++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

“สนธิ” สะท้อนใจ บั้นปลาย “หมัก” เตือน “แม้ว” ไม่ปลงมีชะตาเดียวกัน


วันนี้ (6 พ.ย.) เมื่อเวลา 21.20 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวปราศรัยบนเวทีที่ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวถึงรูปถ่ายของนายสมัคร สุนทรเวช ที่ปรากฏเป็นข่าวขณะเดินทางไปรักษาอาการมะเร็งในคับที่เมืองฮุสตัน สหรัฐฯ และถูกพี่น้องพันธมิตรฯ ชูป้ายประท้วงที่สนามบิน และนายสมัครนั่งคอตกพิงภรรยาเหมือนไม่มีเรี่ยวแรงว่า ด้วยความสัตย์ ตนเองรู้สึกสงสารนายสมัคร และตั้งคำถามว่าทำไมถึงช่วงสุดท้ายของชีวิตถึงเพิ่งจะมารู้ว่าตนเองได้ทำอะไ รไว้บ้าง บาปกรรมที่ทำไว้ทำให้นายสมัครต้องป่วยไม่มีแรงแม้แต่จะเดินหนีคนที่มาประท้ว ง

"ภาพของคุณสมัครในวันนี้ ช่างต่างกับวันที่ออกประกาศภาวะฉุกเฉินที่กองทัพไทยแล้วข่มขู่จะเข้ามาปราบป รามพวกเราที่อยู่ในทำเนียบฯ" นายสนธิ ระบุ และว่าภาพนี้อยากให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ หรือนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้เห็นบ้าง อยากให้พวกที่ทำร้ายประชาชนได้เห็นบ้าง และอยากให้รู้ว่าไม่ว่าคนพวกนี้จะอยู่ที่ไหนก็จะถูกพันธมิตรฯ ตามไปขับไล่

นายสนธิ กล่าวว่า นายสมัครเดินทางมาไกลนับหมื่นกิโลเมตรก็ยังโดนขับไล่ ถูกประณาม แต่ขณะเดียวกันก็ไม่เห็นพวกเสื้อแดงมาเชียร์เลย และเตือนว่าอย่าลืม อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เพราะเวลาผ่านไปแค่ 2 เดือนกว่า นายสมัครก็รับกรรมแล้ว วันนี้จึงเป็นหนังเรื่องยาวของนายสมัครที่ใกล้จบแล้ว และคนอื่นๆ จะต้องเจอแบบนี้เหมือนกัน หรือคนที่มีเงินเป็นพันเป็นหมื่นล้านก็ไม่มีความหมาย ทุกอย่างเป็นสิ่งสมมุติทั้งหมด และสัจธรรมทุกศาสนาคือทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว

นายสนธิ ได้โยงไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าเวลานี้ก็นอนไม่หลับ ด้วยโมหะ กำลังดิ้นรนทุกทางเพื่อให้ตนเองกลับมามีอำนาจเหมือนเดิมอีกครั้งเพื่อปกป้อง ทรัพย์สินของตัวเอง แทนที่เขาจะเงียบสัก 1-2 ปี แล้วค่อยคิดหาทางจะกลับ แต่เขายังคิดว่าต้องกลับมาให้ยิ่งใหญ่เหมือนเดิมในตอนนี้ให้ได้ เพราะเขายังหลงตัวเอง คนประเภทนี้น่าสมเพชมาก

จากนั้น นายสนธิกล่าวถึงผู้มีอำนาจในกองทัพบกบางคนที่บอกว่าการชุมนุมของทั้งพันธมิต รฯ และ นปก.ไม่มีความหมาย เพราะในปีหน้าเศรษกิจก็จะล่มสลายใครก็เอาไม่อยู่ ว่าไม่สมควรพูดแบบนี้ เพราะถ้าเศรษฐกิจมีปัญหาเราก็ต้องรีบเปลี่ยนแปลงหาผู้นำที่มีคุณธรรมมาบริหา รประเทศ อย่างไรก็ตามก็ให้อภัยนายทหารใหญ่คนนี้เพราะโลกทัศน์แคบ และย้ำว่าสาเหตุที่บ้านเมืองวิกฤตในวันนี้เพราะคนที่ทำหน้าที่ไม่รู้จักหน้า ที่ ไม่รักษาชาติ ไม่ปกป้องราชบัลลังก์

นายสนธิ ย้ำว่า แกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คนที่มานำการชุมนุม ไม่เคยคิดที่จะได้อำนาจรัฐ หรือคิดจะเป็นรัฐมนตรี หรือนายกฯรัฐมนตรี หรือคิดอยากได้อำนาจ แต่มาด้วยจิตบริสุทธิ์

"ถ้าเศรษฐกิจจะล่มสลายในปีหน้าเราก็ต้องรีบเปลี่ยนเป็นการเมืองใหม่โ ดยเร็ว ถ้ารัฐบาลนี้ยังอยู่ ไม่รู้ว่าจะลงไปสู่นรกขุมไหน" นายสนธิ กล่าว และว่า วิธีพาตัวเองให้รอดต้องมีผู้บริหารที่คิดแบบใหม่ต้องเสียสละเพื่อส่วนรวม พร้อมทั้งยกตัวอย่างการทำงานไม่เป็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คือ นายสุชาติ ธาดาธำรงค์เวช ที่กดดันให้ธนาคารแห่งประเทศไทยลดดอกเบี้ยลงมา ทั้งที่ปัญหาไม่ใช่เรื่องนี้ แต่อยู่ที่ช่องว่างของดอกเบี้ยเงินฝากกับเงินกู้มันห่างกัน ดังนั้นต้องลดช่องว่างเหล่านี้ให้แคบลง ถ้าดอกเบี้ยเงินฝาก 2.5 ดอกเบี้ยเงินกู้ต้องไม่ใช่ 12.5 ต้องไม่เกิน 6 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เพื่อไม่ให้ประชาชนรับภาระด้านต้นทุนที่สูงเกินไป ขณะเดียวกันต้องส่งเสริมไม่ให้ประชาชนเป็นหนี้เพิ่ม อย่างไรก็ตาม การจะแก้ไขได้ต้องมีความกล้าหาญ

นายสนธิ ย้ำให้ยกเลิกโครงการเมกะโปรเจกต์ที่ทุจริต เช่น โครงการเช่าซื้อรถเมล์ 4 พันคัน และว่าแม้เศรษฐกิจโลกจะล่มสลายหรือตกต่ำแต่ถ้าผู้บริหารของเราไม่คดโกง เราก็อยู่รอด ตรงกันข้ามกับรัฐบาลนี้ และพรรคพลังประชาชนที่จ้องทำลายเศรษฐกิจ

"ที่นายทหารใหญ่ในกองทัพบกบางคนว่าเศรษฐกิจจะเอาไม่อยู่ ก็ขอให้งดซื้ออาวุธมูลค่า 2 หมื่นล้านแล้วเอามาคืนให้ประชาชนได้หรือไม่ แต่เชื่อว่าไม่ทำเพราะนั่นมีค่าคอมมิชชันที่ต้องได้ คนประเภทนี้จึงเกลียดพันธมิตรฯ เพราะความคิดมันต่างกัน" นายสนธิ กล่าว

ในตอนท้าย นายสนธิกล่าวถึงการเมืองไทยโดยเปรียบเหมือนหมาขี้เรื้อนที่ลุกลามไปทั่วตัวแ ล้ว ต้องจับขังกรง เพื่อเยียวยา อย่าให้เพ่นพ่าน

"เราต้องหยุดการเมืองเก่า ร่วมกันหยุดยั้งหมาขี้เรื้อน ถ้ารักษาไม่ได้ก็จำเป็นต้องฆ่าทิ้งแล้วหาหมาตัวใหม่มาฟูมฟักแล้วสอนมารยาทเส ียใหม่" เขาระบุ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น