++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ท่องดินแดนประวัติศาสตร์จีน อุทยานสามก๊ก/เรื่องเล่านศ.

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 พฤศจิกายน 2552 15:40 น.
เรื่องเล่านักศึกษาครั้งนี้ เป็นเรื่องราวของสถานที่ท่องเที่ยวจาก
"ลานมะพร้าวออนไลน์" www.coconews.in.th
เว็บไซต์ ข่าวความเคลื่อนไหวของเหล่าน้องๆนิสิตมหาวิทยาลัยบูรพา
ที่จัดทำโดยฝีมือนิสิตด้วยกัน
ซึ่งได้พาท่องเที่ยวเมืองประวัติศาสตร์แดนมังกรในอุทยานสามก๊ก ณ
อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี
สถานที่ซึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากรั้วมหาวิทยาลัยของพวกเขาสักเท่าไรนัก

เมื่อแสงอาทิตย์เริ่มสว่างจ้าขึ้น เป็นสัญลักษณ์ทำให้เรารู้ได้ว่า
เช้าแล้ว ทุกๆวันต้องมีเช้า มีกลางวัน และมียามเย็น เวลาเดินทางไปเรื่อย
ๆ เช่นเดียวกับเราที่ไม่หยุดเดินทางเช่นเดียวกัน
และกำลังพาคุณผู้อ่านเดินทางไปพร้อมกับเราในสถานที่ต่างๆทั่วชลบุรี
ในหลายอำเภอที่มีความงดงามทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สิ่งปลูกสร้างที่ต่างกันไป
และตราบเวลายังคงไม่หยุดนิ่งเราก็จะพาคุณเดินทางกันต่อ
พร้อมกันหรือยังที่จะไปต่อกับเราซึ่งวันนี้เราจะพาเปลี่ยนบรรยากาศจากการ
เที่ยวชมธรรมชาติมาให้คุณได้ใกล้ชิดกับบรรยากาศจีนๆกันที่ อุทยานสามก๊ก
อำเภอบางละมุง ชลบุรี


จังหวัดชลบุรีนับเป็นจังหวัดที่มีคนไทยเชื้อสายจีนอยู่เป็นจำนวนมาก
เมื่อมีวันสำคัญทางประเพณีของจีน เช่น วันสารท
ถึงกับมีการปิดโรงเรียนเป็นการภายในเป็นบางแห่งกันเลยทีเดียว
และชลบุรีเองก็มีสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์จีน
จัดแสดงเรื่องราวพงศาวดารจีนผ่านสถาปัตยกรรมหรือภาพจิตรกรรมบนแผ่นกระเบื้อง
ให้ได้สัมผัสใกล้ชิดกันที่อุทยานสามก๊ก

อุทยานสามก๊กตั้งอยู่ที่ตำบลโป่ง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
ซึ่งการเดินทางจะใช้ถนนสุขุมวิท เข้าถนนพรประภานิมิตรประมาณ 10 กิโลเมตร
ก็ถึงแล้วสังเกตง่ายมากเพราะจะเห็นความงดงามของสถาปัตยกรรมผสมผสาน
ไทย-จีน อุทยานนี้มีพื้นที่ 36 ไร่ ที่นี่เกิดมาจากนายเกียรติ
ศรีเฟื่องฟุ้ง นักธุรกิจไทยเชื้อสายจีน
ที่นี่มีการวางรูปแบบตามศาสตร์ฮวงจุ้ยจีน
นอกจากนี้ส่วนภายในรายล้อมไปด้วยต้นไม้ ต้นอโศกอินเดีย ติดภูเขา
มีสัญลักษณ์หยิน-หยาง ปรัชญาแห่งความสมดุลของจีนรวมอยู่ด้วย
สถาปัตยกรรมที่นี่เป็นแบบผสมไทยและจีน


แม้อุทยานนี้จะเป็นสิ่งปลูกสร้าง
แต่ที่นี่ก็นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามไม่แพ้สถานที่ท่องเที่ยวทาง
ธรรมชาติที่อื่นๆของชลบุรีเลย
มีความงดงามทางศิลปะเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ
ที่นี่คงเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียว
นอกจากถ่ายภาพและซึมซับบรรยากาศจีนๆแล้ว
อุทยานสามก๊กมีกิจกรรมให้เราได้ชมอื่นๆอีก มาเริ่มกันที่
แผ่นภาพหินอ่อนที่แสดงเรื่องราวสามก๊กไว้ยาวที่สุดในโลก
น่าตื่นตาตื่นใจจริงๆกับความงดงามละเอียดอ่อนช้อยของภาพที่เขียนลงทีละเส้น
เมื่อได้เข้ามาส่วนจัดแสดงนี้มีความแปลกมาก
คือเมื่อเดินเล่นในสวนค่อนข้างจะร้อนแต่เมื่อเข้ามาภายใต้หลังคานี้กลับเย็น
สบายจนน่าประหลาดใจ
เราจึงคิดกันเองไปว่าอาจด้วยแผ่นกระเบื้องและหินที่ทำให้บริเวณนี้เย็นสบาย

จากนั้นเราไปชมภาพเขียนสีน้ำมันสามก๊กที่แสดงถึงประวัติของขงเบ้ง
เป็นสิ่งที่หาชมได้ยากมากๆ ชมรูปปั้นของพระถังซัมจั๋ง
และที่น่าสนุกก็คือที่นี่มีชุดของละครสามก๊กให้เราสามารถใส่และถ่ายภาพกัน
ได้ แต่เราไม่ได้ทดลองใส่กันอาจด้วยว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 150
บาทต่อชุด เราเดินเที่ยวชมลูกหินหยิน-หยางและรูปปั้นมังกรพ่นน้ำ
และที่สำคัญ สถานที่แห่งนี้สามารถสักการะหอแก้วที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
เพื่อความเป็นศิริมงคลด้วย


"นางสาวรัตนาภรณ์ อาภาศิริกุล" อายุ 20 ปี
นักศึกษาที่เดินทางมาท่องเที่ยว เล่าให้เราฟังว่า เป็น
คนเชื้อสายจีนมาเที่ยวกับเพื่อนๆ
รู้จักที่นี่ทางเว็บไซต์และเห็นว่าน่าสนใจจึงเดินทางมา
เพื่อต้องการสักการะเจ้าแม่กวนอิมที่ด้านในเพื่อความเป็นสิริมงคลเนื่องจาก
ใกล้สอบแล้ว และเคยเดินทางมาจังหวัดชลบุรีหลายครั้งแล้ว
แต่เพิ่งมาที่อุทยานสามก๊กเป็นครั้งแรก ประทับใจและชอบการจัดสวนของที่นี่
ลักษณะอาคารทำให้รู้สึกเหมือนอยู่เมืองจีน
ชอบต้นมะขามที่ตัดแรงตัวเป็นทิวแถวตนถ่ายรูปไว้มากทีเดียว
คาดว่าจะกลับมาที่นี่อีกครั้งในช่วงที่สอบเสร็จแล้ว

ได้ฟังนักท่องเที่ยวคนอื่นเล่าความประทับใจไปแล้ว
คราวนี้มาถึงของเราบ้าง
จุดที่ประทับใจพวกเรามากๆเห็นจะเป็นชั้นบนสุดที่ได้จัดแสดงหอแก้วไว้
เพราะกว่าเราจะเดินขึ้นบันได้ไปทีละขั้นเพื่อขึ้นสู่จุดสูงสุดก็เหนื่อยที
เดียว อาคารนี้แต่ละชั้นเราจะชมกับภาพเขียนสีน้ำมันไปตลอดทาง
สวยงามบอกเรื่องราวสามก๊กไว้อย่างสนุกสนาน
ส่วนด้านบนสุดนั้นสามารถชมทิวทัศน์ได้ทั่วบริเวณของที่นี่เห็นการจัดสวนที่
สวยงาม สามารถมองเห็นได้ไกลถึงวัดเขาชีจรรย์เลยทีเดียว
มองเห็นไปถึงทะเลพัทยา เห็นหอคอยของพัทยาพาร์ค และบนนี้อากาศเย็นสบาย
พวกเราทั้งหกคนยื่นรับอากาศเย็น และพูดคุยกันพักใหญ่เลยทีเดียว
เพราะทริปนี้เป็นทริปของการเดินทางที่พวกเราจะไปพร้อมหน้ากันแบบนี้อาจจะมี
ไม่บ่อยแล้ว เพราะมีบางคนที่กำลังจะจบการศึกษาและอาจจะหาโอกาสมาเที่ยวกันแบบนี้ได้ยาก
เราก็เลยใช้เวลาพูดคุยเก็บความประทับใจกันไว้

เมื่อแสงอาทิตย์เริ่มที่จะคล้อยต่ำลง
เรามองดูนาฬิกาก็เป็นเวลาบ่ายสองกว่าแล้ว
จากเสียงลมพัดที่เข้าหูตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นเสียงท้องร้องหิวข้าวแทน
เราตัดสินใจไปตามคำเรียกร้องของกระเพาะอาหารไปหาอะไรกินกัน

ครั้งนี้เรายังคงติดใจกับ ตลาดน้ำสี่ภาค
เนื่องจากไม่ไกลจากอุทยานสามก๊ก
ออกจากอุทยานมาถึงทางแยกบ้านทับหวานเลี้ยวซ้ายเลียบทางรถไฟและเล้ยวขวาออก
ถนนสุขุมวิทย์ ถึงทางแยกเลี้ยวขวา ตรงไปประมาณ 300 เมตร
จากแยกก็เป็นอันว่าถึงตลาดน้ำ เราปักหลักหาของอร่อยๆกินกัน
ตลาดน้ำสี่ภาคยามเย็นไม่ร้อนเลยวันนี้นักท่องเที่ยวบางตาแต่ก็มีทัวร์ลงอยู่
บ้าง เราเดินเล่นสักพักและเริ่มที่จะเลือกหาของอร่อยๆกินและก็สะดุดตากับร้านขนม
จีน ที่มีน้ำยาหลายแบบให้กินกันกินจนอิ่มแล้วต่อด้วยของหวานเฉาก๋วยเย็นๆนิด
หน่อยแล้วก็กลับมหาวิทยาลัย--ทีมข่าวท่องเที่ยว


http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9520000143774

1 ความคิดเห็น: