++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2548

ไม้อ่อนดัดง่าย สิ่งแวดล้อมเริ่มที่เด็ก


การที่จะปลูกฝังจิตสำนึกแห่งการอนุรักษ์และรักษาสิ่งแวดล้อมให้กับเด็ก ๆ อันเป็นอนาคตของชาติให้ได้ผลนั้น มิใช่อยู่ที่การเรียนในห้องตามหลักทฤษฎี ซึ่งมีคุณครูยืนสอนหน้าห้อง
และนักเรียนมีหน้าที่จดตาม หรือวาดภาพไปในใจ แล้วทำการบ้านมาส่ง เหมือนที่หลายโรงเรียนนิยมทำกัน

แต่ในปัจจุบันนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนที่เน้นให้เด็ก ๆ เข้ามามีส่วนร่วมและได้ลงมือปฏิบัติจริง ตามหลักการปฏิรูปการศึกษา ว่าเด็กคือจุดศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ หรือ ชายด์ เซ็นเตอร์ ดังเช่น โรงเรียนวัดหนองหล่ม ต.หนองบัวบาน จ.ลำพูน ที่ได้ขานรับกับแนวการสอนนี้อย่างจริงจัง อันส่งผลให้เกิดโครงการ "ศูนย์พัฒนาศึกษา...สิ่งแวดล้อม" ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการ "โรงเรียนสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมดีเด่น เฉลิมพระเกียรติ" เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 6 รอบ และเนื่องในวันสิ่งแวดล้อมไทยที่ใกล้จะมาถึงด้วย
โครงการดังกล่าวเป็นการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างครู นักเรียน และชาวบ้าน ภายใต้กิจกรรมหลักที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ การศึกษาภายในโรงเรียน ซึ่งมีด้วยกัน 6 จุด และกิจกรรมภายนอกโรงเรียนที่ประกอบด้วย 7 จุดการศึกษา

สำหรับจุดศึกษาภายในโรงเรียน จุดแรกคือ ผักปลอดสารพิษ เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับพืชต่าง ๆ ที่สามารถนำมาสกัดใช้แทนสารเคมีได้ ซึ่งนักเรียนจะเข้ามามีส่วนในการสกัดสารเหล่านี้ด้วย จุดที่ 2 จะเป็น โปรตีนเพื่อชีวิต ที่นักเรียนต้องศึกษาเกี่ยวกับวงจรชีวิตของกบและปลาที่ชาวบ้านนำมาให้ รวมไปถึงการเลี้ยงดูเพื่อนำผลิตผลที่ได้มาเป็นอาหารและออกจำหน่ายสร้างรายได้ให้กับทางโรงเรียนด้วย

มาถึงจุดที่ 3 สมุนไพรพิชิตโรค ซึ่งเด็ก ๆ จะชอบมาก เพราะเป็นการออกไปเรียนนอกสถานที่ที่ "รีสอร์ทสวนสายน้ำแร่" โดยมี นิเวศก์ ลังการ์พินธ์
เป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้ เกี่ยวกับสมุนไพรแล้วยังรวมไปถึงสรรพคุณทางยาของพืชนั้น ๆ ที่มีหลายหลากพันธุ์ ส่วนจุดที่ 4 จากโรงงานสู่โรงเรียน จะเป็นการเรียนรู้และวิเคราะห์สภาพแวดล้อมที่จะมุ่งเน้นไปในเรื่องของขยะ ว่ามาจากไหน จะมีวิธีจัดการอย่างไร ซึ่งทางโรงเรียนได้สอนให้เด็ก ๆ
นำถุงพลาสติกหรือถุงใส่ขนมหลากสี มาดัดแปลงเป็นดอกไม้รีไซเคิลประดับห้องเรียนไว้อย่างสวยงาม

ต่อมาเป็นจุดที่ 5 เรียกว่า บ่อน้ำร้อน อันจะสอนให้เด็กรู้จักสังเกตและเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างน้ำจากธรรมชาติกับน้ำธรรมดาทั่วไป มาถึงจุดสุดท้าย จุดที่ 6 วิถีชีวิต ซึ่งใช้รีสอร์ทสวนสายน้ำแร่ ที่เดียวกับจุดที่ 3 เป็นแหล่งความรู้ เพราะที่นี่มีการรวบรวมสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ในอดีตไว้มากมาย อันจะสะท้อนภาพของการดำเนินชีวิตแบบไทย ๆ ออกมาได้เป็นอย่างดี

ส่วนการศึกษาภายนอกโรงเรียน ซึ่งมีชื่อเรียกว่า "กิจกรรมศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชุมชนดอยผายาย" อันเป็นการเรียนรู้จากพื้นที่ป่า 500 ไร่ ระยะทาง 2 กม. ที่นักเรียนและครูต้องออกมาสำรวจและเดินป่าร่วมกัน โดยมีชาวบ้านเป็นวิทยากรให้ความรู้ตลอดเส้นทาง ประกอบไปด้วย 7 จุดการศึกษา ดังนี้

นามระบือ..ผายาย นับเป็นจุดศึกษาแรก จะเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องของหิน ระบบนิเวศและประโยชน์ของมันเป็นหลัก เนื่องจากดอยผายายส่วนมากมีสภาพเป็นเขาหิน ส่วนจุดที่ 2 ชื่อว่า หลากหลายพันธุ์ป่า เป็นการศึกษาถึงชื่อและพันธุ์ไม้ต่าง ๆ พร้อมทั้งจด บันทึกประชากรป่าเพื่อทำสถิติไว้ด้วย ต่อมาเป็นจุดที่ 3 ทรงคุณค่าสมุนไพร ซึ่งนักเรียนและครูจะต้องศึกษาและจดบันทึกถึงชนิดและสรรพคุณสมุนไพรต่าง ๆ ที่พบในบริเวณนี้ทั้งหมด

มาถึงจุดที่ 4 งามวิไล... ม่อนดินแดง
เป็นจุดที่นักเรียนจะได้รู้ถึงประโยชน ์ตลอดจนการทำมาหากินของชาวบ้านในชุมชน ยังรวมไปถึงการเป็นแหล่งอาหารของสัตว์ป่า เช่น กวาง ด้วย สำหรับจุดที่ 5 มหัศจรรย์ ..ถ้ำดิน ที่เน้นให้นักเรียนรู้ถึงความสัมพันธ์ของถ้ำกับประวัติศาสตร์ เหตุการณ์ต่าง ๆ ของชุมชนว่าเป็นอย่างไร ส่วนจุดที่ 6 ภังค์ภินท์...จากสายน้ำ จะศึกษาถึงสภาพธรรมชาติ เช่น ดิน น้ำ ลม ที่มีผลต่อการพังทลายของดินที่กัดเซาะเป็นเหมือนธารน้ำ ซึ่งเด็ก ๆ จะชอบมากเพราะทิวทัศน์ค่อนข้างสวยงาม และจุดที่ 7 ชุ่มฉ่ำเพราะ ...บ่อหิน ที่นักเรียนจะศึกษาถึงต้นกำเนิดน้ำ ประโยชน์ของน้ำ ตลอดจนวิเคราะห์ถึงปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้น้ำลดลง

โรงเรียนจะกำหนดกิจกรรมเหล่านี้เข้าไว้ในราย วิชาสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต ที่เด็ก ๆ จะต้องเรียนทุกคน และจะเป็นเช่นนี้ทุกสัปดาห์ที่ทำการออกสำรวจจุดศึกษาต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก
"ตั้งแต่สร้างศูนย์นี้ขึ้นมา ทำให้หนูและเพื่อน ๆ มีกิจกรรมทำมากมาย เวลาเรียนก็สนุก เพราะหนูได้เข้าร่วมทุกจุดเลยค่ะ ดีกว่าจะไปวิ่งเล่นเหมือนเมื่อก่อน แล้วหนูยังนำความรู้ ประสบการณ์เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและการรักษาธรรมชาติที่ได้ไปใช้กับที่บ้านด้วย ซึ่งพ่อกับแม่ก็เห็นด้วยค่ะ" ด.ญ.มาลินี ฝั่นกาศ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดหนองหล่ม กล่าว

การที่จะสอนให้เด็ก ๆ มีจิตใจที่รักธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมนั้น เราจะต้องเปิดโอกาสให้เขาได้สัมผัส
และซึมซับเอาความงามจากธรรมชาติ และลงมือปฏิบัติด้วยตัวของเขาเอง.
โดยคุณ : ร.ร.วัดหนองหล่ม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น