นสามสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว และรัฐบาลนอมินีชุดนี้
ได้ทำเรื่องบัดสีร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยคือการขายแผ่นดินไทยแลกกับผลประโยชน์ของทักษิณ
ทุกๆครั้งที่ภาคประชาชนมีความเห็นต่างจากฝ่ายการเมืองก็ไม่สามารถคัดค้านได้
เพราะ ข้าราชการพลเรือน,ทหาร,ตำรวจ,อัยการฯ ล้วนตกอยู่ในอิทธิพล
ของนักการเมืองทั้งสิ้น ซึ่งคนพวกนั้นไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ของชาติ ต่างคำนึงถึงผลประโยชน์ของตัวเป็นที่ตั้ง
แต่เมื่อเกิดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
โดยการนำของ 5 แกนนำคือ มหาจำลอง,คุณสนธิ,คุณพิภพ,คุณสมศักดิ์.คุณสมเกียรติ
ได้นำประชาชนลุกขึ้นต่อสู้กับทรราชทักษิณ และรัฐบาลนอมินีของทักษิณในขณะนี้
ถ้าประเทศไทยไม่มีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
แล้วคนไทยจะต่อสู้กับอำนาจรัฐได้อย่างไร
เราต้องมาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกันทุกครั้งที่รัฐบาลชั่วครองเมืองทำเรื่องเลวร้ายหรือ
ต้องมีนอนมากินกลางถนนราชดำเนินเป็นเดือนๆทุกครั้งหรือ
ทำไมฝ่ายประชาชนที่ต้องการปกป้องผลประโยชน์ของชาติต้องใช้ความพยายามมากมาย
ในขณะที่รัฐบาลสามารถใช้อำนาจที่มีอยู่ทุกอย่างกลั่นแกล้งประชาชนและใช้แสวงหาผลประโยชน์ใส่ตนได้
อย่างถูกต้อง
ดังนั้นจึงถึงเวลาที่จะต้องให้รัฐธรรมนูญของไทยกำหนดให้มีการจัดตั้งองค์กรภาคประชาชนที่ทำหน้าที่เหมือนพันธมิตร
โดยมีอำนาจและหน้าที่ควบคุมการทำงานของรัฐบาล
ทั้งนี้เพราะสภาผู้แทนราษฎรไม่สามารถทำหน้าที่ควบคุมและตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลได้เลย
76 ปีประชาธิปไตยไทยนั้น การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเป็นเพียงละครน้ำเน่าเท่านั้น
แต่ประเทศชาติมิใช่ละครหลังข่าว
ดังนั้นจึงต้องมีการพัฒนาการตรวจสอบและควบคุมการทำงานของภาครัฐ
โดยองค์กรประชาชนเหมือนที่พันธมิตรฯทำอยู่ในตอนนี้
เราต้องการพัฒนาพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นองค์กรประชาชนที่มีอำนาจและหน้าที่ตามกฎหมายอย่างแท้จริง
และจะต้องมีสื่ออย่าง เอเอสทีวี เป็นสื่อของประชาชนด้วย
เพราะตั้งแต่มีการจัดตั้งสถานีโทรทัศน์ในประเทศไทยในปี 2500
ก็มีแต่สื่อที่รัฐบาลควบคุมได้ตลอด
และเมื่อศึกษาประวัติศาสตร์ของโทรทัศน์ในประเทศไทยก็จะพบว่า
เมื่อประชาชนมีความเห็นไม่ตรงกับรัฐบาลก็มักจะถูกปิดกั้นข่าวสารของประชาชนมาตลอด
แม้กระทั่งในครั้งนี้
ดังนั้นเมื่อพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยสามารถขับไล่รัฐบาลชั่วครองเมือง
ที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของทักษิณกอบโกยผลประโยชน์
เข้ากระเป๋าทักษิณมากกว่าทำหน้าที่บริหารประเทศไทยเพื่อประชาชนไทยได้แล้ว
ก็อยากจะเสนอให้รัฐบาลใหม่ที่คงจะต้องมีหน้าที่ปฏิรูประบบการเมืองไทยใหม่
ให้พิจารณาจัดตั้งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นองค์กรที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ
มีหน้าที่ช่วยควบคุมตรวจสอบและคัดค้านการทำงานของฝ่ายการเมืองอีกระบบหนึ่งเหมือนเป็นการตรวจสอบซ้ำ
และพิจารณาจัดตั้งเอเอสทีวีให้เป็นสื่ออิสระของประชาชนที่ถูกต้องตามกฎหมายด้วยครับ
ที่ข้าพเจ้าเสนอมานี้มิใช่เป็นการกระทำเพื่อพันธมิตรและเอเอสทีวี
แต่เป็นการเสนอเพื่อปกป้องประเทศไทยโดยสุจริต โดยทำหน้าที่เหมือนสวิตช์ตัดไฟสำรอง (censor)ครับ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านครับ
ทวีศักดิ์
ที่มา http://www2.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000074892
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น