++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

น่าห่วง! คนไทยเมินบริโภค "แคลเซียม"

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 พฤศจิกายน 2552 15:15 น.


เป็นสถานการณ์ที่ชวนให้วิตกไม่น้อย ภายหลังจากที่
"สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย" หรือสกว.
ได้ออกมาเผยผลการศึกษาในเรื่องการบริโภคแคลเซียมผ่านอาหารของคนไทย
สรุปได้ว่าในปัจจุบันนี้ คนไทยจำนวนไม่น้อยบริโภคแคลเซียมเพียงแค่ 30%
ของความต้องการในแต่ละวันเท่านั้น!
และที่ชวนให้ประหลาดใจไปกว่านั้นคือข้อมูลที่พบว่า
คนในวัยผู้ใหญ่ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ
ทั้งหญิงและชายได้รับแคลเซียมโดยเฉลี่ยเพียง 361 มก.ต่อวันเท่านั้น
ซึ่งถือว่าน้อยมากหากเทียบกับปริมาณที่เหมาะสมที่กระทรวงสาธารณสุขได้แจ้ง
เอาไว้ว่า ผู้ใหญ่ควรได้รับแคลเซียมจากอาหารอย่างน้อย 800 มก.

ที่ว่าชวนให้น่าประหลาดใจสำหรับคนวัยผู้ใหญ่ในเมืองใหญ่
อย่างกรุงเทพฯ ซึ่งหาซื้อสรรพอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียมได้ง่าย
เมื่อสำรวจและหาค่าเฉลี่ยออกมาแล้ว
ยังพบว่าร่างกายยังขาดแคลเซียมในแต่ละวันกว่าครึ่งเช่นนี้
ทำให้คิดห่วงไปถึงประชาชนในจังหวัดต่างๆ ทุกภูมิภาค
ที่บางแห่งอาจจะกันดาร ร้านค้าไม่มากเท่าเมืองใหญ่ๆ หรือสื่อต่างๆ
ที่จะให้ความรู้ถึงคุณประโยชน์ของแคลเซียมอาจจะมีไม่มากเท่าในเมืองใหญ่
จะบริโภคแคลเซียมกันมากน้อยสักเท่าใด

นี่ยังไม่นับรวมว่าขนาดผู้ใหญ่ที่มีความรู้และได้รับความรู้มากกว่า
เด็กและเยาวชนก็ยังบริโภคน้อย แล้วเด็กๆ
จะได้รับคำแนะนำให้บริโภคแคลเซียมซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตหรือไม่

...ถือเป็นสถานการณ์ที่น่าห่วงเอาการ...

เพราะในความเป็นจริงแล้ว
แคลเซียมเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างยิ่งยวดไม่แพ้สารอาหารสำคัญ
อื่นๆ แคลเซียมเป็นส่วนเสริมสร้างสุขภาพฟัน กระดูก รวมไปจนถึงเส้นผม เล็บ
หรือแม้กระทั่งเซลล์ประสาท เนื้อเยื่อ เลือด และของเหลวอื่นๆ ในร่างกาย
ก็จำต้องอาศัยแคลเซียมช่วยเสริมสร้างทั้งสิ้น แม้กระทั่งภาวะความดันโลหิต
แคลเซียมก็มีส่วนช่วยในเรื่องของการควบคุมภาวะความดันโลหิตสูง

ในวัยเด็ก
แคลเซียมมีบทบาทอย่างยิ่งยวดต่อการเจริญเติบโตด้านกายภาพ
โดยเฉพาะช่วงที่เข้าสู่วัยรุ่น กระดูกจะเติบโตในอัตราที่รวดเร็ว
สังเกตว่าหากคุณพ่อคุณแม่บ้านไหนใส่ใจและพยายามให้ลูกกินอาหารที่อุดมไปด้วย
แคลเซียม อาทิ นม ก็จะพบว่าลูกมักจะเติบโตและมีความสูงกว่าเพื่อนๆ
วัยเดียวกัน

นอกจากนี้ ในการทำงานของร่างกายในมิติอื่นๆ ยังพบอีกด้วย
ร่างกายมีความต้องการแคลเซียมเพื่อการทำงานของระบบต่างๆ เช่น
การส่งเสริมการทำงานของกระแสประสาท การทำงานของกล้ามเนื้อ
การเต้นตามปกติของหัวใจ การกระตุ้นให้เกิดการหลั่งของฮอร์โมน
และการกระตุ้นปฏิกิริยาของเอ็นไซม์ต่างๆ

ที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งการที่ร่างกายได้รับแคลเซียมในปริมาณที่
ไม่เพียงพอนั้น จะส่งผลร้ายในระยะยาวคือความเสี่ยงต่อ "ภาวะกระดูกพรุน"
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ
และปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้คนไทยบริโภคแคลเซียมไม่เพียงพอต่อความต้อง
การของร่างกายก็คือ การกินอาหารซ้ำ การกินอาหารที่ไม่หลากหลาย
และนี่อาจจะเป็นปัจจัยที่อธิบายได้ว่าเหตุใดประชากรในวัยผู้ใหญ่ในเมืองใหญ่
อย่างกรุงเทพฯ จึงบริโภคแคลเซียมต่ำ
ซึ่งนั่นอาจจะเป็นเพราะความเร่งรีบอันเป็นวิถีชีวิตประจำวันจนทำให้
"เอาง่ายเข้าว่า" หลายคนฝากท้องไว้กับร้านอาหารประจำที่ทำแต่เมนูเดิมๆ
จำพวก ผัดกระเพรา ไข่เจียว ไข่ดาว หมูทอด แกงไก่ ฯลฯ กินซ้ำไปซ้ำมา
และในแต่ละวันก็ยุ่งเกินกว่าจะออกไปหาอาหารดีๆ มีประโยชน์ให้ร่างกาย

อ่านถึงตรงนี้
หลายคนอาจจะเริ่มตระหนักในคุณค่าและความจำเป็นของแคลเซียมขึ้นมาแล้ว
แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปหาอาหารที่อุดมแคลเซียมจากที่ไหนมาเตรียมให้ตัวเองและ
ครอบครัวได้ทุกวัน...อันนี้ไม่ยากเลย
เพราะเมนูที่อุดมไปด้วยแคลเซียมนั้นอยู่ใกล้ตัวนิดเดียว
หากแต่ต้องรู้จักว่าในอาหารประเภทใดบ้างที่มีแคลเซียม


อาหาร

ปริมาณ

แคลเซียม (มก.)

% แคลเซียม
นมแคลซีเม็กซ์ 250 มล. 560 70%
นมไขมันเต็ม 250 มล. 290 36%
นมพร่องไขมัน 250 มล. 295 37%
นมไม่มีไขมัน 250 มล. 300 38%
นมถั่วเหลืองเสริมแคลเซียม 250 มล. 250-300 31-38%
โยเกิร์ตรสธรรมชาติขาดไขมัน 1 ถ้วย 225 28%
โยเกิร์ตรสผลไม้ 1 ถ้วย 160 20%
นมเปรี้ยว 1 กล่อง (180 มิลลิลิตร) 106 13%
ปลาตัวเล็ก 2 ช้อนกินข้าว 226 28%
กุ้งแห้ง 1 ช้อนกินข้าว 138 17%
เต้าหู้อ่อน 5 ช้อนกินข้าว 150 19%
ชีส (เนยแข็ง) 1 ออนซ์ (30 กรัม) 205 26%
งาดำ 1 ช้อนโต๊ะ 132 17%


ท้ายที่สุด ที่จะลืมไปเสียไม่ได้ และถือเป็นพระเอกของ "แคลเซียม"
อย่างหนึ่งก็คือ "นม" โดยเฉพาะนมแคลเซียมสูง
จากที่เห็นในตารางด้านล่างว่า มีปริมาณแคลเซียมถึง 560 มิลลิกรัมต่อ 1
หน่วยบริโภค หรือ มีแคลเซียมสูงถึง 70% ซึ่งน่าจะเป็น "ตัวช่วย"
ที่ดีในวันที่แสนยุ่งเหยิง แค่เดินเข้าร้านสะดวกซื้อ
เพียงเท่านี้ร่างกายก็จะได้แคลเซียมเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่าง
กาย และหากจะให้ดีที่สุด กินอาหารที่ดี มีประโยชน์
ควบคู่ไปกับการดื่มนมที่มีแคลเซียมสูงเป็นประจำทุกวัน
เพียงเท่านี้ร่างกายของคุณก็จะได้แคลเซียม 100% ตามที่ร่างกายต้องการ


http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000131819

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น