++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

สิ่งที่เรามีเหลืออยู่ วินทร์ เลียววาริณ

สิ่งที่เรามีเหลืออยู่
วินทร์ เลียววาริณ

เมื่อ ไคล เมย์นาร์ด อยู่ในท้องแม่นั้น หมอตรวจอัลตราซาวน์บอกว่าไม่พบขาของเขา แต่เมื่อดูอย่างละเอียดอีกที ก็พบว่ามีติ่งเล็ก ๆ ที่น่าจะเป็นขา

เมื่อไคลเกิดมา เขามี ‘ขา’ เล็ก ๆ ผิดสัดส่วนงอกที่ปลายตะโพก เขาไม่มีมือ แขนทั้งสองยาวแค่ครึ่งเดียว แต่ทารกน้อยดูปกติ น่ารักเหมือนเด็กทั่วไป ทำตัวทุกอย่างเหมือนทารกอื่น ๆ คลาน เล่นกับของเล่น ร้องไห้ หัวเราะ

ไคลมีน้องสาวสามคน แต่ไม่รู้สึกว่าตนเองแตกต่าง เล่นซ่อนหา เล่นน้ำด้วยกันอย่างมีความสุข เขาเป็นเด็กที่มีความสุข

ไคลต้องสวมแขนขาเทียมแต่เล็ก เขาไม่ชอบมันเลย เพราะทำให้เขาเล่นไม่สะดวก เขาขอให้แม่ถอดแขนขาเทียมของเขาออก เพราะมันทำให้เขาเคลื่อนไม่สะดวกและอึดอัด แม่ก็ยอมเขาตามนั้น

โดยที่ไม่มีแขนขาเทียม ไคลก็ปรับตัวโดยธรรมชาติ เขาเรียนรู้วาดรูป คัดลายมือ ฯลฯ พร้อมกับเพื่อน ๆ ทั้งหมดกระทำโดยการใช้ปลายแขน

เมื่อถึงเวลากินอาหาร พ่อใจแข็งไม่ยอมป้อนอาหารให้เขา บอกว่าหากไม่ลงแรงกินเอง ก็ให้อดตายไป และไคลก็ทำได้โดยคีบช้อนไว้ด้วยปลายแขน

ครั้งหนึ่งเขาบอกว่าอยากเล่นโรลเลอร์ โคสเตอร์ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอม ใครจะกล้าปล่อยให้คนที่นั่งรถเข็น ไม่มีแขนขา ขึ้นเล่นรถรางไถล? แต่พวกเขายังไม่รู้จักไคล!

ไคลไม่เคยคิดว่าตัวเองพิการ นอกจากเขาจะไม่ยอมนั่งเฉย ๆ ในรถเข็นแล้ว ยังชอบเล่นกีฬาหนัก ๆ ด้วย

ไคลเรียนเล่นฟุตบอลเมื่ออายุสิบเอ็ด เขาเล่นจริง ๆ โดยสวมถุงเท้า เนื่องจากเขาสวมรองเท้าปกติไม่ได้

เมื่อเขาบอกว่าจะเล่นมวยปล้ำนั้น หลายคนนึกหัวเราะในใจ

ครูสอนมวยปล้ำรับปากจะสอนให้ แต่บอกว่าจะไม่เห็นแก่หน้าเขา เพียงเพราะว่าเขาเป็นคนพิการ ไคลตกลง

แรก ๆ ที่เล่นมวยปล้ำ เขาพ่ายแพ้ตลอด แต่ไม่ยอมเลิก เขาเรียนรู้เทคนิคใหม่มวยปล้ำใหม่ ๆ ที่เหมาะกับสรีระของเขา

แล้วเขาก็เริ่มชนะบ้าง เขาไม่ปรานีใครในสังเวียนมวยปล้ำ คนที่คิดว่าจะโค่นคนพิการได้ง่าย ๆ นั้นต้องกลับไปคิดใหม่เสมอ

นอกจากเล่นมวยปล้ำแล้ว เขายังเคยได้รับตำแหน่งวัยรุ่นที่แข็งแรงที่สุด โดยการเล่นยกน้ำหนัก 240 ปอนด์

เขาใช้ชีวิตเช่นคนปกติ หรืออาจจะมากกว่าคนปกติอีกนับล้าน ๆ คนในโลกภายนอก เขาเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย สามารถพิมพ์ดีดเร็ว 50 คำต่อนาที โดยใช้ปลายแขน

เขามองโลกในแง่ดี มองว่าทุกอย่างเป็นไปได้เสมอ

โลกเรามีคนพิการทางกายภาพหลายล้านคน แต่คนพิการทางใจอาจมีมากกว่า

หลายคนตัดสินใจทันทีว่า หลายอย่างในชีวิตเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เมื่อไม่มีขาก็ต้องนั่งเก้าอี้เข็นไปตลอดชีวิต เมื่อไม่มีตา ก็ต้องมองไม่เห็นไปตลอดชีวิต เมื่ออกหักก็ต้องล้มตลอดไป ฯลฯ

ไคลบอกว่า “คนทั่วไปมักคิดว่าผมมีชีวิตที่ไม่ดี ผมมีครอบครัวที่สวยงามที่รักผม ทุกคนต้องดิ้นรนทั้งนั้น เพียงแต่ว่าการดิ้นรนของผมอาจเห็นชัดเจนกว่า ก็เท่านั้น”

เขาเป็นคนพิเศษอย่างยิ่งตรงที่เขาพยายามทำตัวเป็นคนธรรมดา บางครั้งในการกระทำเรื่องธรรมดา ต้องอาศัยความพิเศษอย่างยิ่ง

แน่ละ ไคลเกิดมาไม่ครบสามสิบสอง แต่จะว่าไปแล้ว เราทุกคนก็เกิดมาไม่ครบสามสิบสอง บางคนทางกายภาพ บางคนทางจิตใจ

หลายคนบ่นในโชคชะตา ชาติกำเนิดของตนเอง และโทษทุกอย่างรอบตัว ไม่เคยพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ แต่เมื่อมองดีๆ ลองเทียบกับคนอื่น ๆ เราจะพบว่ามีคนที่มีน้อยกว่าเราเสมอ

ขอเพียงเราเลิกบ่น และทำให้เต็มที่กับสิ่งที่เรามี เราอาจสร้างสรรรค์สิ่งดีงามได้มากกว่าคนที่พร้อมกว่า หรือมีครบทุกสิ่ง

บ่อยครั้งสิ่งที่เราที่เรามีเหลืออยู่สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้มากกว่าคนที่มีครบทุกอย่าง แต่ไม่ทำอะไร

วินทร์ เลียววาริณ, 15 เมษายน 2550
www.winbookclub.com

Kyle Maynard คนสู้ไม่มีถอย
http://topicstock.pantip.com/lumpini/topicstock/2011/06/L10629898/L10629898.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น