เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.วันนี้ (6 พ.ย.) ที่เวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ขึ้นเวทีปราศรัยโดยกล่าวถึงการชุมนุมของพันธมิตรฯ ว่าวันนี้เป็นวันที่ 166 แล้ว และวันนี้มีพันธมิตรฯ คนนึงถามตนว่าจะชุมนุมนานถึงเมื่อไหร่ จึงบอกไปว่าถ้าคิดออกบอกด้วยก็แล้วกัน
แต่ที่ชัดๆ คือ เราชุมนุมมาตั้งเเต่วันที่ 25 พฤษภาคม จนมาถึงวันนี้เป็นวันที่ 166 นั้นเราได้รับผลดีมาตลอดเรียกได้ว่าชนะมาตามรายทางแต่ยังไม่ถึงปลายทางก็ตาม เราได้บอกให้กับหลายท่านทราบว่าคณะเราได้รวบรวมเป็นหลักฐานว่า วันที่เราชุมนุมกันถึงวันที่ 114 เราชนะทั้งเรื่องเล็กและใหญ่ทั้งสิ้น 41 เรื่อง ซึ่งไม่ใช่น้อย สรุปคือที่ลงทุนลงแรงไป 165 วัน จนวันนี้เป็นวันที่ 166 ไม่ได้เสียหลายเลย
"ถ้าเราไม่ชุมนุมก็ไม่มีใครมาและบ้านเมืองจะเสียหายอย่างยิ่ง แล้วก็คงไม่มีคนกลุ่มไหน คณะใดมาทำแทนเรา ถ้าเราเลิกวันนี้หรือพรุ่งนี้จะเสียหายอย่างใหญ่หลวง เพราะเขาจะทำเเย่ๆเรื่อยๆ และที่เราตั้งเป้าหมายหมายเรียกร้องให้รัฐบาลหุ่นเชิดออกไป คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการไปสู่การเมืองใหม่ ถึงเเม้ว่านายกรัฐมนตรีทำผิดมาตลอด ถูกตั้งฉายาต่างๆ ก็ไม่ยอมลาออกแสดงถึงความดื้อรั้น ถ้าวันนี้เรายังไม่สู้กับความดื้อรั้นของเขาต่อไป บ้านเมืองเสียหายจะมากกว่านี้แน่นอน" พล.ต.จำลอง กล่าว
พล.ต.จำลอง ยังได้พูดถึงกรณีที่รัฐบาลยังคงดันทุรังอยู่ในอำนาจต่อไปเพราะว่ารัฐบาลมี 2 อำนาจที่คุมได้ คือ 1.อำนาจนิติบัญญัติ 2.อำนาจบริหาร เหลือเเต่อำนาจตุลาการเท่านั้น รัฐบาลจึงสามารถทำสิ่งที่ผิดได้ตลอด โดยที่จะมีการออกกฏหมายมาแก้กฏหมายเก่าก็สามารถทำได้ แต่ที่ทำไม่ได้เพราะมีพันธมิตรฯ ขวางอยู่ ตนได้บอกให้ติดตามว่ารัฐบาลจะมีการดำเนินการ 2 อย่าง คือ 1.จะทำการขอพระราชทานอภัยโทษ ที่ผิดเพราะทุจริต 2.จะออกกฏหมายนิรโทษกรรม โดยใช้ ส.ส.เสียงข้างมากในสภาก็จะสามารถดันกฏหมายให้ผ่านได้อย่างง่าย และในวันนี้ยังมีการเพิ่มให้ยกเลิกคำสั่งของ คปค.ซึ่งเป็นกฎหมายที่ล็อกนักโทษการเมือง 111 คนให้พ้นโทษ
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวต่อว่าที่มาชุมนุมอยู่นี่เป็นเวลานานเพราะพันธมิตรฯ เหนียวเเน่น ทั้งกรุงเทพฯ ต่างจังหวัดและต่างประเทศ อย่างกรณีวันนี้ นายสมัคร สุนทรเวช ได้ไปรักษาตัวที่สหรัฐฯ ยังเจอพันธมิตรสหรัฐฯ ใช้มือตบตบไล่อย่างหมดสภาพ
พล.ต.จำลอง ระบุต่อว่า ไม่เคยมีการชุมนุมครั้งใดในประวัติศาสตร์ของเมืองไทย ซึ่งทำได้อย่างเหนียวแน่นไม่ใช่เฉพาะที่หนึ่งที่ใด แต่ทั้งในต่างจังหวัด ทั้งต่างประเทศ หนีไปไหนก็ไม่พ้นแน่นอน
พล.ต.จำลอง กล่าวถึงการชุมนุมว่าเปรียบเสมือนการทำงานอย่างหนึ่ง ชี้ให้เห็นว่าการทำงานนั้นสำคัญเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ไม่ใช่คนจรหมอนหมิ่นที่จะมานอนปักหลักกันอย่างไม่มีเหตุผล ทุกคนมีงานทำกันหมด แต่ได้ย้ายที่ทำงานมาเป็นในทำเนียบได้ 2 เดือนกว่าแล้ว
"ผมเคยเป็นคณะกรรมการชมรมอยู่ร้อยปีชีวีเป็นสุข ที่หมอเฉก ธนะศิริ เป็นประธาน ทำให้รู้ว่าถ้าไม่ทำงานจะตายไว ฉะนั้น ที่เรามาทำเนียบก็ถือเป็นการทำงานอย่างหนึ่ง เราทำงานไปมีดนตรีให้ฟัง ยิ่งทำให้เรามีอายุยืน เราเคยใช้เพลงของท่านพุทธทาสอยู่เพลงนึง ที่บอกไว้ว่า งานคือชีวิต ชีวิตคืองานบันดาลสุข งานคือชีวิตของเราเราต้องภูมิใจที่เราได้ทำงานที่ทำเนียบ ทำงานให้สนุกเป็นสุขกับการทำงาน แต่เราจำเป็นต้องทำงานต่อเพราะมีพวกเราเท่านั้นที่ทำได้ ใครมีเวลาก็เข้ามาร่วมกันสู้ขับไล่รัฐบาลเพราะนี้คืองานของเรา" พล.ต.จำลอง กล่าว
Theขี้ฝุ่นริมทาง
วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
“จำลอง” จวก “สมุนแม้ว” ลุแก่อำนาจ ล้มคำสั่ง คปค.ช่วย 111 ซากพ้นผิด
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น