แฝลดงหญ้าคาริมป่าเปลี่ยว
ค่อนดึกเดือนเสี้ยวเมฆสลัว
หรีดหริ่ง เรไรแอบเร้นตัว
มิกล้ากรีดร้องระรัวระงมไพร
ฟ้าต่ำดาวตกผีพุ่งไต้
มีฝูงนายนักฆ่าเยือนป่าไผ่
เปิดฉากกดนิ้วลั่นไก
ปะทุไฟพุ่ง พราวราวสงคราม
คะนองมือถือว่าข้ายิ่งใหญ่
กระหน่ำตามอัชญาไสยเกินใครห้าม
คือหนึ่งหน่วยนักรบนิรนาม
มาเยือนยามวิกาล สะท้านสะเทือน
กระหน่ำไส่ไล่เลี่ยแต่ละหลัง
แต่ละฝาแทบพัง กระสุนเกลื่อน
แต่ละร่างหลบนิ่ง แนบพื้นเรือน
แต่ละใจประหนึ่งเหมือน จะหลุดลอย
หลางดงหญ้าคาริมป่าเปลี่ยว
สงัดเงียบดายเดี่ยวด้วยเหงาหงอย
สะทกสั่นขวัญฝ่อเพียงรอคอย
รอด้วยความเลื่อนลอย อย่างลังเล
มิอาจขบคิดคาดความวาดหวัง
มิอาจชั่งเหตุการณ์จะพาลเขว
คิดหวังพึ่งผู้ใดใครทุ่มเท
ยังต้องผ่านร้อยเล่ห์มายากล
ขณะขวัญฝ่อหนีราตรีนั้น
นั่งจับเจ่าโจษจันอย่างสับสน
อนาคตชีวิตครูผู้สอนคน
จะถูกปล้นชีวีอีกกี่ครา
ดาวเคลื่อนเดือนคล้อยฟ้า ลอยต่ำ
ทุกถ้อยคำหวาดหวั่นสั่นผวา
รอราตรีคลี่คลายปลายเวลา
จะค้นหาอย่างไรยังไม่รู้
สายธารสิโป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น