++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2553

สำนึกผิดชอบของนักการเมือง

โดย สิริอัญญา 10 ตุลาคม 2553 17:55 น.
ในขณะที่คำถามใหญ่ที่ว่า ทำไมในรัฐบาลจึงคอร์รัปชันกันมากนัก ยังไม่มีคำตอบใดๆ แต่คำถามนี้กลับไม่เลือนหายไปตามสายลม หากยังคงก้องกระหึ่มและก่อแรงกระเพื่อมไปยังทั่วประเทศ

ทำให้อาณาประชาราษฎรต้องละวางเรื่องราวอื่นๆ ทั้งหมดมาจับจ้องอยู่ที่นักการเมืองซึ่งเป็นต้นตอปัญหาทั้งหลายทั้งปวงของ ประเทศไทย

แม้ เพียงนี้แล้วก็ไม่มีวี่แววว่านักการเมืองจะสำเหนียกหรือสำนึกรับผิดชอบชั่ว ดี ยังคงตั้งหน้าตั้งตาแก่งแย่งแข่งดี แย่งชิงอำนาจทางการเมืองเพื่อแสวงหาผลประโยชน์กันอย่างไม่หยุดยั้ง

และไม่เคยใส่ใจที่จะดูแลทุกข์สุขของราษฎรที่ถูกสรรพภัยคุกคามกระชั้น เข้ามารอบด้าน ปล่อยให้ราษฎรครวญคร่ำร่ำร้องเพื่อให้พ้นจากความทุกข์ยากที่เป็นไปในแผ่นดิน นี้

ภัยการคอร์รัปชัน ภัยจากโจรภัย ที่คุกคามประทุษร้ายต่อร่างกาย ชีวิต และทรัพย์สินที่เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางทุกหย่อมหญ้า ภัยจากยาเสพติด ซึ่งกำลังพร่าผลาญเยาวชนและทรัพยากรบุคคลของชาติอย่างหนักหน่วง ภัยจากการสูญเสียดินแดน ตลอดจนโรคภัยไข้เจ็บและภัยธรรมชาติ พากันโหมประดังเข้ามายังราชอาณาจักรนี้

แต่หามีนักการเมืองและผู้มีอำนาจหน้าไหนสนใจไยดีในความเป็นไปของอาณา ประชาราษฎร ยังคงเสพสุขสำราญเริงร่าและแย่งชิงอำนาจกันอย่างบ้าคลั่งต่อไป

ดัง นั้น ตราบใดที่สาเหตุอันเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศชาติคือนักการเมืองยังไม่ได้รับ การแก้ไข ประเทศไทยก็ไม่มีวันพ้นจากวิกฤต และปวงราษฎรก็จะไม่มีวันพ้นจากความลำบากยากจนเป็นอันขาด

ในท่ามกลางความสิ้นหวังและท้อแท้ของมวลมหาประชาราษฎร์ นักการเมืองก็ยังกระทำกรรมย่ำยีจิตใจราษฎรโดยไม่หวั่นไหวต่อความรู้สึกใดๆ ของประชาชน

พวกหนึ่งก็ตั้งหน้าเหวี่ยงแหยัดเยียดข้อหาความผิดต่างๆ ให้กับประชาชนผู้รักชาติ รักประชาธิปไตย เพราะเห็นว่าคนเหล่านี้คือเสี้ยนหนามแผ่นดินที่ตำตีนและส่งเสียงโหวกเหวก โวยวายให้รำคาญหู รำคาญตา อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

คน บริสุทธิ์ถูกยัดเยียดข้อหาเป็นคดีอาญาแผ่นดินโทษฉกรรจ์ แทนที่จะแก้ไขให้ตรงเป้าเข้าจุดโดยการเพิกถอนข้อหาอธรรมเหล่านั้น กลับใช้เป็นกลเกมเครื่องมือทางการเมืองสร้างเรื่องนิรโทษกรรมจอมปลอมขึ้นมา หลอกลวงประชาชนซ้ำเข้าไปอีก!

อีกพวกหนึ่งก็ได้แสดงวุฒิภาวะอันต่ำต้อย ไม่สะท้อนถึงวุฒิภาวะที่ถูกต้องดีงามในความรู้สึกผิดชอบชั่วดีแต่ประการใด

เรื่องหนึ่งซึ่งกล่าวขานกันอย่างกว้างขวางในวันนี้คือการเกิดเหตุ ระเบิดขึ้นที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง เป็นเหตุให้อาคารถล่ม ผู้คนบาดเจ็บ ล้มตาย

มืองานที่เกี่ยวข้องกับระเบิดขนาดใหญ่น้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม ถูกระเบิดแหลกเป็นผุยผง จนอวัยวะไม่ครบถ้วน 32

ผู้ คนต่างพากันรู้สึกว่ายังเป็นโชคดีของบ้านเมืองที่เกิดเรื่องระเบิดขึ้นเสีย ก่อน หาไม่แล้วเมื่อการประกอบระเบิดสำเร็จและถูกเอาไปวางยังเป้าหมาย ก็มีขีดความสามารถที่จะทำลายล้างขนาดใหญ่ สามารถทำให้อาคารขนาดใหญ่หรือสิ่งสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ถล่มทลาย และผู้คนอาจบาดเจ็บล้มตายลงได้นับร้อยพัน

เมื่อผู้ประกอบกรรมได้รับวิบากกรรมทันตาเห็นเช่นนี้ ผู้คนจึงพากันสาธุการ และเห็นถึงการทำงานของกฎแห่งกรรม แต่ไม่ทันใดความช้ำเจ็บใจก็เข้ามาแทนที่

ก็ มาจากนักการเมืองอีกนั่นแหละ! เพราะอยู่ดีๆ ผู้มีอำนาจบาตรใหญ่ทางการเมืองในกระทรวงสำคัญได้ออกมาแถลงยืนยันต่อประชาชน ว่าทางราชการจะเอาเงินภาษีของประชาชนไปจ่ายค่าเสียหายให้กับผู้ตายที่เกี่ยว ข้องกับระเบิดรายนี้เป็นจำนวนเงินถึง 400,000 บาท

ในขณะที่คนเจ็บ คนตายรายอื่นๆ จะได้รับความช่วยเหลือรายละประมาณ 100,000 บาท

ช่างแตกต่างอย่างลิบลับกับกรณีผู้ใช้แรงงานประสบเหตุเภทภัยแล้วไปขอ รับความช่วยเหลือตามสิทธิที่พึงมีตามกฎหมาย กลับถูกกลั่นแกล้งและไม่ได้รับความช่วยเหลือ จนหมดที่พึ่งพา ต้องพากันทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาพึ่งพระบารมีดังที่เป็นข่าวให้ได้รู้เห็นกันอยู่

เรื่องราษฎรเดือดร้อนไม่ได้รับความเป็นธรรม นักการเมืองไม่ใส่ใจไยดี กลับหลงผิดคิดว่าการเอาเงินภาษีของประชาชนไปเอาอกเอาใจประคบประหงมให้กับ ขบวนการคนผิดที่มีน้ำใจอำมหิตคิดสังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมากว่าจะ เป็นหนทางแห่งการปรองดอง

อย่างนี้ไม่ใช่เรื่องของการปรองดอง และไม่ใช่เรื่องของการช่วยเหลือตามมนุษยธรรม แต่เป็นเรื่องการเมืองที่สามานย์ที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี และที่ไม่สำนึกในความรู้สึกนึกคิดจิตใจของผู้บริสุทธิ์ว่าจะเจ็บช้ำน้ำใจจาก เรื่องนี้สักเพียงไหน

ความคิดของนักการเมืองคิดแต่จะเอาใจคนส่วนน้อย ในขณะที่ปล่อยปละละเลยไม่ใส่ใจไยดีปัญหาของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ

ความ คิดที่ว่าถ้าได้มีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้เกี่ยวข้องกับระเบิดรายนี้ด้วย เงินจำนวนมากแล้วจะสามารถซื้อใจคนเสื้อแดงได้นั้นเป็นความคิดที่ผิด และไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง

เพราะในความรู้สึกนึกคิดของคนเสื้อแดงบางกลุ่มนั้น เขามีความรู้สึกจริงๆ ว่าบ้านเมืองนี้ไร้ความยุติธรรม มีการใช้อำนาจข่มเหงกลั่นแกล้งโดยไม่เป็นธรรม

ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกที่เกิดจากการปลุกปั่นหรือยัดเยียดข้อมูลข้าง เดียวหรือไม่ก็ตาม แต่เป็นความรู้สึกที่มีอยู่จริงและดำรงอยู่จริงโดยนักการเมืองไม่เคยใส่ใจจะ แก้ไข คิดแต่จะเอาเงินฟาดหัวประชาชนตามความรู้สึกนึกคิดของนักการเมืองเองเท่านั้น

ในกรณีที่มีความรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมที่เกิดจากการกระทำ ที่ไม่เป็นธรรมของอำนาจรัฐ หนทางแก้ไขปัญหาย่อมอยู่ที่การสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้น ให้เห็นผลประจักษ์แก่สายตาประชาชน ซึ่งในวันนี้หาใช่แต่คนเสื้อแดงที่รู้สึกเช่นนี้ไม่ แต่คนเสื้อเหลืองหรือคนเสื้อสีอื่นๆ ตลอดจนผู้รักชาติ รักประชาธิปไตยต่างก็มีความรู้สึกเป็นอย่างเดียวกัน

รู้สึก อย่างเดียวกันว่านักการเมืองเมื่อมีอำนาจแล้วจองหองพองขน ลืมตน ลืมตัว เห็นผู้คนเป็นวัวควาย และคิดว่าตัวเองมีอำนาจบาตรใหญ่จะทำอะไรก็ได้ ไม่ต้องเกรงฟ้า ไม่ต้องกลัวดินกันอีกต่อไป

ในกรณีที่ความรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมหากเกิดจากการเข้าใจผิด หรือเกิดจากการถูกยัดเยียดข้อมูลแต่ฝ่ายเดียว ก็เป็นเรื่องที่จะต้องแก้ไขให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ด้วยการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องฉันท์พี่น้องร่วมชาติเดียวกัน

เพราะเมื่อใดที่เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องขึ้นแล้ว มูลเหตุของปัญหาก็จะหมดสิ้นไป ความรู้สึกพยาบาทอาฆาตมาดร้ายที่มีต่อกันก็จะสร่างซาสูญสิ้นไป

แต่ นักการเมืองก็ไม่เคยทำ ไม่เคยบอกประชาชน ไม่เคยนำความจริงที่ถูกต้องออกเปิดเผยให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบ จึงทำให้ความรู้สึกที่ว่านั้นนอกจากไม่ลดระดับลงตามกาลเวลาที่ผ่านไปแล้ว ยังเพิ่มความเคียดแค้นชิงชังและความอาฆาตพยาบาทขึ้นในแผ่นดินนี้

การที่นักการเมืองไม่รู้ผิดชอบชั่วดี เอาเงินแผ่นดินไปฟาดหัวเพื่อเอาใจคนกระทำความผิดนั้น นอกจากไม่มีทางซื้อใจใครได้แล้ว มีแต่จะถูกตราหน้าว่านี่คือตัวอย่างที่พิสูจน์ได้ชัดเจนอีกตัวอย่างหนึ่ง แล้วว่านักการเมืองคือปัญหาของชาติ

การ ตายเพราะถูกระเบิดที่ประกอบขึ้นเป็นการตายในหน้าที่ของผู้ก่อการร้าย ไม่ใช่ในหน้าที่ราชการ นักการเมืองไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาเงินภาษีประชาชนไปซื้อใจในเรื่องนี้!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น