++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ดี? ไม่ดี? เทรนด์สุขภาพใหม่ "น้ำมันมะพร้าว"

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ย้อน หลังไปราวสิบปีมานี้ คนไทยที่ให้ความสนใจในข่าวสาร
จะต้องเคยได้ยินและรับทราบถึงกระแสการแห่ไปรับประทานน้ำลูกยอ
ที่ฮือโหมกระแทกแสกหน้าสังคมสุขภาพกราวใหญ่ ก่อนจะค่อยๆ ซาไป
เพื่อเปิดทางให้พายุลูกใหม่อย่าง "กระชายดำ"
เข้ามาแทนที่...กระแสกระชายดำเกี่ยวกระหวัดรัดรึงสังคมไทยได้สักพักก็ค่อยๆ
คลายตัวแทบจะในจังหวะเดียวกับที่ "แคปซูลมะรุมและแคปซูลขี้เหล็ก"
จะเข้ามาเป็นที่ฮือฮาให้ผู้ที่รักสุขภาพแบบ "ฮิตกินตามเทรนด์"
ควักกระเป๋าหาซื้อมาทดลองบำรุงกันทั่วบ้านทั่วเมือง

ขณะนี้ล่วงเข้าไตรมาสสุดท้ายของปี พ.ศ.2552
เทรนด์สุขภาพได้ย้ายมาหยุดอยู่ที่น้ำมันมะพร้าวแบบหีบเย็น
หรือที่รู้จักในนาม เวอร์จิ้นโคโค่นัทออยล์
ที่หันไปทางไหนก็มีแต่เสียงที่ชักชวนให้ลอง
บางคนลองแล้วได้ผลก็มาบอกต่อผ่านสื่อต่างๆ เริ่มจากวงแคบๆ แบบปากต่อปาก
ไปจนถึงการโพสต์ลงอินเทอร์เน็ต
ทำให้กระแสฮิตกินน้ำมันมะพร้าวไปเร็วและขยายไกลเหมือนไฟลามทุ่ง
และในขณะที่มีผู้นิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในทางตรงกันข้าม
ก็มีผู้รักสุขภาพบางรายยังสงสัยและไม่แน่ใจถึงสรรพคุณที่แท้จริงของน้ำมัน
มะพร้าวหีบเย็นนี้


รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน คณบดีคณะสหเวชศาสตร์
และผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เล่าเท้าความเกี่ยวกับ "น้ำมันมะพร้าว" ในสังคมไทย ว่า ก่อนหน้านี้ ราวๆ
สามสิบปีที่แล้ว
ประเทศไทยเกิดกระแสความกลัวที่จะเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด
ซึ่งเป็นความกลัวที่ส่งผ่านมาจากประเทศในซีกโลกฝั่งตะวันตก
และโยนบาปทั้งหมดลงไปที่น้ำมันมะพร้าว
ด้วยเหตุที่น้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันพืชที่มีกรดไขมันอิ่มตัวสูงที่สุดคือมี
อยู่ราวๆ 80-90%
ทำให้กิจการสวนมะพร้าวของบรรดาเกษตรกรทั้งหลายพังกันไปเป็นแถบๆ

"ทั้งที่แต่โบราณมา
คนไทยใช้มะพร้าวเป็นส่วนประกอบหลักในการทำอาหาร
แต่เมื่อกระแสกลัวเป็นโรคหัวใจเมื่อสักสามสิบปีก่อนเข้ามา
คนก็เลยเลิกกินน้ำมันมะพร้าวไปเลย
ที่เล่าให้ฟังนี่เพื่อจะได้ให้เห็นภาพจากแง่บวกสู่แง่ลบแล้วก็กลับมาบวกอีก
อันนี้เป็นเรื่องของกระแส จากที่กินกันเป็นปกติ
กลายมาเป็นผู้ร้ายที่จะก่อให้เกิดโรคหัวใจ จนทุกวันนี้จู่ๆ
มันก็กลับชาติมาเกิดเป็นพระเอกเสียอย่างนั้น"

รศ.ดร.วินัย ให้ภาพการถาโถมของกระแสการกินน้ำมันมะพร้าวในปัจจุบัน
ว่า เกิดจากกระแสของคนกลุ่มเล็กๆ ที่มองว่า
น้ำมันมะพร้าวเป็นอาหารมหัศจรรย์ โดยมุ่งประเด็นไปในมุมมองที่ว่า
ในน้ำมันมะพร้าวมีกรดไขมันขนาดความยาวไม่เกิน 12 คาร์บอน
ซึ่งมีลักษณะเมตาบอลิซึมเหมือนน้ำตาล ย่อยได้ที่ตับ ไม่ตกค้างเป็นไขมัน
และในบางกลุ่มที่นิยมกินน้ำมันมะพร้าว เชื่อว่า
กรดไขมันนี้จะดึงเอาพลังงานเก่ามาใช้ ช่วยให้ลดไขมันและลดความอ้วนได้

รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน

"ข้อจำกัดของกรดไขมันขนาดกลางอยู่ที่จะถูกทำลายเมื่อโดนความร้อน
ภาคธุรกิจจึงได้คิดค้นกรรมวิธีการสกัดน้ำมันมะพร้าวแบบไม่ใช้ความร้อนหรือ
ที่เรียกว่า "หีบเย็น" ก็ได้ออกมาเป็นน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์พอสมควร
ก็คือ เวอร์จิ้นโคโค่นัทออยล์ ซึ่งราคาขวดละหลายร้อย
ในขณะที่น้ำมันมะพร้าวที่เรานำมาทอด
มาผัดแต่เดิมมันอยู่แค่ขวดละไม่กี่สิบบาท
มันเป็นเรื่องของธุรกิจและการโฆษณา คนก็แห่กันไปซื้อมากิน
แต่การกินก็จะเป็นลักษณะแบบ เอามาใส่แคปซูลบ้าง เพราะกินสดๆ
มันค่อนข้างหืน หรือบางคนก็จิบๆ เอาเหมือนกินยาแก้ไอ"

คณบดีคณะสหเวชศาสตร์ จุฬาฯ
ยืนยันว่ายังไม่มีการศึกษาวิจัยและรับรองผลการกินน้ำมันมะพร้าวหีบเย็นนี้
ว่ามีผลดีต่อร่างกายแต่อย่างใด
ทางคณะเองก็ได้ทดลองและศึกษาวิจัยในประเด็นนี้ ผลก็ออกมาว่า
กระแสความเชื่อที่เชื่อกันว่าเวอร์จิ้นโคโค่นัทออยล์
สามารถลดคอลเลสเตอรอล ลดความอ้วน ลดไขมันตัวร้าย
ไม่เป็นความจริงตามคำโฆษณาแต่อย่างใด

"เรา ทดลองกันเอง คือมันมีกรดไขมันขนาดกลางจริง
แต่การกินในปริมาณน้อยๆ ที่นิยมกินกันแบบ สองช้อนชา
หรือใส่แคปซูลวันละไม่กี่ซีซีนั้นไม่ได้ผลตามที่เชื่อกัน
คือถ้ากินมากกว่านั้นมันอาจจะได้ผลก็ได้ เช่น เอาไปทำน้ำสลัด
แต่ด้วยราคาที่ขวดละสองสามร้อยบาทมันไม่เอื้อให้เรากินทีละมากๆ
อย่างถ้าทำน้ำสลัด มันจะกลายเป็นว่าน้ำสลัดจะแพงกว่าสลัดทั้งจาน
มันมีวิธีอีกมากมายที่จะลดคอลเลสเตอรอล และทำให้สุขภาพดี
ไม่ใช่มีแค่การกินน้ำมันเวอร์จิ้นโคโค่นัทออยล์ คือ ง่ายที่สุด
ไม่เสียเงิน ออกกำลังกายครับ ร่างกายแข็งแรงแน่นอน
แล้วก็ควบคู่ไปกับกินผักผลไม้ กินไฟเบอร์ กินอาหารที่มีกากใย กินกระเทียม
กินธัญพืชไม่ขัดสี ลดการกินเนื้อสัตว์ เท่านั้นก็ได้ทั้งสุขภาพดี
น้ำหนักลด คอลเลสเตอรอลลด ไขมันลด ไม่แพง ไม่ยุ่งยาก
มีงานวิจัยรองรับว่าได้ผลปลอดภัย"

รศ. ดร.วินัย สรุปทิ้งท้ายด้วยว่า
แม้จะศึกษาวิจัยกระแสการกินน้ำมันมะพร้าวหีบเย็นออกมาได้ผลเช่นนี้
ก็ยังนับว่ามีข้อดี คือสังคมจะได้เรียบรู้ว่า No Good Food, No Bad Food
and No Super Food คือไม่มีอาหารใดที่ดีไปหมดทุกอย่าง
ไม่มีอาหารใดเลวไปหมดทุกอย่าง แต่ไม่มีอาหารใดที่จะมหัศจรรย์ไร้ที่ติ
แต่มันขึ้นอยู่กับการนำไปใช้

4 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ25 มกราคม 2553 เวลา 08:30

    น้ำหนัก 60กิน 3 ช้อนโต๊ะ เกินใช้ 4 ช้อนโต๊ะ ก่นอาหารมือหนัก 20 นาที น้ำสะอาดตาม ได้ผลจริงทดลองมาแล้ว อยากเร็วก็ใช้บุบเสริมเข้าไปอีก จากการศึกษา น้ำมันมะพร้าวมันจะไปกระตุ้นให้หลั่งสารเลปติน ที่จะสั่งให้อิ่ม และน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นจะเข้าไปในตับเปลี่ยนเป็นพลังงานทันที เมื่อกินน้อยร่างกายมันจะดึงไขมันส่วนเกินออกมาใช้ ก็เท่ากับเป็นการลดหรือควบคุมน้ำหนัก อาจารย์ได้ศึกษาถ่องแท้หรือเปล่า

    ตอบลบ
  2. สรุปการบรรยายประชุมวิชาการกรมพัฒน์ (วันพุธ)
    เรื่อง "บทบาทของนำมันมะพร้าวต่อสุขภาพ และความงาม"
    โดย ดร.ณรงค์ โฉมเฉลา
    วันที่ 30 พฤศจิกายน 2548 เวลา 10.00-12.00 น.
    ณ ห้องประชุมเบญจกูล อาคารสถาบันการแพทย์แผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข

    http://www.dtam.moph.go.th/alternative/viewstory.php?id=360

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ20 พฤษภาคม 2553 เวลา 20:23

    จากการศึกษาก็ว่ามันไปกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารเลปตินมากขึ้นในกรณีคนมีสารนี้อยู่แล้วแต่ทำงานไม่ปกติ (บางคนไม่มีเพราะพันธุกรรม)เมื่อหลั่งมากสารนี้จะทำให้อิ่มเร็วและอิ่มนาน และตับนำไปใช้เป็นพลังงานได้เลย เมื่อกินได้น้อย ทำงานหรือออกกำลังพลังงานเกิดการเผาผลาญไม่ไม่เพียงพอ ตับและร่างกายจะถึงไขมันส่วนเกินมาใช้ ทำให้ไขมันหน้าท้องและทั่วร่างกายหดหายไปด้วย น้ำหนักก็ลด(ฮอร์โมนเลปตินสร้างขึนโดยเซลล์เนื้อเยื่อไขมัน(adipose tissue)และเยื่อในลำไส้ ทำหน้าทีส่งสัญญาณไปยังสมองส่วนควบคุมความหิว ไฮโปทาลามัส(hypothalamus)เพื่อกระตุ้นให้รู้สึกอิ่มหรืออยากอาหารน้อยลง กินน้อยมันก็ย้อนไปถึงการนำไขมันส่วนเกินมาใช้นำหนักลดตามกล่าวข้างต้น ไม่เข้าใจไปที่ anut111@hotmail.com

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ20 พฤษภาคม 2553 เวลา 20:51

    ข้อเท็จจริง มีคนอายุประมาณ47ปีเป็นหญิง อยากลดน้ำนักเข้ามาที่ร้าน บอกว่าอยากลดน้ำหนักก็เลยเอาน้ำมันมะพร้าวสกัเย็นให้ไปดื่มวันละ 4 ช้อนโต๊ะก่อนอาหารมื้อหนัก ประมาณ6 วันต่อมาเธอก็มาอีกบอกโอเค แต่อยากให้เร็วกว่านี้และให้บุกไปอีก 1 ขวด หายหน้าไปเลย คงสเลนเดอร์ไปแล้ว
    อีกคนเมลล์มา บอกเป็นไขมันพอกตับ ค่า SPOT 380 (ปกติไม่เกิน 50)ก็จัดน้ำมันมะพร้าวฯให้ 2ขวด รวม 1,000 ซีซี น้ำผึ้ง และแคปซูลใต้ใบ 2กระปุก เจี้ยวกู้หลานไปชงทาน ไม่ถึง 15 วันเมลล์มาบอว่า ค่า SPOTเหลือ 52 ค่า LDL ลดลง HDL สูงขึ้น เจ้าตัวดีใจใหญ่ นี่คือมหัศจรรย์น้ำมันมะพร้าว สาวๆมาซื้อทีละสามขวด ทา อม กินเพื่อลด กินเพื่อสุขภาพ จาก rugcheevit.com หรือ anunt111@hotmail.com เคยใช้กับตัวเองทั้ง อม ทา นวด กิน ทุกวัน เอวเดิม 34 ปัจจุบัน 29.5 นิ้ว (พอแล้วแต่ยังใช้ต่อไปเพื่อสุขภาพ)ใครสงสัยถามมาได้ครับท่าน

    ตอบลบ