++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2551

“จำลอง” ชี้ฝีมือรัฐเข่นฆ่า ปชช. ไว้อาลัยกองทัพ ติงอย่าอ้าง ปชช.


แกนนำพันธมิตรฯ แฉรัฐบาลสัตว์นรกลอบกัด เดินหน้าทำสงครามเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ทุกรูปแบบ มั่นใจเป็นฝีมือคนในเครื่องแบบ หมดอาลัยกองทัพนิ่งดูดาย โวยอย่าอ้างยินเคียงข้างประชาชนอีก เชื่อ "ป๋าเปรม" ไม่หลงคารมรับคนกลางเจรจาแน่

วันนี้ (30 ต.ค.) ที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงข่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยแบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายพันธมิตรฯ และฝ่ายรัฐบาล ไม่ใช่เป็น 3 หรือ 4 อย่างที่คนเข้าใจ รัฐบาลกำลังเดินหน้าทำสงครามเต็มรูปแบบ เข่นฆ่าประชาชนอย่างเต็มรูปแบบ เข่นฆ่าประชาชนผู้รักชาติที่ออกมาชุมนุมอย่างสันติ โดยมีประสงค์ที่จะทำร้ายทั้งในที่ตั้งและนอกที่ตั้ง กรณีเมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 30 ต.ค.รัฐบาลพยายามส่งคนเข้ามาก่อกวนที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ พันธมิตรฯ ก็จับกุมผู้ที่มาก่อกวนซึ่งเป็นชาวจังหวัดหนองคาย และสารภาพว่ารับจ้างมาจากฝ่ายรัฐบาลด้วยเงินเพียง 200 บาท หวังสร้างความวุ่นวายโดยการนำผ้าชุบน้ำมันเบนซินเตรียมมาจุดไฟ

รวมทั้งเมื่อเวลา 03.00 น. ฝ่ายรัฐบาลได้ส่งคนเข้ามาขว้างระเบิดสังหาร บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 9 ราย ซึ่งในนี้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย นอกจากนี้ เวลา 04.00 น. ฝ่ายรัฐบาลได้เข้ามาบริเวณมิสกวัน หน้ากองทัพภาคที่ 1 แต่งกายชุดดำ พกอาวุธสงครามครบมือ ระดมยิงผู้ชุมนุมและการ์ดพันธมิตรฯ ทั้งนี้ พันธมิตรฯ ข้อตั้งข้อสังเกตว่าพวกที่พกอาวุธได้อย่างไม่ผิดกฎหมายเช่นนี้ มีแค่ตำรวจ และทหารเท่านั้น

พล.ต.จำลอง กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาพันธมิตรฯ ได้เคยเรียกร้องต่อกองทัพบกให้ส่งสารวัตรทหารเข้ารักษาความปลอดภัย แต่ไม่มีการตอบรับกลับมา ดังนั้น จึงขอเรียกร้องจากสื่อมวลชลอีกครั้ง เพื่อไม่ให้มีผู้บาดเจ็บล้มตามไปมากกว่านี้ ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 ต.ค.พันธมิตรฯ ได้ทำหนังสือไปถึง ผบ.ทบ.อีกครั้ง เพื่อให้ส่งสารวัตรทหารมาดูแลความปลอดภัย พร้อมกับพันธมิตรฯ จะช่วยออกค่าเบี้ยเลี้ยงให้กับสารวัตรทหารตามระเบียบ และเลี้ยงอาหารเป็นอย่างดี และอยากฝากบอกกับทหารอีกว่าจะนิ่งดูดายรอให้ประชาชนตายอีกสักกี่คน และบาดเจ็บเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่เคยประกาศว่าจะอยู่เคียงข้างประชาชน

พล.ต.จำลอง กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเสนอให้ พล.อ.เปรม ติณสูรนนท์ เข้ามาเป็นคนกลางในการเสวนาและเจรจากับกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า ตนคิดว่า พล.อ.เปรม จะรับเป็นประธานหรือไม่ เนื่องจากรัฐบาลเคยทำให้ พล.อ.เปรม เจ็บช้ำน้ำใจมาหลายครั้งแล้ว แต่ถ้าหากต้องการเจรจากับกลุ่มพันธมิตรฯ จริงก็ไม่มีปัญหา

สำหรับการเคลื่อนไหวตามยุทธศาสตร์ดาวกระจาย ไปยื่นหนังสือที่สถานทูตอังกฤษให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งพันธมิตรน ก็ไม่กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรง เพราะพันธมิตรน รู้ว่ารัฐบาลจะลอบกัดพันธมิตรในช่วงมืดและช่วงที่ไม่พร้อมเท่านั้น

พล.ต.จำลอง กล่าวถึงกรณีที่สื่อมวลชนเสนอข่าวออกมาว่า กทม.แจ้งความที่ สน.ดุสิต กรณีกลุ่มพันธมิตรฯ ยึดรถดับเพลิงว่า ตนได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับนายอภิรักษ์แล้วไม่ก็ไม่พูดถึงกรณีดังกล่าว ทั้งนี้ ทางพันธมิตรน ได้บอกให้ กทม.นำรถดับเพลิงกลับไป แต่เหลือเพียง 1 คัน เนื่องจากรถคันดังกล่าวยางแบน อย่างไรก็ตาม พันธมิตรฯ ก็อยากให้ กทม.นำรถดับเพลิงมาจอดไว้ในทำเนียบฯ พร้อมกุญแจ เพื่อป้องกันเหตุการณ์รุนแรงที่จะเกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ นาย ดิสธร วัชโรทัย ประธานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ออกมาบอกว่า การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ได้เกิดประโยชน์ แต่เป็นการสร้างความแตกแยกให้แก่ประเทศ รวมทั้งระบุว่าถ้ารักในหลวงให้อยู่บ้าน และกลับบ้าน พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ถ้ารักในหลวงอยู่บ้านแล้วเกิดประโยชน์ต่อประเทศ พันธมิตรน คงทำไปนานแล้ว คงไม่ต้องมาลำบากอย่างนี้ ส่วนที่บอกว่ารักในใจก็ทำอยู่แล้ว ตนขอถามว่าถ้ารักในใจแล้วจะเป็นประโยชน์ต่อชาติหรือไม่ ทั้งนี้ ถ้ามีกลุ่มหรือบุคคลที่จะมาทำหน้าที่แทนพันธมิตรฯ พวกเราก็ยินดีที่จะกลับบ้าน แต่เพราะไม่มีใครจึงต้องอยู่อย่างนี้เรื่อยไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ออกมาระบุถ้าพันธมิตรฯ ยังไม่เลิกชุมนุม ก็จะมีการ์ดและผู้ชุมนุมตายทุกวัน พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ใครที่บอกว่าพันธมิตรฯ จะตายเรื่อยๆ แสดงว่าจ้องจะทำให้พวกเราตาย ตนขอให้เลิกคิดและเลิกพูด เพราะพวกเราคนไทยด้วยกัน พร้อมยืนยันว่าจะต่อสู้ด้วยสันติวิธีเหมือนเดิม



"อำนวย" หุบปากเงียบเหตุปาบึ้มใส่การ์ดพันธมิตรฯ


"อำนวย" ปิดปากเงียบเหตุคนร้ายปาระเบิดใส่การ์ดพันธมิตรฯ อ้างต้องรอดูกล้องวงจรปิดจากบริเวณรอบที่เกิดเหตุก่อน ขณะที่ตำรวจสอบพยานไปแล้ว 1 ปาก ระบุชัดเห็น 2 คนร้ายสวมชุดดำซิ่ง จยย.มาวนเวียนดูลาดเลา 2 รอบ ครบรอบที่ 3 จึงลงมาปาระเบิดใส่

วันนี้ (30 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ สน.นางเลิ้ง พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. พ.ต.อ.วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ รอง ผบก.น.1 เดินทางมาตรวจสอบความคืบหน้าคดีเหตุคนร้ายปาระเบิดเข้าใส่การ์ดพันธมิตรฯ บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา โดยใช้เวลาประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นจึงเดินทางกลับ โดยปฏิเสธที่จะตอบคำถามของผู้สื่อข่าว แต่เมื่อถูกซักถึงเหตุระเบิด พล.ต.ต.อำนวย กล่าวเลี่ยงว่า ที่เดินทางมายัง สน.นางเลิ้งในวันนี้ไม่เกี่ยวกับคดีระเบิด แต่มาดูคดีการเข้ามอบตัวของอดีต ผอ.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ในคดีสวมชื่อผู้ค้าแผงตลาดโบ๊เบ๊เกินความจริง ส่วนเรื่องระเบิดคงต้องรอดูกล้องวงจรปิดของหน่วยงานต่างๆ ที่อยู่ใกล้บริเวณที่เกิดเหตุก่อน

ด้าน พ.ต.ท.ภูเบศ เส้นขาว รอง ผกก.สส.สน.นางเลิ้ง กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานไปยังหน่วยงานราชการบริเวณที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเพื่อขอกล้ องวงจรปิดมาตรวจสอบว่าสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้หรือไม่ ทั้งนี้ ได้ทำการสอบพยานที่เห็นเหตุการณ์ซึ่งเป็นการ์ดของพันธมิตรฯ ไปแล้ว 1 ปาก แต่ยังให้การได้ไม่มาก โดยพยานคนดังกล่าวอ้างว่าติดธุระสำคัญ จากนั้นขอตัวกลับไปก่อน ซึ่งตำรวจจะเรียกตัวมาสอบอีกครั้ง รวมทั้งหาพยานที่เห็นเหตุการณ์มาสอบสวนเพิ่มเติมด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพยานที่เห็นเหตุการณ์คนร้ายขว้างระเบิดใส่นั้น ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนายเชิดศักดิ์ (ขอสงวนนามสุกล) อายุ 50 ปี การ์ดพันธมิตรฯ ซึ่งให้การว่า ได้มาเข้าเวรเป็นการ์ดอาสาสมัครพันธมิตรฯ ตั้งแต่เวลา 00.00-06.00 น. จนกระทั่งช่วง 01.00 น.เห็นชายฉกรรจ์สวมชุดดำ สวมแจ็กเกตสีดำ กางเกงสีดำ สวมหมวกกันน็อก ขี่รถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน ขับขี่มาวนเวียนอยู่หน้าบริเวณสะพานมัฆวานฯ 2 รอบ โดยเริ่มขับขี่มาจากบริเวณจากแยก จปร. ใช้เส้นทางถนนราชดำเนินกลาง จนมาถึงบริเวณแยกสะพานมัฆวานฯ จึงเลี้ยงขวาไปทางถนนกรุงเกษม จากนั้นวนไปวนมาอีก 2 รอบ โดยทิ้งระยะห่างรอบละประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นในรอบที่ 3 พบว่าชายคนดังกล่าวขับขี่มาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีผู้ซ้อนท้ายมาด้วย 1 คน แต่งกายในลักษณะเดียวกัน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้หยุดรถที่บริเวณทางแยกสะพานมัฆวานฯ จากนั้นคนที่ซ้อนท้ายก้าวลงจากรถ แล้วขว้างระเบิดใส่บริเวณสถานที่การ์ดพันธมิตรฯ ยืนรักษาการณ์อยู่ แล้วกลับไปขึ้นรถที่เพื่อนยังคงติดเครื่องรออยู่ และพากันเร่งเครื่องขับหลบหนีไป


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น