++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2548

บ้าน,- เมื่อยามฝนตก

1.บ้านไม้ในโอบพฤกษา
อีกทั้งผกา
เผยแย้มแซมซ่อน อาศัย

ใต้ถุนแขวนลอบเฝือกไซ
ข้างตีนกระได
ตุ่มน้ำมีตัวมังกร

กระโหลกกะลาสลอน
ทั้งหงาย-คว่ำ,นอน
คลุกฝุ่นหนุนดิน กินทราย

ลานดินมีวัวตัวควาย
เขาหักขาหาย
เพราะดินเหนียวแยกแตกรอย

มีม้าก้านกล้วยสำออย
หัวหักหางห้อย
เหมือนหิว ใบหญ้าหาน้ำ

มีบ้านหลังเล็กเด็กทำ
มีเรือหลายลำ
พับด้วยกระดาษสีขาว

ลำคลองเด็กเด็กเล็กยาว
ซึ่งแห้งทุกคราว
เมื่อน้ำมิ ได้ใส่เติม

มีแมวมีหมาหน้าเดิม
แต่ไก่สิเพิ่ม
ลูกเจี๊ยบจากไข่ในรัง

บ้านไม้มีใบไม้บัง
ในนามความหลัง
วัยเยาว์เจ้าไม่กลับ มา

2. ต่างถิ่นที่ผันมรรคา
กล่าวคำอำลา
อาลัยในบ้านเกิดกาย

แสวงหาหรือว่าสวรรค์หาย
เซซังกะตาย
เซซานซมซุกขุก เข็ญ

มีชีพที่เห็นและเป็น
คั่งสัตว์เลือดเย็น
มิรู้ร้อนหนาวอิ่มหนำ

มีฝันพลันลับกลับคำ
มีเงินครอบงำ
งุ่นง่านงกเงิ่นงุนงง

ในร้านเหล้าเปลี่ยวยังคง
ดื่มด่ำร่ำหลง
ปลอยทุกข์ปลุกจิตวิญญาณ์

ภายนอกฝนมิสร่างซา
กระทบหลังคา
และท้องถนน- ดนตรี

ดั่งฝนหล่นกลางฤดี
เจ็บปวดชีวี
น้ำตาหรือว่าน้ำฝน

กระหวัดคิดถึงบ้านตน
พร้อมหน้าตา-ยล
พ่อแม่พี่น้องบ้าน นั้น

ในยามสายฝนปรนฝัน
ผ้าผวยห่มพัน
อยู่ในโรงหนังสี่จอ

แมลงหนีฝนมาออ
คล้ายมาร้องขอ
อาศัยในบ้านสักคราว

แมลงหนีฝนคงหนาว
เด็กน้อยตาวาว
ก่อเกิดประกายความคิด

เอากลักไม้ขีดประดิษฐ์
แมลงตัวนิด
นอนอุ่นในบ้านหลังน้อย

เสร็จแล้วมองนอนตาปรอย
ค่อนเคลิ้มค่อยคล้อย
หลับทับบ้านน้อยหลังนั้น

3. จากร้านเหล้าเปลี่ยวในพลัน
ให้ฝนลงทัณฑ์
และ กลบสะอื้นกลืนน้ำตา ฯ

เรวัตร์ พันธ์พิพัฒน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น