++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2551

อนาถประเทศไทยสาเหตุจากคนคนเดียว

โดย ว.ร.ฤทธาคนี 9 ตุลาคม 2551 18:51 น.
       ประวัติศาสตร์สอนให้มนุษย์รู้จักอดีต เพราะอดีตเป็นบทเรียนที่ต้องจดจำ ไม่ว่าจะเป็นวิชาอะไรก็ตามจะต้องมีประวัติที่มาที่ไปในแต่ละวิชา มักเป็นบทนำของวิชานั้นๆ เพื่อแสดงถึงความสำคัญของวิชานั้นที่มีต่อมนุษยชาติ และขบวนการพัฒนาจนเกิดสูตรสำเร็จให้ยึดถือให้สาธารณะได้ประโยชน์
      
       ดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดในห้วงปี 2548 ถึงปัจจุบันเป็นช่วงประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่สำคัญมากบทหนึ่งที่ต้องจดจำ และวิเคราะห์อย่างต่อเนื่องมิให้ลืม
      
       ขบวนความคิดในเชิงศาสตร์และศิลป์อาจจะแตกต่างกันตามหลักการ และความเชื่อที่เกิดขึ้นตามการพิสูจน์ เช่น ในเชิงวิทยาศาสตร์ มนุษย์จะมีข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนแต่ในเชิงศิลปศาสตร์ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับสังคมจิตวิทยาแล้วหาข้อพิสูจน์ที่สมบูรณ์ได้ยาก แต่จะได้รับการยอมรับจากผู้ที่มีศรัทธาในหลักการนั้นโดยทั่วไป ผู้ที่ศรัทธาจะใช้หลักตรรกะที่เกิดจากความสมเหตุสมผลเท่านั้นใช้ประกอบในการ สร้างความศรัทธานั้นๆ เพราะหลักการบางหลักการไม่เป็นอมตะ เช่น หลักการปกครองแบบเผด็จการไม่ว่ารูปแบบใดก็ตาม หลักการแยกวรรณะแบบอินเดีย หลักการสตาลิน หลักการแยกผิว หรือระบอบทักษิณเป็นต้น
      
       หลักการบางหลักการก็อาจจะเหมาะกับสถานการณ์หนึ่ง แต่ไม่เหมาะกับอีกสถานการณ์หนึ่งหรืออีกกาลเวลาหนึ่ง และนี่เป็นสัจธรรมแต่สัจธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของระบอบการปกครองคือหลักความ ชอบธรรมอันเป็นทฤษฎีการสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาเพื่อให้ชนในชาติแน่นอนใ จว่าเขาได้รับการดูแลจากคนมี่มีคุณธรรม มีจริยธรรม และมีอุดมการณ์เสียสละมิได้หวังผลตามกิเลสที่ดร.อับราอัม มาสโลว์ เขียนไว้ในทฤษฎีความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ และถ้าเรามีนักการเมืองตามอุดมการณ์คุณธรรมแล้ว ประเทศก็จะมีแต่สันติสุขและความเจริญรุ่งเรือง
      
       รูปแบบคลาสสิกของการเมืองทุกระบอบ ต้องเกิดจากความศรัทธาของชนในชาติโดยบทเรียนพื้นฐานของวิชารัฐศาสตร์พูดถึงค ือ “การเมืองจะมีเสถียรภาพได้ก็เพราะประชาชนทั้งมวลหรือส่วนใหญ่เกิดศรัทธาในตั วรัฐบาลนั้น ทำให้เกิดความร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติตามแนวคิด และนโยบายของรัฐบาล ทำให้สามารถออกกฎหมายที่เป็นธรรมและเป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยร่วมรัฐบาลนั้น จึงสามารถบริหารประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพและจะเป็นรัฐบาลที่มีความชอบธรร ม”
      
       ดังนั้นระดับความชอบธรรมขึ้นอยู่กับความบริสุทธิ์ใจของนักการเมืองทุ กฝ่าย ทั้งในสภาฯ และนอกสภาฯ ที่หวังจะทำนุบำรุงความสุขสวัสดี ความรุ่งเรืองและสันติสุขให้เกิดขึ้นกับคนในชาติ
      
       ความสุขสวัสดีและความรุ่งเรืองนั้นเกิดขึ้นจากความซื่อสัตย์ ความรู้ความสามารถ ความเมตตาและความจริงใจที่จะเสียสละในการที่จะสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให ้กับชาติบ้านเมือง การใช้งบประมาณแผ่นดินอย่างมีประสิทธิภาพ การควบคุมการเก็บภาษีให้เกิดความยุติธรรมและเสมอภาค มิใช่การละเว้นคนใดคนหนึ่งหรือตระกูลใดตระกูลหนึ่งที่ใช้อำนาจรัฐในสภาฯ อันเกิดจาก ส.ส.ในอาณัติหรือที่อยู่ในอำนาจเงินออกกฎหมายเอื้อประโยชน์ให้มีการยกเว้นภา ษีหรือเปิดช่องทางกฎหมายให้เลี่ยงภาษีได้ หรือการใช้เล่ห์กลการเมืองอื่นๆ ทุจริตคอร์รัปชันคดโกงแผ่นดินจนเกิดค่านิยมผิดๆ ที่ปฏิบัติกันอย่างกว้างขว้างอย่างไม่กลัวบาปหรือมีความละอายต่อบาป
      
       ส่วนสันติสุขเกิดได้จากระบบตำรวจ และขบวนการทางกฎหมายที่เข้มแข็ง ถูกต้องชอบธรรมและยุติธรรม รวมถึงการมีกองทัพที่เข้มแข็งเป็นกลไกในการป้องปรามการรุกรานจากภายนอกทุกมิ ติ ป้องกันการเสียดินแดนและดำรงรักษาระบบชาติได้แก่อำนาจอธิปไตยและสถาบันพระมห ากษัตริย์ และที่สำคัญวางตัวให้เกิดความชอบธรรมตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่าได้ตกหลุมข องนักการเมืองชั่วเจ้าเล่ห์เพราะพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธยังถูกหลอกให้มีอำนาจแต่สั่งการไม่ได้จนเกิดการกระทำโหดของฝ่ายตำรว จปราบปราม และกลุ่มที่แฝงมาในคราบของรัฐบาลจนต้องลาออก
      
       จึงเกิดภาวะอนาถประเทศไทยเพราะรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์น้องเขยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นคนเดียวในประวัติการเมืองไทยที่ก่อให้เกิดการแตกแยกยิ่งกว่าครั้งสง ครามอุดมการณ์ในประเทศไทยเสียอีก และรัฐบาลนี้ก็ขาดความชอบธรรมเมื่อคนไทยไม่สามารถยอมรับได้เพราะเป็นนอมินี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยิ่งกว่ารัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวชเสียอีก
      
       ขณะนี้คนทั่วไปสับสนและการสร้างความสับสนเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญของฝ่าย ระบอบทักษิณเพื่อให้ประชาชนถามว่าอะไรเกิดขึ้น ทำไมจึงเกิดขึ้น จะจบตรงไหนและจะจบอย่างไร
      
       เงื่อนไขสำคัญคือพ.ต.ท.ทักษิณไม่เคยยอมรับว่ารัฐบาลเขาขาดความชอบธรร ม ประชาชนส่วนมากหมดศรัทธาจึงเกิดการประท้วงต่อต้านพฤติกรรมต่างๆ ของเขาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยความโลภทั้งอำนาจและเงินตราจึงดื้อด้านจนเกิดรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ขึ้นเพื่อยุติบทบาทของเขาเกิดขบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์เอาผิดเขาและครอบค รัว จนพิสูจน์ไปแล้วระดับหนึ่งที่ภรรยาเขาต้องโทษจำคุกตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
      
       เพื่อจะเอาชนะด้วยเล่ห์และด้วยกลทำให้พ.ต.ท.ทักษิณใช้ศิลปะทั้งมวลให ้ได้อำนาจรัฐเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ที่ปิดช่องโหว่การแสวงอำนาจรัฐของเผด็จการทางรัฐสภาที่เดิมสามารถกว้านซื้อพ รรคการเมือง และนักการเมืองให้อยู่ในอาณัติทั้งตัวบทกฎหมาย อำนาจรัฐและเงินตรา
      
       และนี่เป็นเงื่อนไขที่คนกลุ่มหนึ่งจำนวนมากไม่ต้องการให้เกิดขึ้นจึง เกิดขบวนการต่อต้านระบอบทักษิณที่ฝังตัวในพรรคพลังประชาชนที่สร้างกลุ่ม นปก.ขึ้นเพื่อก่อสงครามทำลาย พธม.จนเกิดเหตุนองเลือดครั้งที่ 1 เพื่อเปิดทางให้นายสมัครประกาศภาวะฉุกเฉินโดยหวังใช้ทหารสลายม็อบ แต่พล.อ.อนุพงษ์ไม่เล่นด้วยและนายสมัครถูกศาลตัดสินว่าผิดกรณีออกรายการโทรท ัศน์หาเงินให้ตัวเองจึงต้องพ้นหน้าที่ทำให้นายสมชายซึ่งมีขบวนการในพรรคพลัง ประชาชนผลักดันให้เป็นนายรัฐมนตรีและนักยุทธศาสตร์ชั่วในพรรคสร้างแผนทำลาย พธม.ชนิดให้สิ้นซากด้วยกลยุทธ์โหดเพราะความโหดเท่านั้น ที่จะสร้างความกลัวมิให้คนกล้าเข้าร่วมกับ พธม.และเป็นการลดอำนาจบทบาทของประชาชนที่จะใช้สิทธิในการประท้วงรัฐบาลแบบสั นติวิธีได้อีก
      
       น ายสมชาย วงศ์สวัสดิ์และครอบครัวเองก็จะเป็นจำเลยสังคมไปอีกนานแสนนานหรือภรรยานายสมช ายอาจจะไม่ยี่หระเพราะเป็นน้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ถูกตราหน้าอยู่แล้วจะเดินทางไปภาคใต้ก็คงลำบาก และตราบใดเงื่อนไขเหล่านี้อยู่ในความระแวงของคนไทยก็ยังมีอยู่ การประท้วงก็ยังมีอยู่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น