รูดผ้าม่านเนื้อหนาที่หน้าต่าง
เพื่อเปิดรับแสงสว่างอย่าง เต็มที่
ผลักกระจกปรับองศากะพอดี
เพื่อให้มีช่องว่างทิศทางลม
ปิดตาข่ายโลหะให้กระชับ
กันยุงนับร้อยลอดดอดประสม
ตรวจเหล็กดัดลายแอร่มมุมแหลมคม
ก่อนชื่นชมกับสมบัติอันอัดแอ
ผนังอิฐทรงกล่องแบ่งช่องชุด
กำหนดจุดบังคับใช้ให้แน่วแน่
ทุกชีวิตเหมือนพร้อมจะยอมแพ้
อยู่ในความดูแลทุกแง่มุม
วันผ้าม่านมอดไหม้เมื่อไฟโชติ
ควันดำโลดแล่นเลื่อนลอยเคลื่อนกลุ่ม
กระจกร้าวคมกร่อนแต่ร้อนรุม
ลมก็คลุ้มคลั่งหนุนหมุนระบาย
ไม่มียุงสักตัวยั่วประสาท
เมื่อไฟวาดเปลววาบมาฉาบฉวย
เหลือเหล็ก ดัดรามวิจิตรแต่ปิดตาย
สำหรับร่างทุรนทุรายคล้ายคล้ายยุง
ซากผนังทึบทะมื่นยังยืนหยัด
เฝ้าสมบัติของมันรอวันพรุ่ง
นี่คือข่าวอัค คึภัยคนในกรุง
เราสะดุ้งครู่เดียวเดี๋ยวก็ลืม..
สายพร ปัทมเรขา..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น