++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2548

รถไม่ง้อน้ำมันแพง


นึกว่ามีวิชั่นกว้างไกล เห็นในรัฐบาลมีคนเก่ง ห้อยดีกรีด็อกเตอร์ และเป็นหมอก็หลายคน ที่ไหนได้ มาตรการรับมือวิกฤติน้ำมันแพง กลับแสดงผลงานได้เท่าเด็กประถม


มาตรการที่ออกมาไม่ต่างอะไร กับเด็กท่องจำ เอาของเก่ามาพูดมา ทำทั้งนั้น...มาตรการหาพลังงานใหม่ๆ มาทดแทนน้ำมันไม่มีเอาเสียเลย


ทั้งที่เมืองไทยนั้นมีอะไรดีๆไม่น้อย...อย่างส่งเสริมให้คนไทยใช้รถยนต์ ไฟฟ้า ผลิตโดยคนไทย ที่ประดิษฐ์ คิดค้นสำเร็จ และมีการผลิตส่งจำหน่ายไปต่างประเทศมาเป็นเวลาร่วมปีแล้ว


แฟนประจำคอลัมน์คงจำได้ พฤษภาคมปีที่แล้ว แม่ทองต่อ แนะนำให้รู้จักรถกอล์ฟไฟฟ้า รถตุ๊กๆไฟฟ้า ยี่ห้อ CFEE ของไทยแท้...ราคาถูกกว่าของฝรั่ง แบบหารสอง แต่รัฐบาลเพิกเฉยไม่ใส่ใจส่งเสริม ทั้งที่ตอนนั้นราคาน้ำมันก็ส่อแววแพงไม่หยุดแล้ว


มาปีนี้ พล.อ.ท.มรกต ชาญสำรวจ อดีตเจ้ากรมสรรพาวุธทหารอากาศ ผู้ประดิษฐ์จรวดเห่าฟ้าอันลือลั่น และผู้คิดค้นประดิษฐ์รถไฟฟ้าของไทย ได้สร้างผลงานใหม่ ออกมาอีกแล้ว


คราวนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 2 ที่นั่ง เหมาะสำหรับการจราจรติดขัดในเมืองหลวง


ที่นอกจากไม่ต้องพึ่งพาน้ำมันแม้แต่หยดเดียวแล้ว ยังไม่ทำให้อากาศในเมืองเป็นมลพิษอีกด้วย และยังช่วยประหยัดเงินค่าพลังงานได้อักโข


รถคันนี้ขับไปมาในเมืองในระยะทางไม่เกิน 120 กม. จะเปลืองเงินชาร์จไฟฟ้าให้รถ 30 บาท


ขณะที่รถยนต์เติมเบนซิน คิดในอัตราซดน้ำมัน 10 กม. ต่อลิตร จะผลาญเงินค่าน้ำมันตอนนี้ก็ วันละ 200 บาท แต่ถ้ารถติดจะซดมากกว่านี้


ปีหนึ่ง รถไฟฟ้า C-FEE ซดเงินค่าพลังงาน 10,950 บาท...รถเติมน้ำมันซดค่าน้ำมันไป 73,000 บาท...ต่างกัน 60,000 กว่าบาท


ส่งเสริมให้ใช้กันมากๆ จะลดการใช้น้ำมัน เบนซินได้ขนาดไหน


รถไฟฟ้าไทย นอกจากจะประหยัดเงินค่าน้ำมันแล้ว ถ้าเปรียบเทียบราคาตัวรถแล้วล่ะก็ ยิ่งน่าใช้ ไปกันใหญ่


รถยนต์ไฟฟ้าของไทย ราคาคันละ 490,000 บาท...แต่รถยนต์ไฟฟ้าของต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นของสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น อินเดีย ราคาตกคันละ 1.2 ล้านบาท


แต่ขอบอก ราคาแพงต่างกันเกือบ 3 เท่า... รถไฟฟ้าของนอกไม่มีแอร์


ของไทย...มีแอร์ให้ค่ะ


เห็นมั้ยล่ะคะ รถไฟฟ้าของไทยน่าจะส่งเสริมให้ใช้ขนาดไหน...รัฐบาลไม่ส่งเสริม แม่ทองต่อ จะเชิญชวนเชียร์ให้ใช้กันมากๆ


โดยเฉพาะคนที่อยู่ในเมือง วันๆ ขับรถไปไหนไม่ไกล แค่จากบ้านไปที่ทำงานแล้วก็ขับกลับ วันหนึ่งขับไกลไม่เกิน 120 กม. สบายมาก


แต่จริงๆแล้วถ้าขับไปจอด เจอรถติด จะขับได้ระยะทางไกลกว่านั้น


เพราะสเปกที่บอกว่า ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง ขับได้ไม่เกิน 120 กม.นั้น...เป็นกรณีที่เราต้องขับรถต่อเนื่องโดยไม่มีการจอดหยุดพัก


ถ้าขับในเมืองเจอรถติด เราไม่เหยียบคันเร่ง มอเตอร์ไม่ทำงาน...แบตเตอรี่ก็ได้พักตัว...ผลที่ตามมาแบตเตอรี่ จะสามารถฟื้นพลังที่เสียไปให้กลับมาใหม่ได้ค่ะ


เลยเป็นเหตุผลว่า ทำไมถึงขับได้ยาวไกล กว่า 120 กม.


และแน่นอน รถติด รถหยุด รถไฟฟ้าไม่ซดพลังงาน...แต่รถเติมน้ำมันติดเครื่อง รถติดอยู่กับที่ซดน้ำมันตลอดจ้า


สนใจรถยนต์ไฟฟ้า 2 ที่นั่ง ที่ขับด้วยความเร็วไม่เกิน 60 กม. ต่อชั่วโมง เชิญสอบถาม รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริษัท นนทนี อินเตอร์เนชันแนลบิสซิเนส จำกัด 0-2910-7771-3 หรือ 0-1626-0391.


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น