ฟ้ามืดมนคำรนลั่นสนั่นหู
ฝนชิงชังพรั่งพรู จนเดือด พล่าน
ลมอาเพศกระหน่ำพัด วิบัติพาล
มนุษย์น้อยลนลานทรุดร่างลง
วาทกรรมแห่งความเงียบเริ่มระงม
แพร่กระจายตามสายลมที่พัด หลง
ประชาชนมิทนท้อ,ทระนง
สะบัดธงสัจธรรมไม่จำนน
แม้โองการแช่งน้ำเคยตราหน้า
เป็นไพร่ต่ำธรรมดามาทุกหน
แต่ความ คืดคือนิยาม ความเป็นคน
ทันเลศ, รู้เหตุผลให้พึ่งพา
ประวัติศาสตร์ มีบาดแผล,ความด่างพร้อย
"รัฐบุรุษ" เคยหลุดลอยไปลิบหล้า
" สันติ ประชาธรรม" ถูกบาทา
กระทืบตบลบค่าความเป็นคน
เสียงแห่งความเงียบจึงกระหึ่ม
ใต้ฟ้าอึมครึมด้วยเมฆฝน
บทเพลงเพื่อ ศักดิ์ศรีเสรีชน
กึกก้องมณฑล,พิทักษ์ธรรม
สดับฟังบ้างสิ เหล่าหิงสา
ฟังเสียงแห่งปวงข้า, ร้องร่ำ
มนาโศลกที่เรียงร้อยด้วยถ้อย คำ
อย่าเหยียบย่ำวิญญาณการเป็นคน
อย่าปิดปากปิดตาให้มืดตื้อ
อย่ามัดมือแล้วไล่ล่าโกลาหล
เอาความจริงมาตีแผ่แก่ผู้คน
เอาเหตุผลมาหักล้างอย่างสากล
อย่าเอา"ตัวแปร" ที่ได้เปรียบ
บรรทัดเทียบเพื่อกระทำความสับสน
อย่าอาศัยอภิสิทธ์อิทธิพล
ตัดสิน คนโดยโคตรกอเพื่อก่อกรรม
รูญ ระโนด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น