++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ทั้งทักษิณ/ฮุนเซน ไม่ได้อะไรเลย

โดย ราวี เวียงพยัคฆ์ 16 พฤศจิกายน 2552 16:00 น.
ทักษิณ ชินวัตร สามารถช่วงชิงพื้นที่ข่าวได้ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งหนังสือพิมพ์รายวัน รายสัปดาห์ วิทยุ
โทรทัศน์ให้ความสนใจกับทักษิณทั้งสิ้น สำนักข่าวต่างประเทศก็ไม่แพ้กัน

เพราะการเคลื่อนไหวของทักษิณเป็นข่าว

การที่อดีตนายกรัฐมนตรีต้องหนีโทษติดคุก 2
ปีออกไปเคลื่อนไหวอยู่ต่างประเทศ
บงการบริษัทบริวารให้เคลื่อนไหวเพื่อให้เขาพ้นคุก
แล้วกลับมามีอำนาจได้อีก
การบงการให้เผาบ้านเผาเมืองเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
จนถึงวันนี้สามารถให้นายกรัฐมนตรีประเทศเพื่อนบ้านแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษา
ส่วนตัวและที่ปรึกษาเศรษฐกิจย่อมเป็นเรื่องเหนือความคาดหวังของผู้คนทั้ง
หลายทั้งปวง

ยิ่งเหนือความคาดคิดเมื่อฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา
ซึ่งแต่งตั้งทักษิณให้เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวและที่ปรึกษาเศรษฐกิจของประเทศ
แสดงอาการสามหาวว่า "เขา
จะไม่ส่งทักษิณในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนให้ไทยเด็ดขาด
เพราะโทษของทักษิณเป็นโทษการเมือง และกระบวนการยุติธรรมของไทยก็ใช้ไม่ได้
ไม่น่าเคารพ"

ทั้งหลายทั้งปวงนี้ย่อมทำให้ข่าวของทักษิณ
ข่าวของฮุนเซนขึ้นอยู่บนหน้าหนึ่ง หรือเป็นข่าวสำคัญในสื่อต่างๆ
อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทักษิณดีขึ้น
โอกาสของทักษิณที่จะได้กลับมาอยู่บ้านเกิดเมืองนอนห่างไกลออกไปทุกที
กลายเป็นการเคลื่อนไหวของคนที่เสียสติ บ้าหนักขึ้นทุกวัน

เราต่างก็รู้ว่าทักษิณไม่ได้มีสติปัญญาที่จะมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
เพราะทักษิณไม่ได้มีความรู้ทางเศรษฐกิจ
เขาเพียงแต่เป็นผู้ประสบความสำเร็จในการวิ่งเต้นขอสัมปทานผูกขาดจากรัฐ
สร้างความร่ำรวยขึ้นมามหาศาล แล้วก็มาเล่นการเมือง
ใช้ความสามารถทางด้านการตลาดโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเคลิบเคลิ้ม
แล้วก็แสวงหาประโยชน์ เช่น แก้กฎหมายเพื่อธุรกิจของตัว
ตั้งตัวเป็นเจ้ามือหวยเสียเองโดยให้กองสลากทำงานรายได้นำมาใช้จ่ายโดยไม่นำ
ส่งคลัง ทำตัวว่าต้องการปราบปรามยาเสพติดแล้วก็ปล่อยให้มีการเข่นฆ่ากันสองพันกว่าศพ
โดยที่ไม่รู้ว่ามีผู้บริสุทธิ์หรืออาจจะเป็นพวกที่ไม่สนับสนุนทักษิณเท่าไร

โครงการขนาดเล็กขนาดใหญ่ล้วนแล้วแต่คอร์รัปชันทั้งสิ้น

ถ้าหากฮุนเซนหวังจะรวยอย่างทักษิณ
ให้ทักษิณช่วยชี้แนะวิธีกำหนดนโยบายให้มีผลประโยชน์ทับซ้อน
จะได้มั่งคั่งร่ำรวยเป็นหมื่นเป็นแสนล้านละก็ ว่าไปอย่าง

การแต่งตั้งทักษิณจึงไม่มีประโยชน์ในเรื่องเศรษฐกิจแต่อย่างใดสำหรับกัมพูชา
เว้นแต่จะหวังว่า
การเป็นข่าวสำคัญของสื่อจะกลบกระแสความไม่พอใจของชาวกัมพูชาต่อปัญหาชายแดน
ด้านตะวันออกระหว่างกัมพูชากับเวียดนาม ซึ่งฮุนเซนพูดไม่ได้ ไอไม่ดัง
เพราะการขึ้นสู่อำนาจของ เฮง สัมริน และ
ฮุนเซนครั้งโน้นก็โดยการช่วยเหลือของเวียดนามช่วยส่งทหารมารบกับเขมรแดงของ
พลพต เขียว สัมพัน

ทักษิณกลับไปดูไบแล้ว
ทิ้งไว้แต่ร่องรอยความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา
และอีกอย่างก็คือทำให้ประชาชนทั้งหลายได้เห็นธาตุแท้ของทักษิณและ
บริษัทบริวารของพวกเขาชัดเจนขึ้น

กัมพูชาซึ่งลำบากยากจนอยู่แล้ว
ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากประเทศต่างๆ ทั้งรูปของเงินกู้ยืม
และการช่วยเหลือที่ให้เปล่า
ใครที่ไหนจะไปไว้วางใจให้ความช่วยเหลือกุ๊ยอย่างฮุนเซน
ใครที่ไหนจะไปคบค้าสมาคมกับผู้นำประเทศที่ไม่เคารพกฎกติกา
(เว้นเสียแต่นักโทษหนีคุกอย่างทักษิณ)
สำหรับประเทศไทยที่ให้ความช่วยเหลือกัมพูชาอยู่บ้าง เช่น
การสร้างถนนหนทาง มาวันนี้เราก็ต้องทบทวน
ประสาทพระวิหารที่กัมพูชาคาดหวังว่าจะเดินหน้าในการขึ้นทะเบียนมรดกโลกก็น่า
จะมีอุปสรรค

ครั้นหวังว่าจะค้าสงครามกับไทยเพื่อให้ชาติอื่นๆ
เขาเห็นอกเห็นใจเพราะไทยรังแกเด็ก (เนื่องจากไทยเป็นชาติใหญ่กว่า
พลเมืองมากกว่า) ก็เจอความสุขุมลุ่มลึกของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตรีของไทย
จะมีคนที่หวาดกลัวเหมือนขี้จะขึ้นสมองเสียแล้วก็แต่นายทหารแก่ที่มันฆ่า
ประชาชนด้วยการปิดล้อมมัสยิดกรือเซอะ
ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่แสนจะอัปยศในยุคทักษิณเท่านั้นละกระมัง

สำหรับทักษิณและบริษัทบริวารของพวกเขา
ได้เฉพาะการเป็นข่าวตามสื่อเท่านั้นเอง
แต่ก็ทำให้คนทั้งโลกเห็นธาตุแท้ของเขาอย่างล่อนจ้อนทุกลมหายใจของทักษิณที่
จะต้องแสดงออกต่อสาธารณะ ต่อคนทั้งโลกนับตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549
ที่คณะรัฐประหารเขี่ยเขาลงจากอำนาจ
เขาจะพร่ำพูดถึงประชาธิปไตยดูเหมือนจะทุกลมหายใจเข้าออก
แต่เขาก็สามารถกอดกันกลมดิกกับเผด็จการฮุนเซนอย่างไม่ขัดเขิน
อย่าว่าแต่ในอดีตที่เขาเคยยืนกุมเป้ากางเกงแสดงความซาบซึ้งในบุญคุณของพลเอก
สุนทร คงสมพงษ์ หัวหน้ารัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2534
ที่ช่วยให้เขาได้สัมปทานดาวเทียม ซึ่งทำให้เขาร่ำรวยขึ้นมา

ธาตุแท้ของทักษิณก็คืออะไรที่เขาจะได้ประโยชน์ เอาทั้งนั้น

หน้าด้านเข้าไว้ โกหกเข้าไว้ อาจจะหลอกผู้คนได้
(ซึ่งก็หลอกได้จริงๆ จากพวกที่ไร้สมอง
หรือไม่ก็ได้ผลประโยชน์เศษเงินเศษทองจากทักษิณ)

แต่เขาจะได้อะไรหรือจากการมาเป็นที่ปรึกษาฮุนเซน
มาเป็นที่ปรึกษากัมพูชา ในขณะที่ไทยกับกัมพูชาต้องขัดแย้งกัน
และฮุนเซนก็แสดงความกักขฬะ แสดงความถ่อยเถื่อนออกมาให้ประชาชนคนไทยเห็น
เช่น วิพากษ์วิจารณ์ขบวนการยุติธรรมของไทย วิพากษ์วิจารณ์การเมืองไทย
เรียกร้องให้รัฐบาลไทยยุบสภา

มันกงการอะไรของฮุนเซน ยิ่งเป็นกงการที่ฮุนเซนทำต่อหน้าทักษิณ
ทักษิณซึ่งเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย

เป็นเรื่องเศร้าที่ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่รับไม่ได้จริงๆ

เห็นจะมีก็แต่พรรคเพื่อไทย ชวลิต สมชาย (อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย)
ที่พออกพอใจกับการเคลื่อนไหวครั้งนี้ของทักษิณและฮุนเซน
ซึ่งก็เท่ากับเปลือยตัวให้ประชาชนเห็นธาตุแท้ของพวกเขาชัดเจนขึ้น

พวก เขาอาจจะไม่แคร์ก็ได้
เพราะพวกเขาเชื่อมั่นในความเป็นนักเลือกตั้งของพวกเขา พวกเขาลืมคิดว่า
ประชาชนมีแต่ที่จะฉลาดขึ้น เรียนรู้มากขึ้น สรุปบทเรียนได้ดีขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น