++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

"ผู้ใหญ่ที่ข้าพเจ้าเหลือคนเดียว"

14 พฤศจิกายน 2551    กองบรรณาธิการ
วันนี้-ก็ย่างเข้าวันศุกร์ที่ ๑๔ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๑ นับจากวันนี้ไปจนถึงวันพุธที่ ๑๙ พฤศจิกายน เป็นวาระเข้าสู่หมายกำหนดการ

"พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์"

ครับ..พวกเรา "เหล่าพสกนิกร" ก็คงใจจด-ใจจ่อ เพื่อร่วมถวายความอาลัยแด่พระองค์ท่านอยู่แล้ว 

แต่เอาเข้าจริงๆ ก็คงจำไม่ได้ว่า "วันไหน-เวลาไหน" คืออย่างไรบ้าง  ฉะนั้น เพื่อการปฏิบัติตนที่เหมาะสม ผมจะค่อยๆ นำหมายกำหนดการมาบอกท่านเป็นช่วงๆ ไป เป็นการกันลืม

ท่านจำให้แม่นๆ ในช่วงสำคัญระหว่างวันที่ ๑๔-๑๖ พ.ย.นี้ก่อนนะครับ โดยเริ่มจากวันนี้  เราควรแต่งกายไว้ทุกข์  สำรวมกาย วาจา และใจ ให้บริสุทธิ์ เพราะด้วยความบริสุทธิ์แห่ง กาย-วาจา-ใจ นี้

จะหลอมรวมเป็นพลังแห่งจิตตานุภาพกล้าแกร่ง ส่งเสด็จ "สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ" คืนสู่ทิพยวิมาน ณ สรวงสวรรค์-แดนโพ้น

ต้องเข้าใจกันด้วยนะครับว่า  หน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์นั้น อยู่นอกเหนือคำว่าตายดังสามัญชนทั่วไป เพราะวงศ์กษัตริย์นั้น คือวงศ์แห่งเทวะ

ก็แล "องค์เทวะ" นั้น อยู่นอกเหนือการเป็น-การตาย มีแต่การ "จุติ" จากที่หนึ่ง ไป    อีกที่หนึ่งเท่านั้น ดังเช่น สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ องค์แห่งวงศ์เทวะ ผู้ทรงจุติมาสู่แดนมนุษย์ในภาวะ "องค์แห่งสมมุติเทพ"

เมื่อ    พฤษภาคม  พุทธศักราช ๒๔๖๖ ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร จวบจน    วันที่ ๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๑ ณ โรงพยาบาลศิริราช ประเทศไทย

กาลล่วงแล้ว  ๘๔  ปี  พระองค์ท่านก็ทรงจุติอีกครั้งหนึ่ง จากแดนมนุษย์คืนสู่แดนสรวง หลังจากทรงบำเพ็ญตบะบารมี "สงเคราะห์มนุษยโลก" ด้วยกาลอันควรแล้ว

ฉะนั้น  ในวาระนี้  หน้าที่ที่พวกเรา-เหล่าพสกนิกรจะพึงกระทำ และจะเป็นการกระทำด้วยความเข้าใจที่ถูกต้องก็คือ เฝ้าแหน "ส่งเสด็จ" พระองค์ท่านคืนสู่สวรรค์ ด้วยปีติในศรัทธาแห่งเทวะ

การคืนสู่สรวงสวรรค์ของพระองค์ท่าน มิเป็นการ "ลับหายตายจาก" ดังที่เข้าใจกันแต่ประการใด!

สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ   ยังทรงดำรงพระชนม์ชีพอยู่กับเรา-ปวงชนชาวไทยตลอด ไป เพียงแต่ทางกายภาพ เราทั้งหลายมิอาจเห็นพระองค์ท่านดังที่เคยเห็นทางตาเท่านั้น

เพราะพระองค์ท่านเสด็จคืนสู่ "แดนทิพย์" ไกลออกไปนอกครรลองจักษุมนุษย์จะแลเห็น ตามชั้นแห่งพระบารมีที่ทรงบำเพ็ญ "มหากุศล" ต่อปวงประชามาตลอด ๘๔ พระพรรษานั่นเอง
พูดถึงสวรรค์ หลายท่านอาจชินหู แต่ไม่ค่อยเข้าใจ ในพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๙ หน้าที่  ๕๓๑ กล่าวถึงสวรรค์ สำหรับผู้ที่ยังเวียนว่ายตายเกิด มี ๖ ชั้น

ก่อนจะรู้ว่าชั้นไหน-เป็นชั้นไหน ทราบความหมายกว้างๆ ในคำว่า "สวรรค์" ไว้ก่อน ตามที่ครูบาอาจารย์อธิบายไว้ ดังนี้นะครับ

สวรรค์  รูปศัพท์บาลี จะแปลว่า เลิศด้วยดีก็ได้ มีอารมณ์ดีงามก็ได้ อันสรรพสัตว์พึงถึงด้วยกรรมอันดีงามก็ได้  หรือจะแปลว่า เป็นที่ ข้องอยู่-ติดอยู่ แห่งสัตว์ทั้งหลายก็ได้

สรุปความว่า  "สวรรค์" ได้แก่โลกเป็นที่อยู่ของเทวดา มีแต่รูป รส กลิ่น เสียง โผฏฐัพพะ อันดีงาม คือเป็นของทิพย์ ดีเลิศประเสริฐกว่าเมืองมนุษย์หลายเท่า

สวรรค์ทั้ง ๖ ของผู้ที่มิใช่พระอรหันต์ ไล่จากชั้นต้นขึ้นไปถึงชั้นสูงสุด มีดังนี้

๑.ชั้นจาตุมหาราช  ๒.ชั้นดาวดึงส์ ๓.ชั้นยามา ๔.ชั้นดุสิต ๕.ชั้นนิมมานรดี และ ๖.ชั้นปรนิมมิตวสวัตดี

ครับ..คิดว่าพอเข้าใจคร่าวๆ กันแล้ว  ก็มาดูกันว่าระหว่าง  ๑๔-๑๖  พ.ย.นี้ งานอันเป็นพระราชพิธีสำคัญมีอะไรบ้าง
  

1 ความคิดเห็น: