++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

FW: เรื่องของวาสนา..

มีชายหญิงคู่หนึ่งรักกันมากคบกันมา 3 ปี ทั้ง 2 ตกลงจะแต่งงานกัน
เมื่อกำหนดวันเรียบร้อย ฝ่ายชายรอคอยวันที่จะแต่งงาน ต่อมาไม่นาน รู้ข่าวว่าคู่รักของตนแต่งงานกับคนอื่นอย่างกะทันหัน
โดยฝ่ายหญิงเองก็เต็มใจไม่ได้ถูกบังคับแต่อย่างใด

เมื่อได้ทราบข่าว เขาทั้งงงและเสียใจมาก ร้องไห้ไม่กินไม่นอน ไม่นานก็ป่วยหนักเพราะตรอมใจ

เวลาผ่านไป ฝ่ายชายป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆ ไปหาหมอก็ไม่ดีขึ้น
ขณะที่นอนซมอยู่ มีหลวงตาแก่ๆผ่านมาหยุดอยู่ที่หน้าบ้าน มองเข้าไปในบ้านแล้วจึงเคาะประตู
เด็กรับใช้ออกมาเปิดประตูพบว่าเป็นพระ จึงบอกว่าไม่ทำบุญ นิมนต์ข้างหน้า
 
หลวงตายิ้มอย่างมีเมตตาแล้วพูดว่า
อาตมาไม่ได้มาบิณฑบาตร ในบ้านมีคนป่วย อาตมามีความรู้ทางด้านการแพทย์นิดหน่อย พอช่วยได้
เด็กรับใช้ได้ฟังก็บอกว่าตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องขอไปถามเจ้านายก่อน
เด็กรับใช้เดินเข้าไปในบ้านถามเจ้านาย เจ้านายตอบอย่างตัดรำคาญว่าอยากเข้ามาก็เข้ามา!
 
เมื่อหลวงตาเข้าไปที่ห้องนอน พบชายคนดังกล่าวนอนอย่างหมดอาลัยตายอยากอยู่บนเตียง
สีหน้าซีดเซียวร่างกายซูบผอมประหนึ่งครึ่งคนครึ่งศพ
เด็กรับใช้นำน้ำมาถวายหลวงตาพร้อมจัดเก้าอี้ถวายข้างๆเตียง
หลวงตายิ้มแล้วพูดว่าอาการหนักเลยนะ
ชายคนนั้นนิ่งเงียบ ไม่สนใจในสิ่งที่หลวงตาพูด
หลวงตาตรวจอาการพอเป็นพิธี จึงกล่าวว่า โทรมมากเลยนะ ไม่เชื่อลองมองที่กระจกสิ
 
ชายคนนั้นไม่สนใจ แต่ขณะที่หางตาชายไปที่กระจกแต่งตัวในห้องนอน
เขามองเห็นภาพของคนที่รักอยู่ในนั้น
 
ไม่นานภาพของคนรักก็ค่อยๆจางหายไปกลายเป็นภาพทิวทัศน์ชายทะเล     
ที่ชายทะเลแห่งนั้นเงียบสงบ ไม่มีคนผ่านไปมา
 
ขณะที่ชายคนที่ป่วยนั้นมองภาพในกระจกด้วยความสนใจ
เขาเห็นศพหญิงสาวนอนเปลือยกายอยู่ที่ชายหาด
เวลาผ่านไปซักครู่ มีชายคนหนึ่งเดินผ่าน เขามองศพหญิงคนนั้นด้วยความรังเกียจ แล้วเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ต่อมาพักใหญ่ มีชายอีกคนหนึ่งเดินผ่านมาเห็นศพนั้น เขาสงสารจึงถอดเสื้อนอกออกมาคลุมร่างของหญิงคนนั้นแล้วเดินจากไป
พักใหญ่ๆอีกเช่นกัน มีชายอีกคนเดินผ่านมาพบคนนอนมีผ้าคลุมอยู่ จึงเปิดออกดู
เมื่อพบว่าเป็นศพ ด้วยใจสงสารจึงจะฝังให้เรียบร้อย แต่ก็ไม่มีเครื่องมือจะขุด
เขาตัดสินใจใช้มือทั้ง2ข้างๆค่อยๆกอบทรายขึ้นมา
เขาทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนเย็น พอได้หลุมใหญ่พอสมควรจึงได้ฝังศพผู้หญิงคนนั้นเรียบร้อยแล้วจากไป

จากนั้นภาพในกระจกก็เปลี่ยนเป็นภาพของศพหญิงคนนั้นและก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นภาพของหญิงคนรัก
เขาได้เห็นก็ตกใจพอ ซักพักก็ปรากฏเป็นภาพชายคนที่ 2 แล้วก็ค่อยๆจางหายไปเหลือแต่เงาของตัวเองในกระจก
 
ทันใดนั้นหลวงตาพูดว่า
ทีนี้เข้าใจรึยังศพนั้นคือคู่รักของโยม
ชายคนที่ช่วยฝังศพเธอ ผูกวาสนากับเธอหนึ่งชาติ
ชาตินี้เธอเลยแต่งงานกับเขา
 
ส่วนโยมช่วยคลุมศพ เธอจึงผูกวาสนา 3 ปี
ตอนนี้ครบ 3 ปี วาสนาสิ้นแล้วก็ต้องจากกัน
 
เมื่อชายคนนั้นฟังจบก็กระอักเลือดออกมา
เด็กรับใช้ตกใจมาก หลวงตายิ้มแล้วบอกว่า โยมรอดแล้ว เมื่อกี้โยมกระอักเอาเลือดเสียออกมาแล้ว

ต่อมาไม่นาน ชายคนนั้นก็ได้ออกบวชในที่สุด



 


คนเราเจอกันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
ความสัมพันธ์ พ่อ,แม่,พี่,น้อง,ญาติ,เพื่อน,ศัตรู,คนรัก ฯลฯ ไม่ใช่ของเลื่อนลอย
เมื่อมีวาสนาไม่ต้องเรียกร้องถึงเวลาก็มาเจอกัน
เมื่อสิ้นวาสนาก็ต้องจากกันรั้งยังไงก็ไม่อยู่
ในตอนที่ยังไม่จากกันนี้ คุณได้ทำดีต่อคนของคุณหรือยัง
 
เพราะเมื่อถึงเวลาที่ต้องจากกัน
ไม่ว่าคุณจะมีเงินหรืออำนาจล้นฟ้าก็เรียกมันกลับคืนมาไม่ได้
ทำดีต่อกันไว้ดีกว่า
เพราะไม่มีใครรู้ว่าเราจะต้องจากกันเมื่อไหร่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น