ร้อยภาพบรรยากาศชุมนุมใหญ่พันธมิตร 25 พ.ค.51 และความรู้สึกในช่วงเวลาที่พวกอันธพาลบุกมาทำร้ายผู้ชุมนุม
ภาพที่ 3
ภาพที่ 4
บรรยากาศบริเวณซุ้มรวบรวมเอกสารเพื่อยื่นถอดถอน มีบริการถ่ายเอกสาร ให้ถ่ายบัตรประชาชนได้ฟรี แต่ทุกท่านสามารถร่วมบริจาคได้ตามแต่จิตศรัทธาใส่ลงในกล่องรับบริจาคที่อยู่ ในซุ้มนั้นได้เลย นายบอนก็ต่อแถวถ่ายเอกสาร รับใบยื่นถอดถอนมากรอกรายละเอียด และส่งให้เจ้าหน้าที่ในซุ้มเรียบร้อยแล้ว
ภาพที่ 5
ภาพที่ 6
ภาพที่ 7 ผลงานของศิลปินอิสระ ที่มักจะพบได้ในงานชุมนุมแบบนี้ อย่าลืมอุดหนุนนะครับ
ภาพที่ 8 เจ้าของภาพ ภูมิใจนำเสนออย่างยิ่ง อนุญาติให้ถ่ายภาพได้เลย เลยนำมาฝากชาว mblog กัน
ในส่วนของการชุมนุมทุกครั้งจะมีสินค้าเฉพาะที่จะหาซื้อได้ในบริเวณที่ชุมนุม อย่างเช่น ผลงานของศิลปินอิสระ ทั้ง CD เพลง และภาพวาด ภาพถ่าย ที่เจ้าของผลงานเต็มใจให้ถ่ายได้เต็มที่ เอาไปเผยแพร่ได้เลยให้ได้ชื่นชมผลงานร่วมกันครับ
ภาพที่ 9
ภาพที่ 10 พี่ๆ ..รุ่นคุณลุง คุณป้ามากันพร้อมหน้าพร้อมตา อบอุ่นมากๆ
ภาพที่ 11
ภาพที่ 12
ภาพที่ 13
ภาพที่ 14
ภาพที่ 15
ภาพที่ 16
ภาพที่ 17
ภาพที่ 18
ภาพที่ 19
ภาพที่ 20
ภาพที่ 21
ภาพที่ 22
ภาพที่ 23
ภาพที่ 24
ภาพที่ 25
ภาพที่ 26
ภาพที่ 27
ภาพที่ 28
ภาพที่ 29
ภาพที่ 30
ภาพที่ 31
ภาพที่ 32
ภาพที่ 33
ภาพที่ 34
ภาพที่ 35 กองทัพธรรมมารออยู่พร้อมแล้ว
ภาพที่ 36
ภาพที่ 37
ภาพที่ 38
ภาพที่ 39 บรรยากาศด้านหลังเวทีชุมนุมใหญ่
ภาพที่ 40 เจ้าหน้าที่ตำรวจมายืนแถว กระจันหน้ากับกลุ่มผู้มาป่วนพันธมิตร แต่ยังเกิดเหตุการณ์โยนขวดน้ำ หิน น็อตจนได้
ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบ ยืนเรียงแถวกันเต็ม หันหน้าไปทางฝ่ายต่อต้านพันธมิตร ที่มาป่วน ด่าทอให้ร้าย และขว้างปาขวดน้ำ ก้อนหินเข้าใส่ผู้คน หวังให้เกิดการปั่นป่วน ดึงความสนใจมาที่การก่อกวน มีบางคนไปยืนด่าผู้หญิงที่ผ่านไปมา มีข่าวว่า มีคนเข้าไปตบหน้าผู้หญิง หวังให้เกิดการทะเลาะวิวาท เพื่อสร้างความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นให้มากที่สุด
ภาพที่ 41
ภ าพที่ 42 การประจันหน้าระหว่างตำรวจและแกนนำฝ่ายต่อต้านพันธมิตร ไม่แน่ใจว่า นักการเมืองที่ลงสมัครผู้ว่า กทม.หลายครั้งแต่ไม่ได้สักที กำลังยืนด่าอยู่ตรงนั้นหรือเปล่า
ภ าพที่ 43 บรรยากาศการประจันหน้ากับกลุ่ม ธรรมาธิปไตย ที่ถือป้ายอยู่ฝั่งถนนตรงข้าม เปิดฉากด่าทอด้วยคำหยาบ และคอยยั่วยุอยู่ตลอด มีชาวพันธมิตรยืนอออยู่บนฝั่งอนุสาวรีย์กันเต็มกำลัง
ภาพที่ 44 บรรยากาศช่วงชุลมุน มีคนลงไปยืนเต็มถนน เป็่นช่วงที่มีการขว้างขวดน้ำกันชุลมุน จนชาวพันธมิตรลงไปใล่จับตัวไว้
ภาพที่ 45
ภาพที่ 46
ภาพที่ 47
ภาพที่ 48
ภาพที่ 49
ภาพที่ 50 กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ทีมพันธมิตรบุรีรัมย์ขอตั้งวงกินข้าวไปด้วย ฟังปราศรับไปด้วย แซบหลาย
ภาพที่ 51
ภาพที่ 52
ภาพที่ 53
ภาพที่ 54
ภาพที่ 55
ภาพที่ 56
ภาพที่ 57
ภาพที่ 58
ภาพที่ 59
ภาพที่ 60 ดูแล้วอย่างง เป็นคำผวนครับ
ภาพที่ 61
ภาพที่ 62
ภาพที่ 63
ภาพที่ 64 คุณสนธิน้อย จากบุรีรัมย์
ภาพที่ 65
ภาพที่ 66
ภาพที่ 67
ภาพที่ 68
ภาพที่ 69
ภาพที่ 70
ภาพที่ 71
ภาพที่ 72
ภาพที่ 73
ภาพที่ 74
ภาพที่ 75
ภ าพที่ 76 บรรยากาศช่วงที่ฝ่ายก่อกวน ซึ่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม โยนขวดน้ำ ท่อนไม้ใส่ชาวพันธมิตร จนพันธมิตรเพชรบุรีเจ็บไป 1 คน หลายคนกำลังจะเริ่มตอบโต ดีที่คนส่วนใหญ่บอกให้ใจเย็น ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
ภาพที่ 77
ภาพที่ 78
ภาพที่ 79
ภาพที่ 80
ภาพที่ 81
ภาพที่ 82
ภาพที่ 83 บริเวณหลังเวทีใหญ่ มีคนมาชุมนุมคับคั่ง
ภาพที่ 84
ภาพที่ 85 รถสุขาต้องเข้าแถวต่อคิวกันยาวเหยียด
ภาพที่ 86 ช่วงที่คุณสนธิ ออกมาปราศรัย ก่อนเดินทางไปสะพานมัฆวาน
ภาพที่ 87
ภาพที่ 88 เก็บของเตรียมออกเดินทาง
ภาพที่ 89
ภาพที่ 90 ตั้งแถวเตรียมเคลื่อนขบวน
ภาพที่ 91 เริ่มออกเดินกันแล้วครับ
ภาพที่ 92 ชาวกำแพงเพชรก็ไม่พลาดมาร่วมงานในวันนี้ด้วย
ภาพที่ 93 ช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ยอมให้ผ่านตรงสะพานผ่านฟ้า ทีมการ์ดรีบแหวกฝูงชน พาแกนนำพันธมิตรมุ่งหน้าไปเจรจากับตำรวจ
ภาพที่ 94
ภาพที่ 95
ภาพที่ 96 รถกระจายเสียงที่เปิดเพลงติดตามมา ก่อนช่วงเวลาที่พวกอันธพาลจะตามมาโจมตี ทำร้ายแนวหลังขบวน
ภาพที่ 97 แถวด้านนอก ที่มีชาวพันธมิตรเดินเลียบถนน จะมีตำรวจยืนเรียงแถวยาว แต่ผู้มาร่วมชุมนุมก็ยังถูกทำร้ายหลายคน
ภาพที่ 98 บรรยากาศการเดินทางเมื่อผ่านสะพานผ่านฟ้ามาได้
ภาพที่ 99
ภาพที่ 100
ภาพที่ 101
ภาพที่ 102
ภาพที่ 103
ภาพที่ 104
ภาพที่ 105
ภาพที่ 106 ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง มาร่วมเดินกับหลายคนด้วย เลยมีคนขอลายเซ็นต์กันคิวยาวเหยียด
ภาพที่ 107
ภาพที่ 108
ภาพที่ 109 กองทัพธรรมที่ตั้งแถวอยู่ที่ใกล้ๆกับสะพานมัฆวาน
ภาพที่ 110 เมื่อตำรวจไม่ยอมให้ผ่าน ทั้งหมดจึงเคลียร์พทื้นที่เพื่อตั้งเวทีใหญ่ขวางถนน ณ จุดนี้
ภาพที่ 111
ภาพที่ 112
ภาพที่ 113
ภ าพที่ 114 ช่วงหลังเกิดเหตุที่กลุ่มมอเตอร์ไซต์ยกพวกมาโจมตีแนวหลัง ขว้างขวด หิน น็อต ใส่ชาวพันธมิตร จนต้องระดมอาสาสมัครมาป้องกันแนวหลังกันเต็มไปหมด
ในช่วงเวลาเคลื่อนพล เดินจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จะไปชุมนุมปักหลักพักค้างคืนที่หน้าทำเนียบรัฐบาล พ่อแม่พี่น้องพากันร่วมเดินขบวนร้องเพลงปลูกใจ เพลงเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และตะโกนขับไล่นักการเมืองที่ทำลายชาติ เมื่อมองกลับไปเบื้องหลัง ได้ยินข่าวมาจากแนวหลังขบวนเกิดความวุ่นวาย กลุ่มอันธพาลไล่ตีไล่ทำร้ายคนที่เดินรั้งท้ายขบวน แต่ผู้ที่มีหน้าที่รักษากฎหมายกลับนิ่งเฉย แม้จะมีคนร้องบอกให้ช่วย แต่กลับได้รับคำพูดกลับมาว่า "นายไม่ได้สั่ง" ได้ยินเสียงโฆษกบนรถประกาศว่า โชคดีมีเจ้าหน้าที่มูลนิปอเต๊กตึ้ง เข้ามาช่วยเหลือ ดูแลผู้บาดเจ็บ และโดนทำร้ายให้แล้ว หลายคนได้แต่ถอนใจกับผู้ที่สมควรทำหน้าที่ดูแลประชาชน แต่กลับยืนดูเฉยๆ
พ่อแม่พี่น้องเดินเท้ามาถึงสะพานมัฆวาน ถูกตำรวจตั้งแถวกันไว้ ไม่ยอมให้ผ่าน จึงเกิดการตั้งเวทีขวางถนนไว้ ในระหว่านนั้น มีข่าวที่ได้ยินแล้วหวั่นไหวเป็นระยะ อยู่ๆ รถขยายเสียงเบอร์ 4 ก็ค่อนๆแล่นเข้ามา เจ้ปอง อัญชลี ไพรรีรักษ์ ประกาศว่า ขออาสาสมัครผู้ชายไปช่วยดูแลแนวหลัง ป้องกันพวกป่วนเข้ามารังควาน ทำร้าย มีหนุ่มๆหลายคนทยอยลุกขึ้น เดินมุ่งตรงไปยังสี่แยก จปร.
บรรดาผู้ใหญ่ ผู้สูงวัย ยืนขึ้นมองไปในทิศทางนั้น หลายคนร้องเรียกให้เดินมารวมกันเป็นกลุ่มแล้วนั่งลง จะได้สังเกตได้ง่าย ใครแฝงตัวเข้ามาป่วนจะได้เห็นชัดๆ
หญิงสาววัยรุ่น ผู้อยู่ในวัยกลางคนหลายท่านออกอาการขวัญผวา แต่ผู้สูงวัยหลายคน กลับสงบนิ่ง ไม่มีท่าทีเกรงกลัวแต่อย่างใด คุณนิดชักขวัญผวา จะรีบหลบเข้าไปรวมกลุ่มกับพี่น้องหลายคน นายบอนรีบเตือนสติคุณนิดให้ดูแลคุณลุงคุณป้าที่มาด้วยกัน อย่าทิ้งท่านเอาตัวรอดคนเดียวอย่างเด็ดขาด!!
ช ่วงระหว่างการเดินเท้ามาที่สะพานมัฆวาน มีข่าวจากแนวหลังขบวนที่ถูกทำร้ายมาเข้าหูเป็นระยะๆ นายบอนมักจะเดินไปดูมุมโน้นมุมนี้ตามประสาคนอยากรู้อยากเห็น และอยากถ่ายรูป เก็บภาพหลักฐานต่างๆไว้ ซึ่งทำเอาคนที่มาด้วยกันเป็นห่วงไม่อยากให้นายบอนไปเดินซ่า กลัวจะโดนลูกหลง ถูกปาหัวแตก นายบอนจำใจต้องยอมฟัง ก่อนที่ขวัญกำลังใจของคนที่มาด้วยกันจะลดลงกว่านั้น ถ้านายบอนมากับทีมงานที่รู้ใจกันคงจะได้ลุยกันแบบไม่ยั้ง ในช่วงเวลาที่แก๊งมอเตอร์ไซต์มาป่วน ยกขบวนมาทำร้าย ขว้าง โยน น็อต-ก้อนหินนั้น เกิดข่าวมากมายในที่ชุมนุม หลายคนถึงกับขวัญผวา คิดไปไกลว่าจะโดนจับทั้งหมด, ถูกให้ออกจากราชการ, โดนยิง, โดนฆ่า นายบอนฟังแล้วได้แต่เฉยไว้ ถ้าหวั่นไหวไปด้วย สติแตกเปล่าๆ สติที่มั่นคงในช่วงเวลาที่กดดันสำคัญที่สุด
ช่วงที่มีอาสาสมัครผู้ชายลุกขึ้นเดินไปยังสี่แยก จปร. เพื่อคอยป้องกันพวกแก๊งป่วน นายบอนอยากที่จะลุกเดินออกไปบ้าง ถ้ามากับทีมที่รู้ใจกัน คงแทบจะรีบวิ่งไปลุยทันที แต่ในเวลานั้น ทีมบุรีรัมย์มองสำรวจสมาชิกที่เดินทางมาด้วยกัน พบว่า คุณสนธิน้อยกับลูกชายไม่อยู่ในที่นั้น หลายคนในทีมชักใจไม่ดี หรือว่าจะโดนลูกหลง บาดเจ็บไปแล้ว แต่เมื่อเจอคุณสนธิน้อยในเวลาต่อมา ท่านบอกว่าไปเดินอยู่แถวหลัง เห็นตุการณ์พวกป่วนเข้ามาโจมตีทำร้าย ตะลุมบอนกับการ์ดพันธมิตร คุณสนธิน้อยแม้จะสูงวัย อายุกว่า 50 ปีแล้ว ตอนนั้นท่านถือร่มในมือ เลยเข้าไปร่วมตี ฟาดไอ้พวกป่วนได้หลายที เห็นพวกป่วนเจอพันธมิตรเอาคืน ถูกตีจนเลือดอาบแล้ว เข้าไปทุบตีมอเตอร์ไซต์ของพวกป่วนที่ล้มลง เคาะที่เปาะที่นั่ง เจอน็อต เหล็กหลุดออกมาเพียบ ซึ่งจะเอามาขว้างใส่หัวชาวพันธมิตรให้หัวแตก ซึ่งน็อต-เหล็กหล่นออกมาจากรถเยอะมากๆ
นายบอนพลาดโอกาส เพราะไปเดินอยู่ตรงกลางขบวน และไปดูหน้าขบวนเลยพลาดที่จะเห็นฉากตะลุมบอนที่แนวหลัง
ทีมพันธมิตรบุรีรัมย์ซึ่งเหมารถตู้เดินทางมาแบบไปกลับในวันเดียว ในช่วงเกือบ 6 ทุ่ม ทีมพันธมิตรบุรีรัมย์จึงลุกออกมา เดินทางกลับ เดินผ่านรถขยายเสียง เลยโบกมือลาคุณวสันต์ สิทธิเขตต์ที่นั่งอยู่บนรถกระจายเสียง ออกมาผ่านแยก จปร. เห็นอาสาสมัครและการ์ดพันธมิตรยืนออกันเต็ม รอรับการบุกมาอีกครั้งของพวกป่วน เห็นแล้วอยากเข้าไปร่วมลุยด้วย แต่จำใจต้องกลับกับทีมที่มาด้วยกันเพื่อไม่ให้หลายคนเป็นห่วง
คนขับรถตู้ก็ไม่กล้าเสี่ยงที่จะขับรถเข้ามารับเลยต้องนั่งแท็กซี่ไปลงที่ ครุสภา มากันหลายคนเลยทยอยกันขึ้นแต่ละคัน นายบอนขึ้นคันสุดท้ายร่วมกับคุณสนธิน้อยและลูกชาย คันที่นั่งมาไม่รู้จักทางไปครุสภา เลยลงที่ใกล้ๆอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เลยโบกรถแท็กซี่อีกคันไปลงที่ครุสภา ซึ่งแท็กซี่เปิดฟังวิทยุคลื่น 97.75 MHz ถ่ายทอดเสียงจากเวทีชุมนุมพันธมิตร แหม พึ่งได้ขึ้นรถแท็กซี่ที่เปิดวิทยุฟังฝ่ายพันธมิตร
พอรวมพลขึ้นรถตู้เดินทางออกมา คุณสนธิน้อยให้เปิดวิทยุฟังคลื่น 97.75 ไปเรื่อยๆ จนหมดเบตสัญญาณของคลื่นแถว ม.กรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต โห รัศมีการส่งคลื่นไปได้ไกลมากๆ ฟังได้ถึงรังสิตเชียวหรือนี่ นั่งฟังเสียงสดๆจากเวที เสียงจากเวทีบอกให้ปรบมือให้กับอาสาสมัครหนุ่มๆที่ไปยืนป้องกันแนวหลังไม่ให ้พวกป่วนเข้ามาทำร้าย คนในรถตู้ 3 คนเลยปรบมือพร้อมกันในตอนนั้น แล้วได้ฟังคุณสนธิขึ้นปราศรัยพร้อมกับเสียงเพลง "รักกันไว้เถิด" ที่ตำรวจเปิดแล้วหันลำโพงมาทางเวทีพันธมิตร นั่งฟังในรถตู้จนสัญญาณหายไป แม้จะได้กลับบ้าน แต่อีกใจก็นึกห่วงพี่น้องในที่ชุมนุม เลยนอนไม่ค่อยหลับ
กลับมาถึงบุรีรัมย์ตอน 6 โมงเช้า นายบอนต่อรถมาลงที่ร้อยเอ็ดถึง บขส.ตอน 4 โมงเช้ากว่าๆ ที่ บขส.ร้อยเอ็ดจะมีทีวี 3 เครื่องติดอยู่ที่เสาของตัวอาคารที่พักผู้โดยสาร มีเครื่องหนึ่งเปิดช่องASTV เลยได้เห็นว่า เวทีชุมนุมยังอยู่ เห็นแล้วก็โล่งใจ กลัวว่า กลับมาแล้วเวทีจะไม่อยู่ จะรู้สึกแย่มากๆ
คุณสนธิน้อย แห่งบุรีรัมย์ หลังจากกลับถึงบุรีรัมย์ในตอนเช้าวันที่ 26 พ.ค. ในตอนเย็นวันเดียวกัน ได้ข่าวว่าท่านขับรถเข้า กทม.ไปคนเดียว ไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตรอีกแล้วครับท่าน ทั้งๆที่พึ่งกลับมาถึงเมื่อเช้า ยังนอนได้ไม่เต็มอิ่ม แต่สวมหัวใจสิงห์กลับเข้า กทม.ไปแล้วครับ
สุดยอดจริงๆ
ที่มาของข้อมูล http://mblog.manager.co.th/bonkalasin/25-51-7/
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆคับ
ตอบลบ