++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2552

เห็นด้วยกับแนวคิดการตั้งพรรคการเมืองของ พธม.

ก่อนอื่นผมต้องขอโทษเพื่อน พธม. หลายท่านที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดการตั้งพรรคการเมืองของ พธม. ไว้ล่วงหน้าก่อนออกความเห็นนะครับ

ผมเป็นคนหนึ่งที่เห็นด้วยกับการที่ต้องตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาเองเพื่อนำไปสู่การสร้างการเมืองใหม่

ผ มเห็นด้วยที่ทาง พธม. เรามาคอยติดตามตรวจสอบรัฐบาลผู้บริหารบ้านเมือง ซึ่งเป็นการช่วยกันสอดส่องดูแลบ้านเมืองให้สงบสุข เป็นไปในทางที่ถูกที่ควร ไม่ถูกปู้ยี่ปู้ยำโดยผู้มีอำนาจ แต่ขาดจริยธรรม มุ้งประโยชน์ส่วนตัวหรือพวกพ้องตนเองเป็นหลัก

แต่ที่ผ่านมาเราคงปฏิเ สธไม่ได้ว่าการออกมาชุมนุมเรียกร้องของ พธม. มีอุปสรรคขัดขวางมากมาย ผู้เสียประโยชน์ใช้ทุกยุทธวิธีเพื่อโจมตีให้ร้าย พธม. เพื่อไม่ให้ พธม. เคลื่อนไหวขัดขวางประโยชน์ของตน แม้ในปัจจุบันก็ยังมีการให้ข่าวโจมตีการเคลื่อนไหวของ พธม. ว่ามีส่วนทำให้ประเทศได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะเรื่องการเข้าไปชุมนุมกันในสนามบิน แม้ว่าพวกเราจะพยายามออกมาแก้ข่าว ออกมาแสดงเหตุผลถึงเหตุที่ต้องเคลื่อนไหวถึงขั้นต้องทำให้มีผลกระทบถึงสนามบ ินฯ ซึ่งถ้าหากที่ผ่านมาไม่มีการตัดสินยุบ 3 พรรคการเมือง ตอนนี้ก็คงยังคาดเดาไม่ได้ว่าเหตุการณ์ต่างๆ จะจบลงอย่างไร

ปัจจุบัน ถ้าเรายังไม่สามารถแก้กติกาของสังคมเดิม (นั่นคือ ยังไม่มีการแก้กฏหมายที่ระบุไว้ตามรัฐธรรมนูญปัจจุบัน) เพื่อนำประเทศชาติไปสู่ความสงบสุข ความเป็นธรรม และการพัฒนาก้าวหน้าอย่างยั่งยืนแล้ว เราก็คงมีความจำเป็นต้องเข้าไปเล่นตามกติกาเดิมที่กำหนดไว้ เพื่อให้ได้อำนาจส่วนใหญ่มาอย่างเพียงพอ(ตามกติกาที่พวกผู้แทนเดิมๆ ทั้งในอดีตและในปัจจุบันชอบอ้างกัน) ถึงจะสามารถดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้เกิดการเมืองใหม่ได้

การที่แกน นำ พธม. ได้เคยกล่าวไว้ว่าจะไม่เล่นการเมืองนั้น ผมเห็นด้วยและก็ไม่อยากให้ทางแกนนำท่านต้องเสียคำพูด แต่ในกลุ่ม พธม. หรือผู้ที่เห็นด้วยกับแนวทางของ พธม. หลายท่านก็เป็นคนดีมีความสามารถ (อาจเป็นกลุ่มคนดีมีความสามารถที่เคยถูกเรียกร้องให้ออกมาลงสมัครรับเลือกตั ้ง ออกมาเล่นการเมือง เพื่อกันไม่ให้มีแต่คนไม่ดีมาลงเลือกตั้ง ในหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา) ควรใช้โอกาสที่กลุ่มกระแสความดีที่ยังมีพลังอยู่นี้ ออกมาแสดงตัวเพื่อขอโอกาสเข้าสู่อำนาจทางการเมือง ทำการเมืองให้เป็นงานของคนดี คนเก่ง คนมีคุณธรรมจริยธรรม และมีความเสียสละเพื่อส่วนรวม ไม่ใช่เป็นแหล่งทำมาหากินของนักเลง หรือของคนไม่ดี ประเทศชาติ และลูกหลานของเราจึงจะสามารถดำรงอยู่อย่างสงบสุขได้

หาก พธม. จะตั้งการเมืองในช่วงนี้ ผมคิดว่าเหมาะสมกับเวลา เพราะไม่นานอาจมีการยุบสภาและเลือกตั้งกันใหม่ แต่ควรเป็นการรวมตัวกันเงียบๆ ของคน พธม. ไม่แสดงออกอย่างโจ่งแจ้งว่าเป็น พธม. (เพราะอาจเกิดแรงเสียดทานจากฝ่ายเสื้อแดง หรือฝ่ายที่ยังไม่เข้าใจแนวทางของ พธม.) แต่ของให้เน้นสร้างนโยบายหาเสียงที่ดี มีประโยชน์ สามารถช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองได้อย่างเป็นรูปธรรม และให้เป็นที่รู้กับอย่างลับๆ ว่านี่คือพรรคของ พธม. หรือพรรคที่มีแนวทางเดียวกันกับ พธม. และมาช่วยกันลงคะแนนให้พรรคนี้

ผ มคิดว่า พธม. เราต้องมีการดำเนินการอย่างยืดหยุ่น หลากหลาย ทุกยุทธวิธี เพื่อนำไปสู่สังคมแห่งความดี นำไปสู่การแก้ปัญหาที่สำคัญของชาติ นั่นคือ อาจจำเป็นต้องแยกกันทำงานเป็น 2 ด้าน หรือหลายด้าน เช่น ด้านหนึ่งทำหน้าที่เป็นฝ่ายตรวจสอบภาคประชาชนดังที่ได้ทำกันมาเป็นอย่างดีที ่ผ่านมา ด้านหนึ่งอาจรวมตัวกันตั้งพรรคการเมืองเพื่อให้ได้อำนาจทางการเมืองตามรัฐธร รมนูญ เพื่อนำไปสู่การสร้างการเมืองใหม่อย่างยั่งยืน ดังที่ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ท่านให้ความเห็น ส่วนด้านอื่นๆ ก็อย่างเช่น พธม. ที่อยู่ในหน่วยงานของรัฐ หรือในหน่วยงานของเอกชน ก็ช่วยกันออกมากระทำความดีให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่คนในสังคม ออกมาแสดงออกสนับสนุนความดี ต่อต้านหรือไม่ร่วมมือกับความไม่ดี ออกมาช่วยกันหลายๆ ทาง ตามความถนัด ตามอำนาจหน้าที่ ตามโอกาสที่เหมาะสม โดยมุ่งไปที่จุดหมายอันเดียวกันนะครับ
สุรธรรม
    การที่เราจะตั้งพรรคการเมือง นั่นคือเราคงจะต้องเป็นนักการเมืองนะครับ แต่ถ้าเราเป็นคนดี เราก็จะต้องเป็นนักการเมืองที่ดี มุ่งทำงานเพื่อนำไปสู่ความดี ความถูกต้อง

ก ารที่คนเรามาอยู่รวมกันเป็นสังคม เราคงปฏิเสธเรื่องการตั้งคณะบุคคลเข้ามาเป็นตัวแทนเพื่อบริหารงานอันมีจุดปร ะสงค์เพื่อการดำรงอยู่ร่วมกันของคนในสังคมอย่างสงบสุขและสันติ ถ้าตัวแทนหรือผู้ที่เสนอตัวมาเป็นผู้แทน หรือมาขอให้เราเลือกเป็นคนดีพอให้เราเลือก เราก็คงไม่ต้องมาเหนื่อยกันดังที่ผ่านมา

ผมเองที่เห็นด้วยกับการตั้ง พรรค ในอดีตที่ผ่านมาก็ไม่เคยคิดที่จะเล่นการเมือง ไม่เคยต้องการอำนาจทางการเมือง อยากอยู่อย่างปุถุชนธรรมดา อยู่กับครอบครัว พ่อแม่ ลูกเมีย อย่างสงบสุข อย่างพออยู่พอกินหรือพอเพียง แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นที่ผ่านมา ทำให้ต้องคิดถึงวิธีการแก้ปัญหา โดยการแก้ปัญหาทางหนึ่งก็คือต้องเข้าไปสู่อำนาจทางการเมืองเสียเอง เมื่อเราหวังกับผู้แทนเดิมๆ ของเราไม่ได้ แม้มองไปสู่อนาคตก็ยังไม่ค่อยมีความหวัง (อันนี้เป็นการมองนักการเมืองที่ผ่านมาและในปัจจุบันในภาพรวม และปัจจุบันก็ยังหวังกับคุณอภิสิทธิ์ฯ) ก็อย่ามัวเรียกร้องหาคนอื่นๆ ที่เป็นคนดีมีความสามารถมาทำการเมืองเพื่อเราเลย เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะได้มา ออกมาช่วยกันทำด้วยตัวเราเองดีกว่า ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ตามประสงค์นัก ก็ยังดีกว่านิ่งเฉย แล้วปล่อยให้คนไม่ดีได้อานาจ และใช้อำนาจไปในทางที่ไม่ดี

ถ้า ปชป. สามารถแสดงให้เห็นว่าเขาสามารถทำการเมืองใหม่ได้ นำประเทศชาติไปสู่ความดี ความถูกต้องได้ ต้อนนั้นการตั้งพรรคของเราเองถึงจะสามารถพับเก็บเข้าลิ้นชักได้นะครับ

ห ากเราคิดพิจารณาหาวิธีแก้ปัญหาด้วยเหตุ ด้วยผล เราจะพบวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามหากท่านใดมีแนวคิด มีเหตุผลดีๆ เกี่ยวกับผลดีผลเสียจากการตั้งพรรคของ พธม. ผมก็ยินดีรับฟังนะครับ อยากให้มีการระดมความคิดกันอย่างสร้างสรรค์ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างถูกทางครับ
สุรธรรม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น