วันนี้ สารคดีวันพุธ ได้ข้อมูลน่าสนใจจาก คุณประกิต เพ็งวิชัย นักวิชาการเผยแพร่กรมพัฒนาที่ดิน จึงนำมาเผยแพร่กันต่อ โดยเป็นเรื่องราวของการเลี้ยง ปลากะพง สัตว์เศรษฐกิจที่กำลังนิยมเลี้ยงกันเวลานี้ แต่การเลี้ยงปลากะพงใช่ว่า จะประสบความสำเร็จได้ง่ายๆ เพราะต้องเจอกับปัญหาหลายอย่าง โดยเฉพาะในเรื่องของต้นทุนด้านอาหารและคุณภาพน้ำ ที่อาจจะทำให้หมดเนื้อหมดตัวได้ง่ายๆ
นายวิจิตร ตั้งมั่น หัวหน้าสถานีพัฒนาที่ดินสมุทรปราการ เผยว่า จังหวัดสมุทรปราการ มีเกษตรกรหลายรายที่ประกอบอาชีพเลี้ยงกุ้งกุลาดำและปลาเศรษฐกิจ และมักประสบปัญหาด้านคุณภาพน้ำ สถานีพัฒนาที่ดินจึงได้เข้าไปส่งเสริมให้ใช้สารเร่ง พด.2 เพื่อนำไปผลิตเป็นปุ๋ยอินทรีย์น้ำ ซึ่งจุลินทรีย์ในปุ๋ยอินทรีย์น้ำ จะช่วยกำจัดของเสียและสิ่งสกปรกในบ่อเลี้ยงได้ ล่าสุดได้เข้าไปส่งเสริมให้หมอดินอาสาประจำตำบลคลองด่าน เพื่อให้เกษตรกรที่เลี้ยงปลากะพงในบ่อดินได้นำไปใช้ ปรากฏว่าคุณภาพน้ำดีขึ้นมาก
นายอนุสรณ์ หว่านณรงค์ หมอดินอาสาประจำ ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เกษตรกรเลี้ยงปลากะพง ผู้ทดลองใช้ปุ๋ยอินทรีย์น้ำที่ผลิตจากสารเร่ง พด.2 ในการปรับปรุงคุณภาพน้ำในบ่อเลี้ยงปลากะพง เล่าว่า ก่อนหน้านี้เลี้ยงกุ้งกุลาดำอยู่ แต่ ประสบภาวะขาดทุนเนื่องจากกุ้งตาย โดยสาเหตุมาจากคุณภาพน้ำและพันธุ์กุ้ง จึงหันมาเลี้ยงปลากะพงแทน โดยปัจจุบันมีทั้งสิ้น 4 บ่อ ขนาดบ่อละ 4 ไร่
หลังได้รับการส่งเสริมจากสถานีพัฒนา ที่ดินให้ใช้สารเร่ง พด.2 จึงได้ทดลองนำมาผลิตปุ๋ยอินทรีย์น้ำใช้ผสมในอาหารปลาและโรยในบ่อเพื่อรักษาคุณภาพน้ำ ปรากฏว่าได้ผลดี ปลากะพงที่เลี้ยงผิวสวย โตไว น้ำหนักดี และไม่มีกลิ่นคาว ขณะเดียวกัน น้ำในบ่อก็มีคุณภาพดี ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำตลอดการเลี้ยง ผิดกับบ่ออื่นๆ แถมประหยัดต้นทุนค่าอาหารถึง 60% เนื่องจากปลากินอาหารหมด และเมื่อเร็วๆนี้ ได้จับปลาขายเป็นรุ่นแรกได้น้ำหนักรวมกว่า 3 ตัน ขายได้ถึง 200,000 บาท หักกลบลบหนี้แล้วได้กำไรถึง 30%
สาเหตุที่นำปุ๋ยอินทรีย์น้ำ มาผสมอาหารเลี้ยงปลากะพงนั้น นายอนุสรณ์ กล่าวว่า จากประสบการณ์เลี้ยงกุ้งกุลาดำ ในบ่อดิน จำเป็นต้องใช้จุลินทรีย์ และให้วิตามินแก่กุ้งด้วย ฉะนั้น การเลี้ยงปลากะพงก็น่าจะจำเป็นเช่นกัน โดยได้เข้าไปอบรมกับกรมพัฒนาที่ดิน ถึงการทำปุ๋ยอินทรีย์น้ำ และนำมาปรับใช้เลี้ยงปลากะพง ซึ่งปุ๋ยอินทรีย์น้ำ ที่นำมาใช้ในการเลี้ยงปลากะพง เป็นปุ๋ยอินทรีย์น้ำที่ผลิตจากสับปะรด เพื่อเสริมวิตามินให้กับปลากะพง โดยใช้สัดส่วน 4 : 1 : 1 คือสับปะรด 40 กก. กากน้ำตาล 10 กก. น้ำ 10 ลิตร และสารเร่ง พด.2 จำนวน 1 ซอง (25 กรัม)
วิธีทำเริ่มจากนำสับปะรดสุกมาสับให้ละเอียด แล้วนำส่วนประกอบต่างๆ มาผสมคนให้เข้ากันในถัง ใช้เวลาหมักประมาณ 7 วัน ก็จะได้ปุ๋ยอินทรีย์น้ำจากสับปะรดที่มีคุณภาพดี สามารถนำมาผสมอาหารเลี้ยงปลากะพง และโปรยในบ่อเลี้ยงได้ ส่วนการผสมในอาหารปลาใช้อาหารปลาหรือปลาเหยื่อ 30กก. ต่อปุ๋ยอินทรีย์น้ำ 1 ลิตร หมักทิ้งไว้ 1 ชม. ก่อนโปรยให้กิน วันละ 2 ครั้ง (เช้า/เย็น) ตลอดช่วง 2 เดือนแรก หลังจากนั้นจะลดเหลือแค่มื้อเดียว ส่วนการใช้รักษาคุณภาพน้ำ ใช้อัตราส่วน 3-5 ลิตร ต่อ 1 ไร่ โปรยทุก 5 วัน เกษตรกรที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่สถานีพัฒนาที่ดินสมุทรปราการ โทร.0-2313-4395-6 หรือฝ่ายเผยแพร่ฯ กรมพัฒนาที่ดิน โทร. 0-2579-8515.
ไชยรัตน์ ส้มฉุน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น