++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2553

2 ปี 7 ตุลารำลึก “ที่มีวันนี้เพราะเราผ่านวันนั้นที่เขาเหล่านั้นล้มลง”

“น้อง โบว์ เป็นเด็กดี ที่ช่วยชาติ รักษาราชบัลลังก์” คือข้อความที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้ทรงตรัสกับครอบครัวระดับปัญญาวุฒิเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ใกล้จะครบ 2 ปี แล้วที่ น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือ น้องโบว์ ที่ต้องเสียชีวิต จากคำสั่งของนักการการเมืองอำมหิตและฝีมือเจ้าหน้าที่ตำรวจชั่วยิงกระสุน แก๊สน้ำตาเข้าใส่เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2551 โดยที่ยังไม่มีใครออกมารับผิดชอบแม้แต่คนเดียว

เกือบ 2 ปีผ่านไป ยังไม่มีใครได้เข้าสู่การพิจารณาหรือคำตัดสินลงโทษจากศาลยุติธรรมแม้แต่คนเดียวเพื่อให้ความเป็นธรรมกับ “เด็กดี ที่ช่วยชาติ รักษาราชบัลลังก์”

เกือบ 2 ปีผ่านไป จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2551 ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย มีคนต้องพิการ แขนขาขาด สูญเสียอวัยวะ และมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก แต่ไม่มีใครกระตือรือร้นสนใจไยดีคิดจะหาผู้กระทำความผิดแม้แต่คนเดียว

ถ้าประเทศไม่ได้การชุมนุมในปี 2551 คดียุบพรรคพลังประชาชน ยุบพรรคชาติไทย และยุบพรรคมัชฌิมาธิปไตยคงไม่เกิดขึ้น ในขณะที่ทักษิณคงรอดพ้นจากคดีอาญา เพราะนักการเมืองในเวลานั้นมุ่งที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียว เพื่อฟอกความผิดให้กับนักโทษชายทักษิณที่ร่ำรวยผิดปกติ เพื่อฟอกความผิดให้พรรคการเมืองที่ทุจริตเลือกตั้ง เพื่อลดอำนาจตรวจสอบขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และเพื่อละเมิดพระราชอำนาจในการรับรององคมนตรีในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญที่ แก้ไขใหม่

การเสียสละชีวิตและเลือดเนื้อของประชาชนในปี 2551 ได้ทำให้ประเทศไทยยังคงรักษาหลักนิติรัฐให้ธำรงความศักดิ์สิทธิ์ต่อไปได้

ความจริงแล้วพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่ได้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงเฉพาะเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2551 เท่านั้น แต่แท้ที่จริงแล้ว ความรุนแรงได้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา ตั้งแต่ปรากฏการณ์เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร มาเป็น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สรุปได้ดังนี้

ปี พ.ศ. 2549 โดนขว้างระเบิดข่มขู่ 1 ครั้ง ขนมวลชนเข้ามาข่มขู่คุกคามและทำร้าย 3 ครั้ง มีประชาชนได้รับบาดเจ็บ 5 คน

ปี พ.ศ. 2551 มีการขว้างระเบิดข่มขู่ 3 ครั้ง มีนักการเมืองในระบอบทักษิณขนมวลชนคนเสื้อแดงมาคุกคามและทำร้ายร่างกาย 20 ครั้ง เจ้าหน้าที่รัฐทำร้ายประชาชน 3 ครั้ง ถูกยิงด้วยอาวุธสงครามระเบิด M-79 10 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 10 คน พิการ 11 คน และบาดเจ็บ 1,025 คน

ปี พ.ศ. 2552 แกนนำถูกรุมยิงถล่มด้วยอาวุธสงครามกระสุนนับร้อยนัด 1 ครั้ง, ขนมวลชนมาคุกคามและทำร้ายร่างกาย 1 ครั้ง และประชาชนถูกยิงด้วยระเบิด M-79 1 ครั้ง

ความรุนแรงโหดเหี้ยมอำมหิตที่เกิดขึ้นกับฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น เกิดขึ้นภายใต้การนำของฝ่ายการเมืองทั้งสิ้น

ตำรวจจำนวนไม่น้อยที่มีส่วนใช้ความรุนแรงกับพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตย หรือเจตนาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จนทำให้เกิดความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง

หลายคนยังอาจลืมไปแล้วเสียด้วยซ้ำว่าคดีพื้นๆ ที่ตำรวจจัดตั้งมวลชนมารุมทำร้าย พ.ต.อ. ฤทธิรงค์ เทพจันดา หรือ “โอ๋ สืบ 6” เมื่อปี 2549 ศาลอาญามีคำพิพากษาไปแล้ว เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 ให้จำคุก “โอ๋ สืบ 6” 2 ปี ปรับ 1 หมื่นบาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาและถูกไล่ออกจากราชการไปแล้ว แต่วันนี้กลับเข้ามารับราชการได้และเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามเป็น “พ.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์” ในตำแหน่งรองผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3

เพราะความย่ามใจ เหิมเกริมทำให้ตำรวจไทยจำนวนไม่น้อยเลือกข้างนักการเมือง ยอมทำผิดกฎหมาย กลั่นแกล้งประชาชนเพื่อรับใช้นักการเมือง หรือแสวงหาอำนาจทางการเมือง เพื่อปกป้องคุ้มครองให้พรรคพวกตัวเองทำชั่วอะไรก็ได้ในสังคมไทยนี้

แม้แต่คดีที่พยายามกลั่นแกล้ง ยัดเยียดข้อหาก่อการร้ายให้กับผู้ชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อให้หวาดกลัวแล้วยอมจำนนเพื่อให้เห็นคล้อยตาม พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2551 เจ้าหน้าที่ตำรวจเหล่านั้นก็ยังยอมทำไปเพื่อต้องการสนองความต้องการฝ่ายการ เมือง เพียงแค่หวังความเจริญก้าวหน้าของตัวเองเท่านั้น

แม้มีความเสี่ยงสูงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่กลั่นแกล้งประชาชนจะมี โอกาสถูกฟ้องกลับด้วยประมวลกฎหมายอาญามาตรา 200 ซึ่งมีโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิตก็ตาม แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเหล่านั้นก็ยังหลงเชื่อหวังว่าฝ่ายการเมืองจะร่วมกันออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อยกโทษให้ทุกฝ่ายแล้วจะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งลงทุนลงแรงกลั่นแกล้ง ยัดเยียดข้อหาอันเป็นเท็จให้ประชาชนครั้งนี้ได้พ้นผิดไปด้วย

แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังถลำลึกในการกลั่นแกล้งยัดเยียดข้อหา อันเป็นเท็จให้กับประชาชนนั้นยังมีสติอยู่บ้าง ก็คงจะนึกขึ้นได้ว่าพรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรคปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงกับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กฎหมายดังกล่าวย่อมเป็นไปไม่ได้

เพราะด้านหนึ่งคือพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่สามารถจะเห็นด้วยกับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมได้เพราะไม่สามารถตอบคำถามประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมกับ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในการแสวงหาความเป็นธรรมให้กับผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บตั้งแต่เหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2551 เป็นต้นมา

และอีกด้านหนึ่งพรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง แม้จะอยากได้ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้กับตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถสนับสนุน พร.บ.นิรโทษกรรมได้เช่นกัน เพราะหากไปสนับสนุนเมื่อใดไม่สามารถตอบคำถามในสิ่งที่ตัวเองเคยปลุกระดมให้ มวลชนคนเสื้อแดงเข้าใจว่า “รัฐบาลและทหารฆ่าประชาชน” ได้อย่างไร

ดู รูปการแล้ว พ.ร.บ.นิรโทษกรรมจึงเป็นความหวังล้มๆ แล้งๆ ของนักการเมืองที่หยิบยื่นให้กับตำรวจให้หลงเชื่อกลั่นแกล้งประชาชนจะต้องตก เป็นเหยื่อในคดีความอาญาในท้ายที่สุด (อีกครั้ง) อย่างแน่นอน

เจ้าหน้าที่ตำรวจคือต้นกระแสธารแห่งกระบวนการยุติธรรม สังคมจะสงบหรือวุ่นวายสับสน ก็อยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไทย

สังคมจะวุ่นวายสับสนเพราะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยปละละเลย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หนีปัญหาแล้วปล่อยให้มีการก่ออาชญากรรมและวินาศกรรมรายวัน

สังคมจะวุ่นวายสับสนเพราะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นแก่พวกพ้อง และนักการเมือง อำนวยความช่วยเหลือเพื่อทำให้ตัวเองและพวกพ้องไม่ต้องรับโทษเมื่อทำผิด กฎหมาย

สังคมจะวุ่นวายสับสนเพราะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสมรู้ร่วมคิดกับนักการ เมืองกลั่นแกล้ง ทำร้ายเข่นฆ่าประชาชน แล้วยังยัดเยียดข้อหาอันเป็นเท็จให้กับประชาชนผู้บริสุทธิ์

ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่ในสิ่งที่ตัวเองควรทำเพื่อรักษาความ เป็นนิติรัฐ ก็สามารถแก้ไขปัญหาความไม่สงบในประเทศไทยได้แล้วหลายกรณี โดยที่ไม่ต้องอาศัยการจัดฉากของนักการเมืองที่จะมาหันหน้ามาปรองดองกัน

หลัง จากเข้าไปทำหน้าที่เพียงไม่กี่วัน พล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอัมพันธ์กุล รักษาการผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 ก็ได้แสดงผลงานร่วมกันกับ พล.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดเชียงใหม่ พ.ต.อ.กนิษฐ์ ประสานสุข ผู้กำกับการ สภ.แม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ได้นำกำลังตำรวจฝ่ายปกครองบุกเข้าจับกุมกองกำลังจำนวน 11 คน ได้ที่ภูฟ้ารีสอร์ท บ้านสหกรณ์ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่

พล.ต.ต. ชัยยะ ศิริอัมพันธ์กุล ได้ให้สัมภาษณ์ว่าคดีนี้เป็นเรื่องที่กระทบต่อประเทศชาติเป็นอย่างยิ่ง มีกระบวนการที่จ้องทำร้ายประเทศชาติ รวมทั้งผู้ก่อการร้าย บั่นทอนความมั่นคงของประเทศชาติ นอกจากนี้ พล.ต.ต.ชัยยะยังได้ให้สัมภาษณ์อีกว่า

“ขอความร่วมมือให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์ต่อทางราชการ ในส่วนของการทำงานของตำรวจ สิ่ง ที่อยากเห็นคือความรักสามัคคีของพี่น้องประชาชน ความร่วมมือร่วมใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สำหรับการมีส่วนร่วมของประชาชนเราได้ตระหนักดีหากได้รับความร่วมมือจาก ประชาชนคิดว่าประเทศชาติจะมีความมั่นคง ประชาชนก็มีความสุขถ้วนหน้า”

ความปรารถนาที่อยากจะเห็นบ้านเมืองสงบสุขจะเกิดขึ้นได้ก็เพราะความ ร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐที่ตั้งใจทำงานกับพลเมืองดีที่ช่วยกันทำให้ บ้านเมืองสงบสุขอย่างแท้จริง โดยร่วมมือกันจัดการกับคนที่คิดร้ายกับประเทศชาติให้ถึงที่สุด หาใช่การปรองดองหรือฮั้วกันในหมู่นักการเมืองที่ไม่สามารถหาความจริงใจได้ นอกจากการช่วงชิงอำนาจและทำลายฝ่ายตรงกันข้ามเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนและพวก พ้องทั้งสิ้น

ภายหลังจากที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้นำแผนงานครบรอบ 2 ปี 7 ตุลารำลึก โดยเข้าพบ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ก็ได้ทำให้เข้าใจว่า การ จัดกิจกรรมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในเช้าวันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ที่ลานพระบรมรูปทรงม้านั้นเป็น “พิธีกรรมทางศาสนา” มิใช่ “การชุมนุม” มิใช่ “การมั่วสุม” ตามข้อห้ามของ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ส่วนในช่วงสายหรือบ่ายจนถึงกลางคืนก็จัดงานที่หน้าลานในรั้วรอบขอบชิดของ สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวีซึ่งก็ไม่เป็นการผิดเงื่อนไขตามข้อห้าม ของ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้กำหนดการจัดงาน 7 ตุลา อย่าให้สูญเปล่า ในวันที่ 7 ตุลาคม 2553 มีดังนี้

ณ บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า จอดรถบนถนนราชวิถีฝั่งสวนอัมพร

06.00-07.00 น. ประชาชนร่วมกันตักบาตร “ข้าวสวย” แด่พระสงฆ์ (ส่วนของใช้และอาหารแห้งจะวางไว้จุดบริเวณป้ายบริเวณรถขนของใช้และอาหาร แห้ง)

07.00-08.00 น. ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์

08.00-10.00 น. ถวายสังฆทาน ทอดผ้าบังสุกุล และพิธีกรรมทางศาสนาอื่นๆ

บริเวณลานหน้าสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เอเอสทีวี

11.00-13.30 น. แสดงดนตรี อ่านบทกวี และวาดภาพบนเวที

13.30-14.30 น. เสวนา เวทีวีรชน : ผู้บาดเจ็บ

14.30-16.00 น. แสดงดนตรีและกิจกรรมของญาติวีรชน

16.00-17.30 น. แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 1, 2 กล่าวรำลึกวีรชน

17.30-22.00 น. แสดงดนตรี

ส่วนในแต่ละจังหวัดที่ไม่สะดวกเดินทางมาที่กรุงเทพมหานคร ก็สามารถจัดกิจกรรมในจังหวัดของตัวเองตามความเหมาะสมได้เช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น