++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2551

หมายเหตุ:แค่ทำหน้าที่ก็ไม่มีใครด่า

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 21 ตุลาคม 2551 17:05 น.
       แม้ว่าคณะผ ู้บังคับบัญชาทหารทุกเหล่าทัพ รวมทั้งผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ออกมาอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา แถลงต่อสาธารณะให้รัฐบาลลาออกไปแล้ว แต่รัฐบาลก็ยังดึงดันทุรังไม่ฟังเสียงใครอยู่ต่อไป
      
       ก็ต้องคอยดูกันว่าระหว่างรัฐบาลกับผู้นำเหล่าทัพและผู้บัญชาการสำนัก งานตำรวจแห่งชาติ ใครจะอยู่ ใครจะไปก่อนกัน เพราะมาถึงขั้นนี้แล้วที่จะหน่อมแน้มหรือหายเงียบไปเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง ย่อมไม่ใช่วิสัยที่จะเป็นไปได้
      
       แ ต่ถึงกระนั้นก็ยังมีผู้คนกังขาออกมาต่อว่าต่อขานผู้นำกองทัพกันไม่ขาดระยะ ล่าสุดนี้พลเอกสพรั่ง กัลยาณมิตร หนึ่งในแกนนำ คมช. ก็ออกมาเรียกร้องให้กองทัพทำหน้าที่ของตน เพื่อเยียวยาปัญหาของบ้านเมือง
      
       ยังคงเป็นพลเอกสพรั่ง กัลยาณมิตร คนเดิมที่พูดจาตรงไปตรงมาและเป็นขวัญใจของประชาชนผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ดังนั้นคำเตือนของพลเอกสพรั่ง กัลยาณมิตร จึงควรเป็นเรื่องที่คณะทหารจะต้องช่วยกันคิดพิจารณา
      
       นอกจากนี้ คณะอดีตเสนาธิการจำนวนหลายคนก็แสดงท่าทีบนเวทีปราศรัยของพันธมิตรประชาชนเพื ่อประชาธิปไตยภาคใต้ สนับสนุนการเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องชาติ และราชบัลลังก์อย่างโจ่งแจ้ง
      
       คณะข้าราชการครู คณะข้าราชการสาธารณสุข พนักงานรัฐวิสาหกิจจำนวนมากก็แสดงตัวตนที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวปกป้องชาติ ราชบัลลังก์ อย่างเปิดเผยมากขึ้น
      
       ท ี่น่าสนใจก็คือการเปิดเผยตัวของนักธุรกิจที่ปกติจะปกปิดซ่อนเร้น ไม่อยากเปิดเผยตัวว่าสนับสนุนข้างไหน ก็ยอมเปิดเผยตัวออกมาสนับสนุนการต่อสู้กู้ชาติมากขึ้น
      
       เหตุผลของคนเหล่านี้คือ หากมัวแต่จะพูดถึงเรื่องธุรกิจหรือกำไรอยู่ต่อไป โดยที่ประเทศไทยเรายังเป็นเช่นนี้ ก็จะไม่มีใครรอดเหลือ ภาคธุรกิจทั้งหมดจะพากันพังพินาศ จึงเห็นเป็นความเร่งด่วนที่ต้องมาร่วมต่อสู้กู้ชาติให้เสร็จสิ้นเสียก่อน
      
       ท ่ามกลางการเคลื่อนไหวที่ว่านี้ ท่าทีของผู้บัญชาการทหารเรือก็น่าสนใจ เพราะท่านออกมาบอกว่าการปฏิวัติจะทำให้ประเทศไทยล้าหลัง และเสียหายมากขึ้น
      
       ไม่รู้ว่าสำคัญผิดอะไรหรือไม่ เพราะถึงวันนี้ก็ไม่มีใครเรียกร้องให้ทหารปฏิวัติ เพราะขึ้นอยู่กับความรู้สึกนึกคิดรับผิดชอบของฝ่ายทหารเองว่าจะมีส่วนในการแ ก้ไขปัญหาของบ้านเมืองอย่างไร
      
       หรือว่าจะทำเป็นใจจืดใจดำให้บ้านเมืองพินาศย่อยยับไปต่อหน้าต่อตา หรือว่าจะใจจืดใจดำปล่อยให้เลือดไทยไหลนองทั้งแผ่นดินเสียก่อน
      
       ที่คนเขาเรียกร้องและตำหนิทหารบ้างก็เพราะผู้คนเขารู้สึกว่าทหารไม่ได้ทำหน้าที่ที่ต้องกระทำ ประชาชนจึงมีสิทธิ์ตำหนิติเตียนได้
      
       เพียงแค่ทหารทำหน้าที่ที่ต้องกระทำเท่านั้น บ้านเมืองของเราย่อมดีกว่านี้แน่
      
       แล้วอะไรคือหน้าที่ที่ทหารต้องกระทำ แต่ยังไม่ได้กระทำ
      
       ก็ขอบอกเอาบุญว่าหน้าที่ที่ทหารต้องกระทำนั้นมีบัญญัติไว้แล้วในรัฐธ รรมนูญ ขอให้ไปดูไปศึกษาไปทำความเข้าใจกันเสียใหม่ ไม่ใช่เอะอะอะไรก็จะปฏิวัติหรือไม่ปฏิวัติ
      
       ตามรัฐธรรมนูญบัญญัติหน้าที่ทหารไว้เป็น 4 ประการ คือ
      
       (1) การพิทักษ์รักษาพระมหากษัตริย์และสถาบันพระมหากษัตริย์
      
        (2) การพิทักษ์รักษาเอกราชอธิปไตยและผลประโยชน์แห่งชาติ
      
       (3) การปกป้องคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน
      
       (4) การพัฒนาประเทศ

      
       ทหารจะต้องสำรวจตัวเองก่อนที่จะน้อยอกน้อยใจหรือพร่ำบ่นแต่เรื่องปฏิวัติหรือไม่ปฏิวัติว่าได้ทำหน้าที่ 4 ประการนี้แล้วหรือไม่
      
       ขณะนี้พระมหากษัตริย์และสถาบันพระมหากษัตริย์ถูกมุ่งร้าย ถูกจ้องโค่นล้มทำลายและมีการบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ทุกเมื่อเชื่ อวันอย่างโจ่งแจ้งและหลากหลายรูปแบบ
      
       ทหารจะต้องรู้เหตุการณ์นี้เพราะหากไม่รู้ก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะรักษา หน้าที่นี้ได้ และเมื่อรู้แล้วก็ต้องถามตัวเองว่าทำไมจึงปล่อยให้เกิดเหตุเช่นนี้ ทำไมจึงไม่ปกป้องพิทักษ์รักษาหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์นี้
      
       เ พราะหน้าที่ประการนี้ทหารทุกคนล้วนได้ถวายสัตย์ต่อหน้าพระพักตร์และต่อหน้าธ งชัยเฉลิมพลมาชั่วชีวิต หากไม่ทำหน้าที่นี้แล้วทหารจะมีคุณค่าหรือความหมายอะไร และสมควรที่จะถูกตำหนิติเตียนหรือไม่เล่า
      
       ขณะนี้เอกราชอธิปไตยของชาติถูกลบหลู่เหยียดหยามและถูกแย่งยึดอยู่ทุก วัน เขมรได้ข่มขู่คุกคามและยึดดินแดนไทยทั้งบนบกและในทะเล รวมทั้งการเอาดินแดนไทยในทะเลไปให้ต่างชาติขุดเจาะก๊าซและน้ำมัน
      
       ทหารก็ต้องสำรวจตนเองว่าได้ทำหน้าที่อะไรในเรื่องนี้บ้าง? หรือว่าจะเพิกเฉยให้เขมรย่ำยีลบหลู่กองทัพไทยตามอำเภอใจต่อไปไม่มีที่สิ้นสุ ด
      
       การที่คนไทยเขาเจ็บแค้นด้วยทหารแล้วติติงเอาบ้าง จึงเป็นเรื่องที่ควรต้องรับฟังและใคร่ครวญ
      
       ข ณะนี้มีการใช้อำนาจรัฐและอำนาจเถื่อนข่มขู่คุกคามสังหารและทำร้ายประชาชนไม่ เว้นแม้กระทั่งประธานศาลปกครองสูงสุด หรือผู้พิพากษาศาลฎีกา หรือ ป.ป.ช. เป็นข่าวคราวโด่งดังไปทั้งบ้านทั้งเมือง และเป็นข่าวคราวดังกระหึ่มไปทั้งโลก
      
       จนใกล้ที่คนไทยจะยกพวกฆ่ากันเองอยู่แล้ว
      
       แล้วทหารได้ทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองประชาชนอะไรบ้าง? การนั่งท่องว่าเป็นกลาง เป็นกลาง ในขณะที่ประชาชนถูกฆ่า ถูกทำร้าย ถูกข่มเหงรังแก เป็นการทำหน้าที่ที่รับผิดชอบแล้วละหรือ?
      
       ส่วนหน้าที่ในการพัฒนาประเทศนั้นเป็นเรื่องปกติ ไม่จำจะต้องกล่าวในที่นี้
      
       ประชาชนและประเทศชาติต้องใช้เงินจำนวนมากในแต่ละปีเพื่อเป็นค่าใช้จ่ ายด้านกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับทหาร เพื่อให้ทหารทำหน้าที่ดังกล่าว
      
       รัฐธรรมนูญก็บัญญัติและกฎหมายก็ให้อำนาจทหารที่จะทำหน้าที่นี้ได้อย่ างสมบูรณ์ โดยทหารแค่ระดับผู้บังคับกองพันที่รับผิดชอบพื้นที่ใดก็สามารถใช้อำนาจในเขต พื้นที่นั้นได้ หากมีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้น เพียงแค่ประกาศกฎอัยการศึกในพื้นที่นั้นก็สามารถทำหน้าที่ของตนได้โดยไม่ต้อ งรอให้ใครมาขอร้องหรือมาสั่ง
      
       เมื่อเป็นดังนี้ หากทหารยังไม่ทำหน้าที่ของตน ความสับสนก็เกิดขึ้นว่าทหารเป็นไทแก่ตนอยู่หรือว่าอยู่ใต้อุ้งตีนนักการเมือง
      
       หน้าที่ดังกล่าวนี้ไม่เกี่ยวกับการปฏิวัติหรือไม่ปฏิวัติ จึงไม่ควรเบี่ยงเบนประเด็นทำให้เกิดความสับสนเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น