1.ในลมเย็นระบัดริ้วซึ่งพริ้วไหว
กระทบแกร่งแห่งผาใจจนพังสิ้น
เพียง เศษซากผาใจอันพังภินท์
อยู่เรี่ยรายแผ่นดินแห่งวิญญาณ
หัตถ์แห้งกาลวัฏฏ์ตระกลองกอบ
ปลุกปลอบบอบช้ำแห่งสังขาร
ขับเคี่ยว ทุกข์เข็ญทรมาน
หวังข้ามลำธารราคิน
2.เนิ่นนานสัญจรมณีทราย
เจียมตนแย้มพรายประกายศิลป์
ทีละเกล็ดทบทับอาจิณ
เยียว ยาแหว่งวิ่นแห่งอินทรีย์
3.แมงมุมชักใยโยงระยาง
กั้นทางสายกลางอยู่กับที่
จับเหยื่อหลากหลายในราตรี
หล่อเลี้ยงชีวีได้ง่าย งาม
สองปีกรวมกันเป็นหนึ่งนก
โผผกอยู่เหนือซึ่งโลกสาม
รับรู้อยู่เหนือซึ่งนิยาม-
คำตอบคำถามแห่งตำรา
4.เร่ร่อนมณีทรายใต้ ท้องสินธุ์
เพราะผาผุพังภิณท์จนสิ้นผา
เหนือคุ้งน้ำดารดาษดารกา
คงเวหาผุพังดังผาผุ
หลอมรวมเป็นเอกภาพในคราบเถ้า
ด้วย เพลิงผลาญเชื้อเผาระอุ
เคี้ยงฟืนโชนไฟ-ไฟปะทุ
เพื่อบรรลุกาละอนันไตย
โสตถิเทพ แสวงประเทือง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น