++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

รอยเท้า “หน้าเหลี่ยม” บนรอยตีน “หน้าเขมร”!

โดย ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย 17 พฤศจิกายน 2552 19:06 น.
ใครจะอยู่ค้ำฟ้า..ใครหนีความตายได้?

คำตอบนี้..อย่าว่าแต่เด็กอมมือจะตอบได้เลย “หลินปิง” ลูกหมีแพนด้าเชียงใหม่พูดภาษามนุษย์ได้ ก็คงจะตอบว่า..ไม่มีหมา..เอ๊ย..หมีหรือมนุษย์ หนีพ้นความตายไปได้หรอกเฟ้ย!

ขนาดนักโทษชายหนีคุกไปซุกดูไบ มีเงินโกงชาติซุกซ่อนไว้มากมายในหลายประเทศ ยังไม่มีปัญญาจะใช้เงินล้นฟ้าเหล่านั้น..ซื้อมะเร็ง..เอ๊ย..ซื้อชีวิตหนี ความตาย จากเงื้อมมือพญามัจจุราชได้..จริงไหม “สมเด็จมูลเมืองหน้าเหลี่ยม”?

แน่นอน..พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นพดล ปัทมะ วีระ มุสิกพงศ์ จตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ฯลฯ รวมทั้งมนุษย์ “ปากสุนัข-จมูกชมพู่” ที่กำลังจะเดินทางล่วงหน้า ไปท่องเที่ยวในนรกเร็วๆ นี้

อ้อ..รวมทั้งบรรดาตะกวดและหมาขี้เรื้อน แถวสภาและทำเนียบฯ บางคน ก็อยู่ในข่ายเวรกรรมตามสนอง ชนิดค้ำถ่อหลุดรอดบัญชียมบาลไม่ได้เช่นกัน..จริงไหมคร๊าบ?

คนเราเลือกเกิดนั้น-เลือกไม่ได้ แต่เลือกทำคุณงามความดี-แทนทำชั่วนั้น เลือกได้และควรต้องเลือกครับ

วันนี้..หากมีใครคนหนึ่งตะโกนถามผู้คนว่า..

“คนหน้าเหลี่ยม” เป็นคนชั่วไหม..อืม..คงยกมือกันพรึ่บ!

“หน้าเหลี่ยม” โกงชาติหรือเปล่า..อืม..ยังยกมือพรึ่บอีกครั้ง!!

“หน้าเหลี่ยม” จาบจ้วงสถาบันกษัตริย์หรือไม่..โอ้โห้..ยังยกมือกันพรึ่บอยู่!!!

“หน้าเหลี่ยม” ขายชาติ-ทรยศชาติ..ยังถามไม่จบ..ก็ยกมือกันทั้งชาติเลย!!!!

“หน้าเหลี่ยม-ฮุนเซน” เป็นทรราชสองแผ่นดินอ๊ะป่าว..เฮ้อ..ยกมือทั้งชาติกันอีกแล้ว!!!!!

นั่นเป็นคำถาม-คำตอบและความรู้สึกทั่วไปของคนไทยในขณะนี้ แต่ความรู้สึกนั้น..ยังมิใช่คำตอบทางวิทยาศาตร์ หรือความรู้ที่แท้จริงอันเต็มไปด้วยเหตุผลครับ

ที่สำคัญ..ด้วยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ยังคงปล่อยให้ “คนหน้าเหลี่ยม” กับพลพรรค มีทั้งทีวีผ่านดาวเทียม เคเบิลทีวี สถานีวิทยุชุมชนทั้งในกทม.และท้องถิ่น เว็บไซต์ในเครือข่าย “คนหน้าเหลี่ยม” ฯลฯ เผยแพร่โฆษณาประชาสัมพันธ์กันแบบผิดๆ บิดเบือนความจริงจากขาวให้กลายเป็นดำอย่างโจ๋งครึ่ม

ทำให้ประชาชนคนไทยทั้งในเมืองและชนบท ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารผิดๆ ที่ไม่ถูกต้องเสมอมา ซึ่งถือเป็นเรื่องอันตรายอย่างใหญ่หลวงต่อความมั่นคงของชาติไทย

ทฤษฎีความจริงแห่งสังคมมนุษย์นั้น การต่อสู้เอาชนะผู้ไม่หวังดีหรือเหล่าคนชั่ว ที่ชอบให้ข่าวผิดๆ หรือการปล่อยข่าวลือที่ไม่จริงทั้งหลาย หนทางแก้ไขที่ดีและได้ผลมากที่สุดในทางบวก คือ ต้องใช้สื่อของรัฐทั้งหมดทำให้คนทั้งชาติสว่างด้วยปัญญา รู้ว่าอะไร คือ เรื่องจริงและอะไร คือ เรื่องไม่จริง ทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจปัญหาด้วยเหตุผล มากกว่าความรู้สึกครับ!

ผู้ นำคอมมิวนิสต์จีน เหมา เจ๋อ ตุง เคยพูดถึงเรื่องทำนองนี้ว่า ต้องทำลายหรือใช้ความจริงเอาชนะข่าวลือและข่าวโกหก ต้องทำลายวิทยุใต้ดินที่เป็นเท็จ..ด้วยวิทยุบนดินที่เป็นความจริง..

แหม..งานนี้ไม่ยากและซับซ้อนหรอกครับ แค่รัฐบาลอภิสิทธิ์ใช้วิทยุ-ทีวี-สื่อรัฐทุกชนิด นำเสนอข่าวสาร “คนหน้าเหลี่ยม” กับพลพรรคอย่างพร้อมเพรียงและต่อเนื่องว่า

“คนหน้าเหลี่ยม” เคยทำชั่วอะไรกับชาติบ้านเมืองของเรามาแล้วบ้าง?

“คนหน้าเหลี่ยม” กับพลพรรคโกงชาติ-ขายชาติ-ทรยศชาติอะไรบ้าง?

“คนหน้าเหลี่ยม” กับพลพรรคทิ้งหลักฐาน และร่องรอยการโกงไว้มากมาย พอจะให้จับเข้าซังเตได้อยู่แล้วครับ

ที่สำคัญรัฐบาลอภิสิทธิ์คิดหรือไม่ว่า “คนหน้าเหลี่ยม” คนเดียวเท่านั้นแหละ ที่มีฤทธิ์เดชทำลายล้างบ้านเมือง ถือเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อย่างใหญ่หลวง

อภิสิทธิ์มองปัญหา “คนหน้าเหลี่ยม” หนัก-เบาแค่ไหน นั่นคือ หัวใจปัญหาชาติครับ

หากมอง “คนหน้าเหลี่ยม” ไร้อำนาจแล้ว ไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วงกังวลแล้ว รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็จะใช้วิธีจัดการปัญหา “คนหน้าเหลี่ยม” แบบเฉื่อยชา-เช้าชามเย็นชาม-ทำทองไม่รู้ร้อน-หลงทิศผิดทาง ฯลฯ ทำให้ปัญหาชาติบานปลายจนบ้านเมืองไร้ความสงบ และสิ้นสันติสุขดั่งเช่นทุกวันนี้

แต่หากรัฐบาลรูปหล่ออภิสิทธิ์ เห็นว่า “คนหน้าเหลี่ยม” เป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ-การเมือง-สถาบันสูงสุด นายกฯ รูปหล่อก็ต้องใช้ความเด็ดขาด จัดการกับ “คนหน้าเหลี่ยม” และพลพรรคป่วนชาติ โดยไม่มีความคิดที่จะซูเอี๋ยหรือแอบไปสมานฉันท์กัน ชนิดไม่แยแสถึงผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี ซึ่งใครบางคนในคณะรัฐบาลอภิสิทธิ์ ได้แอบติดต่อกับ “คนหน้าเหลี่ยม” แบบลับๆ ล่อๆ ในขณะนี้

วันนี้ “คนหน้าเหลี่ยม” กำลังจมน้ำกลางทะเลกว้าง เพราะเขาสิ้นคิดถึงขนาดหันไปสมคบกับเขมร “ฮุนเซน” มาย่ำยีทำร้ายทำลายสถาบันสูงสุดและชาติไทยทั้งลับและเปิดเผย

ทำไม “คนหน้าเหลี่ยม” จึงเลือกเขมร เป็นฐานที่มั่นกองทัพ “ส้นตีนแดง” น่ะหรือ?

ตอบตรงๆ ก็คือ เขมรมีชายแดนติดกับประเทศไทย แถมฮุนเซน-ยังเป็นผู้นำเผด็จการสมบูรณ์แบบ ที่คุมทั้งกลไกรัฐ ศาล รัฐสภา และกษัตริย์กัมพูชาไว้ในกำมือได้อย่างเบ็ดเสร็จนั่นเอง

“คนหน้าเหลี่ยม” รู้ดีว่าสำหรับประเทศกัมพูชาแล้ว ตกลงกับฮุนเซนในเรื่องผลประโยชน์ที่ลงตัวได้ ทุกเรื่องไม่ว่าง่ายหรือยาก..ก็จะได้สมใจนึกบางลำพูครับ

ดังนั้น..จึงเป็นเรื่องเข้าใจได้ว่า ทำไม “คนหน้าเหลี่ยม” จึงยกแผ่นดินไทย ไปประเคนให้กับเขมรฮุนเซน ด้วยการเซ็นสนธิสัญญาและคำแถลงการณ์ร่วม รวมทั้งอีกสารพัดเอกสารที่ “คนหน้าเหลี่ยม” ไปเซ็นไว้กับฮุนเซนในฐานะนายกฯ 2 ประเทศ

ซึ่งยังผลให้แผ่นดินไทยที่ไม่เคยทับซ้อนกับเขมร กลับกลายเป็นพื้นที่ทับซ้อนกับเขมรขึ้นมาดื้อๆ ที่สำคัญเป็นการทับซ้อนในลักษณะประเทศไทยเสียเปรียบ ต้องเสียทรัพย์ในดินสินในน้ำให้กับเขมรเพิ่มขึ้นครับ

บัดนี้ “คนหน้าเหลี่ยม” ได้ตัดสินใจครั้งสำคัญ ด้วยการเปิดตัวไปเป็นขี้ข้ารับใช้ฮุนเซนแห่งเขมร เป็นทั้งที่ปรึกษาส่วนตัวและทางด้านเศรษฐกิจให้รัฐบาลฮุนเซน โดยมีกษัตริย์สีหมุนีเซ็นคำสั่งแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ

แน่นอน..ผลประโยชน์เบื้องต้นที่ “คนหน้าเหลี่ยม” ได้ก็คือ คำสั่งที่แต่งตั้งโดยกษัตริย์เขมรนั้น จะทำให้ “คนหน้าเหลี่ยม” อาศัยช่องโหว่รอดพ้นจากการถูกส่งตัว ในฐานะนักโทษหนีคุกจากสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ที่รัฐบาลเขมรทำไว้กับรัฐบาลไทยนั่นเอง

ด้วยรัฐบาลอภิสิทธิ์อ่อนแอในการจัดการกับ “คนหน้าเหลี่ยม” ปล่อยให้ระบอบทักษิณยังมีอิทธิพลอยู่ทุกหัวระแหง ทำให้ทหาร-ตำรวจ-ข้าราชการ-คนไทยที่เห็นแก่เงินและอำนาจจำนวนหนึ่ง ยังคงเคลื่อนไหวสนับสนุน “คนหน้าเหลี่ยม” ทั้งลับและเปิดเผยได้ตลอดเวลา

นั่นทำให้ฮุนเซนเชื่อมั่นว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ “คนหน้าเหลี่ยม” จะกลับมายึดครองประเทศไทยได้อีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอน

ฮุนเซนจึงตีตั๋วยืนข้าง “คนหน้าเหลี่ยม” เต็มตัว ถึงขนาดให้เช่าเกาะกง 99 ปี เพื่อให้ “คนหน้าเหลี่ยม” ใช้แผ่นดินเขมร เป็นฐานที่มั่นสำหรับการเคลื่อนไหวทางการเมือง ล้มล้างรัฐบาลและสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ทั้งลับและเปิดเผยอย่างเต็มที่ดังมีข่าวต่างประเทศรายงานว่า

มีอดีตรัฐมนตรีรัฐบาลที่ “คนหน้าเหลี่ยม” บงการชี้นิ้ว เป็นหญิงก็ไม่ใช่-เป็นชายก็ไม่เชิง เอ๊ะ..แล้วเป็นอะไรหว่า? ได้เผยกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศบางคนว่า ขณะนี้กองกำลังสร้างรัฐไทยใหม่ได้ลักลอบนำอาวุธ ทั้งหนักและเบาเข้ามาทางภาคอีสานของไทยบางจุดแล้ว

เรียกว่า..พลพรรค “คนหน้าเหลี่ยม” พร้อมเป่านกหวีด เคลื่อนไหวล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์และระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรง เป็นพระประมุข เต็มทุกรูปแบบแล้วครับ

นอกสภา-กองกำลังคนเสื้อแดงพร้อมเขย่าเก้าอี้รัฐบาลอภิสิทธิ์ ด้วยการลุกฮือทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองบางแห่ง ในสภาฯ-ส.ส.เสื้อแดงก็จะป่วนระบอบรัฐสภาจนหมดสภาพ ถึงขนาดการประชุมสภาฯ ล่มแล้วล่มอีก นอกระบบ- “คนมีสี” ส่วนหนึ่งจะป่วนชาติทุกวิธีการ ทั้งเผาบ้านเผาเมือง ลอบสังหารผู้คนฝ่ายตรงข้ามกับ “คนหน้าเหลี่ยม” รวมทั้งอาจมีรายการวี๊ด..บึ้ม..เป็นระลอกตามมาด้วย...

หากพลาดพลั้งรัฐบาลไทย ก็มีฐานที่มั่นไว้หลบภัยและตั้งกองกำลังอาวุธ “รัฐบาลส้นตีนแดงผลัดถิ่น” อีกด้วย

เรียกว่า “คนหน้าเหลี่ยม” กับพลพรรค “ส้นตีนแดง” จะป่วนชาติทุกวิธีการ-ทุกรูปแบบ-ทั้งลับและเปิดเผย จนรัฐบาลอภิสิทธิ์ที่อ่อนแอและไม่เท่าทันเล่ห์กลเหล่าคนชั่ว ตกอยู่ในสภาพจะล้มมิล้มแหล่..จนในที่สุด..ทุกอย่างอาจจะจบลงตรง..

นายกฯ รูปหล่ออภิสิทธิ์ลากยาวรัฐบาลหน่อมแน้มต่อไปไม่ไหว จำต้อง..ยุบสภาฯ-ลาออกเพื่อ “คนหน้าเหลี่ยม” จะได้ใช้เงินซื้อเสียงโกงการเลือกตั้ง เข้ามายึดอำนาจรัฐไว้ในกำมืออีกครั้งหนึ่งไงล่ะครับ

ทว่า..หากรัฐบาลอภิสิทธิ์พลาดท่ายุบสภาฯ-ลาออกไม่ทัน “คนหน้าเหลี่ยม” อาจใช้วิธีชำเรายึดเอาอำนาจมาไว้ในกำมือแบบเขมรก็ได้นะครับ

ก็แหม..ตอนนี้ “คนหน้าเหลี่ยม” กำลังคลั่งไคล้หลงใหลฮุนเซนโมเดลมั๊กมาก ทำให้คนทั้งโลกเห็น “ทรราชหน้าเหลี่ยม” โคจรไปกอดกับ “ทรราชหน้าเขมร” เหมือน “เฮี้ย” สองตัวกอดกันกลมหน้าทำเนียบฯ “ตึกไทยคู่ฟ้า” ไงล่ะครับ

โอ้.. พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ดูสิ..“ทรราชหน้าเหลี่ยม” กำลังเดินทับรอยเท้าบนผืนทราย..เอ๊ย..รอยตีน “ทรราชหน้าเขมร” อย่างกระชั้นชิดแล้วคร๊าบ..!!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น