เด็ก ป.3 : อนาคตกับคู่แข่ง ที่คนไทยลืมมอง ..
ในเวลานี้ ตอนนี้ คนไทยหลายคน อยู่กันอย่างสุข สนุกสบาย ใช้ชีวิตไปวันๆ สนใจแต่เรื่องบันเทิง ชีวิตอยู่ติดหน้าจอ facebook , Line, Instagram, twitter คืดว่า ความหมายของชีวิต มีเพียงแค่นี้
แต่ถ้าสนใจ มองให้ไกลออกไป เรามีคู่แข่งมากมาย รอบๆตัวเรา มากจนไม่ควรที่จะอยู่นิ่งเฉย หาความสุขจอมปลอมไปวันๆ
แทบจะทุกช่วงวัย ช่วงอายุ เรามีคู่แข่งกันทั้งนั้น
เจ้มด "เด็กนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 วัยที่กำลังเริ่มต้นเรียนรู้ ยังเด็กขนาดนี้ ยังจะต้องมาเครียดเร่องคู่แข่งด้วยมั้ยล่ะ พวกเค้ายังไม่มีวุฒิภาวะที่เพียงพอที่จะไปสู้รบ แข่งขันกับใครๆเลยนะ"
ทิดมา "ถ้ามึงมองแต่คนในหมู่บ้านมึง คงจะมีคู่แข่งอยู่แค่คนในหมู่บ้านนั่นล่ะ แต่อย่าลืมว่า เด็กก็เติบโตขึ้นทุกๆวัน เดี๋ยวขึ้น ป.4 จนเรียนจบ ป.6 อาจจะไปเรียน ม.1 ต่อ หรือ ไปทำงาน ก็มีคู่แข่งกันทั้งนั้นล่ะ"
เจ้มด "โหย อีกนาน ตังหลายปี ให้ถึงเวลานั้นก่อนสิวะ"
ทิดมา "เด็ก ป.3 ในตัวเมือง เดี๋ยวนี้ เดินเข้าโรงเรียนกวดวิชากันเป็นแถว โรงเรียนในเมือง มีหลักสูตรเสริมความสามารถมากมาย พอจบ ป.6 ก็เก่งหลายอย่างแล้ว ทั้งเรียน กีฬา ดนตรี ความสามารถพิเศษ แล้วเด็กที่วิ่งเล่นตามทุ่งนาที่บ้านเรา จะสู้เค้าได้เหรอวะ"
เจ้มด "มันต่างกันว่ะ จะเอาไปเทียบกับเด็กพวกนั้นได้ยังไง พ่อแม่รวย"
ทิดมา " รวยแล้วยังไง แล้วเราจะปล่อยให้ลูกหลานของเรา อยู่ในกะลาแบบนี้เหรอ เราก็ต้องส่งเสริมให้ลูกหลาน เก่ง ทำอะไรเป็นบ้าง ถึงจะอยู่บ้านนอก แต่ก็สามารถเรียนรู้หลายอย่างได้นะ"
เจ้มด " แล้วเด็ก ป.3 มันจะมีคู่แข่งมากซักแค่ไหนกันเชียว ก็มีแค่เด็กในตัวเมือง "
ทิดมา " คู่แข่งเยอะเลยนะ มีเด็ก ป. 3 โรงเรียนอื่น ในตำบลบ้านเรา เด็ก ป.3 ในตัวจังหวัด เด็ก ป.3 ที่เรียนโรงเรียนใน กทม รวมไปถึง เด็กอายุเท่าๆกันในต่างประเทศ .... ลูกหลานของเราจะสู้เค้าได้มั้ยล่ะ"
เจ้มด " ไอ้ควย คิดไปไกลจัง คนประเทศอื่น มันจะมาเป็นคู่แข่งยังไงวะ"
ทิดมา " เดี๋ยวมีเปิด AEC เปิดเสรี อาเซียน คนจากประเทศเพื่อนบ้าน สามารถเดินทางเข้าออก เข้ามาแย่งเรียน แย่งงานทำกับคนไทยได้ง่ายกว่าเดิม เด็ก ป.3 ก็มาแข่งเรียน แข่งกันแย่งงานกับเราได้ ถ้าเด็ก ป.3 ประเทศอื่น เก่งเรียน เก่งภาษา เก่งกีฬากว่า ใครๆก็ต้องให้โอกาสเด็กเก่งได้เลือกสิ่งที่ดีก่อน แล้วเด็กๆในหมู่บ้านเรา จะเหลืออะไรให้เลิอกวะ"
เจ้มด " ถ้ามีเด็กเยอะ กูคงได้ฟันเด็กๆเ เยอะขึ้นล่ะสิ"
ทิดมา "อีห่านี่ คิดอยู่แต่เรื่องเดียว อยากมีเซ็กส์อย่างเดียว อีห่าเอ๊ย รู้จักปลงซะมั่ง"
เจ้มด " เมื่อไหร่มึงจะเอากะกูล่ะ อยากได้มึงมาตังนานแล้ว"
ทิดมา " พอเลยอีมด มึงอยากจะไปเอาใครเป็นผัว ก็เรื่องของมึง กูไม่เกี่ยว"
เจ้มด "เฮ้อ กูอด"
ทิดมา " พูดถึงเรื่องคู่แข่งเนี่ย เสียดายที่คนบ้านเรา ยังไม่รู้เลยว่า ใครคือคู่แข่ง ก็เอาแต่มองคนรอบตัว คนใกล้ตัว คนในหมู่บ้าน คนในบ้าน ว่าเป็นคู่แข่ง จะต้องเอาชนะให้ได้ เลยข่มกัน ปลั้ฟกัน บั้นทอนกำลังใจกันเอง ชนดแบบนี้แล้ว มันได้อะไรล่ะ แทนที่จะสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจต่อสู้กับคู่แข่งต่างชาติ ต่างบ้าน ต่างเมือง"
น้องเหมียว " อีเจ้มดไปซะได้ก็ดี.... เห็นด้วยที่พี่ทิดพูดมาค่ะ เพราะคนในหมู่บ้านเรา มองแคบๆ เลยเป็นคนที่ไม่กระตือรือร้น วันนึง พอได้เจอคู่แข่งจริงๆ ก็ทำอะไรไม่ได้ ไปไม่เป็น ก็ต้องยอมรับสภาพ ยอมแพ้ ล้มเหลว เสียเปรียบ "
ทิดมา " พี่ก็พยายามพูด พยายามบอกนะ มีคนที่รู้ เห็นในเรื่องนี้ ก็พยายามที่จะกระตุ้น หาทางช่วย ให้ทุกคนสู้ ขวนขวาย กระตือรือร้น พัฒนาตนเอง เพื่อในวันนึงข้างหน้า เมื่อเด็ก ป.3 เติบโตขึ้น เขามีทักษะความสามารถติดตัว มีความเก่งพอ ก็จะได้สู้ แข่งขับกับคนอื่นๆ ประเทศอื่นๆได้บ้าง..
น้องเหมียว " น่าเสียดายที่คนบ้านเรา มีคนที่ไม่ค่อยกระตือรือร้น ก็เลยเฉยๆ ไม่ยอมรับรู้อะไร "
ทิดมา " อย่างน้อย น้องเหมียว ก็เป็นคนนึงที่กระตือรือร้น มองเห็นอนาคต.. ถ้างั้น เรามาร่วมสร้างอนาคตด้วยกันดีมั้ย"
น้องเหมียว "อะไรกันคะพี่ทิด แหม มาเรื่องนี้ได้ยังไงกันคะ"
ทิดมา " ก็พี่รักน้องเหมียวนี่นา อยากให้มาส้างอนาคต จับมือสามัคคีกัน สู้กับคู่แข่งจากต่างเมือง ต่างประเทศด้วยกัน "
น้องเหมียว " อือมมม "
ในเวลานี้ ตอนนี้ คนไทยหลายคน อยู่กันอย่างสุข สนุกสบาย ใช้ชีวิตไปวันๆ สนใจแต่เรื่องบันเทิง ชีวิตอยู่ติดหน้าจอ facebook , Line, Instagram, twitter คืดว่า ความหมายของชีวิต มีเพียงแค่นี้
แต่ถ้าสนใจ มองให้ไกลออกไป เรามีคู่แข่งมากมาย รอบๆตัวเรา มากจนไม่ควรที่จะอยู่นิ่งเฉย หาความสุขจอมปลอมไปวันๆ
แทบจะทุกช่วงวัย ช่วงอายุ เรามีคู่แข่งกันทั้งนั้น
เจ้มด "เด็กนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 วัยที่กำลังเริ่มต้นเรียนรู้ ยังเด็กขนาดนี้ ยังจะต้องมาเครียดเร่องคู่แข่งด้วยมั้ยล่ะ พวกเค้ายังไม่มีวุฒิภาวะที่เพียงพอที่จะไปสู้รบ แข่งขันกับใครๆเลยนะ"
ทิดมา "ถ้ามึงมองแต่คนในหมู่บ้านมึง คงจะมีคู่แข่งอยู่แค่คนในหมู่บ้านนั่นล่ะ แต่อย่าลืมว่า เด็กก็เติบโตขึ้นทุกๆวัน เดี๋ยวขึ้น ป.4 จนเรียนจบ ป.6 อาจจะไปเรียน ม.1 ต่อ หรือ ไปทำงาน ก็มีคู่แข่งกันทั้งนั้นล่ะ"
เจ้มด "โหย อีกนาน ตังหลายปี ให้ถึงเวลานั้นก่อนสิวะ"
ทิดมา "เด็ก ป.3 ในตัวเมือง เดี๋ยวนี้ เดินเข้าโรงเรียนกวดวิชากันเป็นแถว โรงเรียนในเมือง มีหลักสูตรเสริมความสามารถมากมาย พอจบ ป.6 ก็เก่งหลายอย่างแล้ว ทั้งเรียน กีฬา ดนตรี ความสามารถพิเศษ แล้วเด็กที่วิ่งเล่นตามทุ่งนาที่บ้านเรา จะสู้เค้าได้เหรอวะ"
เจ้มด "มันต่างกันว่ะ จะเอาไปเทียบกับเด็กพวกนั้นได้ยังไง พ่อแม่รวย"
ทิดมา " รวยแล้วยังไง แล้วเราจะปล่อยให้ลูกหลานของเรา อยู่ในกะลาแบบนี้เหรอ เราก็ต้องส่งเสริมให้ลูกหลาน เก่ง ทำอะไรเป็นบ้าง ถึงจะอยู่บ้านนอก แต่ก็สามารถเรียนรู้หลายอย่างได้นะ"
เจ้มด " แล้วเด็ก ป.3 มันจะมีคู่แข่งมากซักแค่ไหนกันเชียว ก็มีแค่เด็กในตัวเมือง "
ทิดมา " คู่แข่งเยอะเลยนะ มีเด็ก ป. 3 โรงเรียนอื่น ในตำบลบ้านเรา เด็ก ป.3 ในตัวจังหวัด เด็ก ป.3 ที่เรียนโรงเรียนใน กทม รวมไปถึง เด็กอายุเท่าๆกันในต่างประเทศ .... ลูกหลานของเราจะสู้เค้าได้มั้ยล่ะ"
เจ้มด " ไอ้ควย คิดไปไกลจัง คนประเทศอื่น มันจะมาเป็นคู่แข่งยังไงวะ"
ทิดมา " เดี๋ยวมีเปิด AEC เปิดเสรี อาเซียน คนจากประเทศเพื่อนบ้าน สามารถเดินทางเข้าออก เข้ามาแย่งเรียน แย่งงานทำกับคนไทยได้ง่ายกว่าเดิม เด็ก ป.3 ก็มาแข่งเรียน แข่งกันแย่งงานกับเราได้ ถ้าเด็ก ป.3 ประเทศอื่น เก่งเรียน เก่งภาษา เก่งกีฬากว่า ใครๆก็ต้องให้โอกาสเด็กเก่งได้เลือกสิ่งที่ดีก่อน แล้วเด็กๆในหมู่บ้านเรา จะเหลืออะไรให้เลิอกวะ"
เจ้มด " ถ้ามีเด็กเยอะ กูคงได้ฟันเด็กๆเ เยอะขึ้นล่ะสิ"
ทิดมา "อีห่านี่ คิดอยู่แต่เรื่องเดียว อยากมีเซ็กส์อย่างเดียว อีห่าเอ๊ย รู้จักปลงซะมั่ง"
เจ้มด " เมื่อไหร่มึงจะเอากะกูล่ะ อยากได้มึงมาตังนานแล้ว"
ทิดมา " พอเลยอีมด มึงอยากจะไปเอาใครเป็นผัว ก็เรื่องของมึง กูไม่เกี่ยว"
เจ้มด "เฮ้อ กูอด"
ทิดมา " พูดถึงเรื่องคู่แข่งเนี่ย เสียดายที่คนบ้านเรา ยังไม่รู้เลยว่า ใครคือคู่แข่ง ก็เอาแต่มองคนรอบตัว คนใกล้ตัว คนในหมู่บ้าน คนในบ้าน ว่าเป็นคู่แข่ง จะต้องเอาชนะให้ได้ เลยข่มกัน ปลั้ฟกัน บั้นทอนกำลังใจกันเอง ชนดแบบนี้แล้ว มันได้อะไรล่ะ แทนที่จะสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจต่อสู้กับคู่แข่งต่างชาติ ต่างบ้าน ต่างเมือง"
น้องเหมียว " อีเจ้มดไปซะได้ก็ดี.... เห็นด้วยที่พี่ทิดพูดมาค่ะ เพราะคนในหมู่บ้านเรา มองแคบๆ เลยเป็นคนที่ไม่กระตือรือร้น วันนึง พอได้เจอคู่แข่งจริงๆ ก็ทำอะไรไม่ได้ ไปไม่เป็น ก็ต้องยอมรับสภาพ ยอมแพ้ ล้มเหลว เสียเปรียบ "
ทิดมา " พี่ก็พยายามพูด พยายามบอกนะ มีคนที่รู้ เห็นในเรื่องนี้ ก็พยายามที่จะกระตุ้น หาทางช่วย ให้ทุกคนสู้ ขวนขวาย กระตือรือร้น พัฒนาตนเอง เพื่อในวันนึงข้างหน้า เมื่อเด็ก ป.3 เติบโตขึ้น เขามีทักษะความสามารถติดตัว มีความเก่งพอ ก็จะได้สู้ แข่งขับกับคนอื่นๆ ประเทศอื่นๆได้บ้าง..
น้องเหมียว " น่าเสียดายที่คนบ้านเรา มีคนที่ไม่ค่อยกระตือรือร้น ก็เลยเฉยๆ ไม่ยอมรับรู้อะไร "
ทิดมา " อย่างน้อย น้องเหมียว ก็เป็นคนนึงที่กระตือรือร้น มองเห็นอนาคต.. ถ้างั้น เรามาร่วมสร้างอนาคตด้วยกันดีมั้ย"
น้องเหมียว "อะไรกันคะพี่ทิด แหม มาเรื่องนี้ได้ยังไงกันคะ"
ทิดมา " ก็พี่รักน้องเหมียวนี่นา อยากให้มาส้างอนาคต จับมือสามัคคีกัน สู้กับคู่แข่งจากต่างเมือง ต่างประเทศด้วยกัน "
น้องเหมียว " อือมมม "
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น