ทุกครั้งที่เห็นภาพเหล่านี้ หรือถ้ามีโอกาสนั่งรถเมย์ผ่านไปแถวหน้า ถนนพิชัย ด้านประตูทางออกของรัฐสภา สมองมันแวบ นึกถึงภาพตัวเองคืนวันที่ 6/10/51 ได้อยู่หน้าพิชัย ยังทักทายพี่น้อง พธม ที่นั่งนอนรอเวลาสว่างซึ่งมันจะมาถึงอีกไม่กี่ชั่วโมง จนกระทั่ง ตี3 ดิฉันรู้สึกง่วงมากๆ จึงหามุมพิงนอนตรงกำแพงสีแดง(ตรงประตูทางออกพอดี) แต่งีบได้ถึงแค่ ตี5 ครึ่ง พลันก็ได้ยินเสียงนกเสียงกาปลุกให้ตื่น จึงเดินไปที่รถ ซึ่งท่านปฐมพงษ์กำลังสาทิตเรื่องแก๊สน้ำตา ซึ่งดิฉันก็ไม่เคยคิดว่ามันจะน่ากลัวตรงไหน เพราะเมื่อวันที่อยู่หน้า บชน (วันที่ตำรวจเลวมันปาแก๊สน้ำตาออกมาจาก บชน ตั้ง 30 กว่าลูกดิฉันก็อยู่ตรงหน้าประตู บชนเช่นกัน เพราะเป็นคนถือธงชาติอยู่ จนกางเกงมีกลิ่นแก๊สฉุนมากๆ หลังจากซึกมาหลายรอบกลิ่นยังไม่หายเลย) จึงฟังท่านปฐมพงษ์แบบไม่สะทกสะท้าน หลังจากนั้น คุณแหลมก็กล่อมเพลงไปได้ประมาณ 3-4 เพลง เท่านั้น เสียงปืนก็ดังกระหึ่มรู้แต่ว่ามันมาจากข้างหลังตัวเอง พอตั้งหลักได้รีบวิ่งหนีไปได้สักพัก ทนกลิ่นแก๊สไม่ไหวรีบกว้าผ้าที่ชุบน้ำแล้วรีบหมอบลง เพื่อนอนหายใจได้คล่องหน่อย สักพักได้ยินเสียงตามหลังจากการ์ด พธม ตะโกนว่าอย่านอนรีบลุกขึ่น พวกมันตามมาข้างหลัง ดิฉันตั้งหลักได้รีบลุกวิ่งหนีสุดชีวิตเลย จนลืมหมวก หลังจากนั้นพอเสียงปืนสงบ จึงได้ไปหาหมวก ซึ่งตกอยู่ด้านหลังของกลุ่มตำรวจ จึงวานให้ตำรวจช่วยเก็บ จนเพื่อน พธม แซวว่า เกือบบนะตรงนี้ ยังพูดตายแล้วยังห่วงหมวกอีก หลังจากนั้นวิ่งมาอยู่หน้ารัฐสภา ยังเจอสารวัตรจ๊าบ กำลังขยี้ตาคงจะโดนแก๊สพิษมามาก จึงได้บอกสารวัตรว่า เอาน้ำนี้ราดที่ดวงตา แต่อย่าเอามือขยี้ซิ ดิฉันได้ยื่นน้ำให้เขาหนึ่งขวด และยื่นผ้าที่เปียกให้เขาไว้ป้องกันแก๊สพิษ แล้วเขาก็เดินจากไป ตอนนั้นพวก สส เริ่มเดินเข้ามากันแล้ว แต่พอหลัง 8 โมงเคารพธงชาติเสร็จหมาดๆ เสียงปืนก็ดังมาจากด้านหน้าตึกรัฐสภา ซึ่งพวกเราก็ยังอยู่นอกรั้ว แก๊สลูกแล้วลูกเล่า กระหึ่มมาถี่ๆ เลวสุดๆ ดิฉันอายุ 60 แล้ว แต่ยังมีแรงเยอะ ได้ตะโกนเรียกสาวิต ลงจากเวทีแล้วตะโกนบอกสาวิตว่า ไอ้สมชายมันมากับเฮลีคอปเตอร์แล้ว เพราะดิฉันเห็นคนลงจากเฮลิคอปเตอร์ จึงบอกว่าให้ตัดน้ำตัดไฟเลบ อย่าให้มันประชุมให้ได้ แต่สาวิตบอกว่ามีคนไปจัดการแล้ว จากนั้นดิฉันอยู่จน 10 โมงกว่าๆจึงได้กลับมาที่ทำเนียบงีบสักพัก จนบ่าย 4 โมง จอภาพทีวีที่หน้ารัฐสภาหายไป มารู้ทีหลังว่าโดนพวกมันยิ่งดาวเทียมภาพดับทันที ดิฉันจึงเดินไปดูที่หน้าลานพระรูปแล้วก็เดินเลอะๆไปหน้ารัฐสภา แต่รถพยาบาลวิ่งว่อนเข้าๆออกๆ รับคนเจ็บออกมา ช่วงนี้แหละที่พวกเรามีแต่คนบาดเจ็บ เสียงรภพยาบาลมาเป็นร้อยๆคัน ในใจคิดว่าทำไปพวกเราไม่หนีละ แต่เสียงบนรถกระจายเสียง ก็ยังตะโกนด่าตำรวจ เจ้าตั้มตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น เอาพลังมาจากไหน สักพักก็ได้ยินเสียงบอกต่อๆกันมาว่า ใกล้จะมืดแล้ว ให้พวกเรารีบกลับทำเนียบ เดี๋ยวจะเป็นเป้าให้พวกมัน พวกเราจึงทยอยเดินกลับ นี่แหละดิฉันกำลังเดินอยู่กลางลานพระรูปอยู่ คนก็แน่นมากๆ เสียงปืนก็ดังมาจาก ปชน ได้ยินแว่วว่า ตำรวจมันตะโกนหาว่าพวกเราจะบุกไป บชน มันจึงยิง เสียงคนร้องระงม แล้วทุกคนก็วิ่งหนีกันกระจัดกระจาย บ้างก็วิ่งไปทางถนนราชดำเนินเพื่อมุ่งไปที่ แยกมิกสักวัน เสียงปืนดังถี่มากๆ ส่วนดิฉันวิ่งไปเข้าทางข้างวัดเบญจ์ไปออกหน้า สะพานชมัยมรุเชษฐ์ พอมาถึงหน้าทำเนียบก้ได้ข่าวมาว่าพวกเรามีคนตาย และบาดเจ็บหลายร้อย ดิฉันกินข้าวไม่ลงเลย ในใจมีแต่ความแค้นสุดๆ ทำไมพวกเราต้องตายแล้วตายเล่า สวรรค์ลำเอียงจริงๆ ทำไม พธม ทำดีแล้วต้องโดนพวกมันใช้ความชั่วรังแกเรา จนต้องร้องไห้ตะโกนว่า ทำไปพวกเราจะต้องตายไปสักกี่คน พวกมันถึงจะสาสม แต่กูจะสู้จนกว่าจะเป็นคนสุดท้ายกูก็ไม่ยอมพวกมรึง เจ็บใจมากๆ
ท ุกวันนี้ก็ค่อยๆเริ่มทำใจได้ เพราะได้ไปงานศพทุกศพ บอกพวกเขาว่า พวกเขาคือวีรชนที่เสียสละเพื่อคนรุ่นหลัง ดิฉันได้จัดการให้อาหารทุกศพที่มาจากต่างจังหวัด ขอให้ทุกท่านที่เสียสละจงไปสู่สรวงสวรรคื ไปรับใช้ในชั้นดาวดึงทุกท่าน และขอให้ผู้ที่รอดจงประสพแต่สิ่งที่ดีทุกคน
แฟนพันธ์แท้ ASTV
วันที่6-8เราก็อยู่ที่ทำเนียบวันที่7เรานั่งอยู่ที่ในทำเนียบไม่ได้ออกไปกับ พี่น้องของเราเพราะคุณอัญชะรีบอกว่าดเราก็ต้องรักษาพื้นที่ในทำเนียบไม่เช่น นั้นก็อาจโดนสลายได้ง่ายถ้าคนน้อยก็เหมือนกับทุกคนที่ได้เขียนลงในwebจนถึงเ ย็นเรานั้งอยู่ในทำเนียบรู้สึกว่าถ้าเรายังนั่งอยู่เหมือนกับว่าเราไม่ได้ทำ ประโยชน์กับประเทศชาติเลยจึงชวนน้องสาวออกเดินไปจากทำเนีบยขณะเดินไปยังไม่ถ ึงมัฆวานก็เจอกับพี่น้องเราเดินกลับมาบอกว่าแกนนำให้กลับมาเพราะว่ามันมืดแล ้วเราก็เดินต่อไปอีกหน่อยก็เห็นคนเดินกลับมาเยอะมากเราก็เดินกลับเข้ามาในทำ เนียบตามเดิมรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเหตุการณ์ที่ตำรวจฆ่าปร ะชาชนแม้แต่ทหารก็ไม่มาช่วยเรากลับมาช่วยตำรวจทั้งที่เราไม่มีอาวุธร้ายเลยแ ม้แต่น้อย
พธม ชม.
longluckt@gmail.com
วันที่ 6 ต.ค.เรากลับขึ้นมาจากภาคใต้มาโคราช น้องสาวกับหลานสาวเอารถมาฝากที่บ้านบอกจะไปทำเนียบช่วยท่านจำลอง สักพักเรานึกสังหรณ์ใจรีบเอาองค์จตุคามรุ่นยามเฝ้าแ่ผ่นดินให้น้องสาวหรือหล านแขวนคอไว้ น้องเล่าว่าอยู่หน้ารัฐสภาตั้งแต่กลางคืน เจอแก๊สน้ำตาตอนเช้า และเจออีกรอบตอนเย็นหน้า บช.น. ซึ่งบอกว่าหนักที่สุด เห็นภาพข่าวทีไรเราน้ำตาไหลทุกที ล่าสุดที่คุณปานเทพเป็นพิธีกรฉายภาพประกอบน้ำตายังไหล ด้วยความแค้นนี้เราตั้งใจจะหาทางเอาคืนมันทุกตัวให้ได้ ไม่ว่านานแค่ไหนก็ตาม
พ่อเวสหนู
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น