++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552

กลอนอ่านแล้วกินใจ สะท้อนถึง

กลอนอ่านแล้วกินใจ สะท้อนถึง
ความหมายได้ลึกซึง แด่สรรพสัตว์
ที่เกิดมาเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ ร่วมกรรม
กลอนปล่อยสัตว์
เครื่องมือลงอาญาของตัวไหม

ผ้าต่วนแพรต่างทักทอด้วยใยไหม เราสวมใส่ด้วยนิยมสมศักดิ์ศรี
ถ้าจะคิดให้ลึกซึ้งคงทราบดี ผ้าสวยนี้กรรมวิธีมีเช่นไร
เขาใช้ไหมมีชีวิตใส่หม้อต้ม สัตว์ตายล้มเพราะแพรพรรณอันสดใส
ต้องพลีชีพเพื่อความนิยมให้สมใจ โปรดคิดใหม่ใช้ใยรักถักทอแทน

เพชฌฆาต

เกล็ดของปลาเปรียบเสมือนเล็บมนุษย์ ถ้าเล็บหลุดสุดเจ็บปวดอย่างมหันต์
ต้องหาหมอทำแผลดูแลกัน แต่สัตว์นั้นไม่มีปัญญารักษาตน
เราขอดเกล็ดปลาเป็นเห็นธรรมดา แต่อนิจาหารู้ไม่เขาเจ็บล้น
ต้องเกลือกกลิ้งดิ้นหนีน้ำมือคน สุดจะทนภาพเช่นนี้มีทุกวัน
ถ้ามนุษย์หยุดทำร้ายทำลายสัตว์ โลกคงจัดอยู่ในทางที่สร้างสรรค์
ยึดมั่นอยู่ในศีลชั่วชีวัน รับประทานมังสวิรัติกันทั้งครอบครัว

ขนของแม่

แม่เพิ่งคลอดลูกนี้สี่ชีวิต คนอำมหิตปลิดชีวีแม่ดับสิ้น
เหลือแต่กองขนไก่บนพื้นดิน ลูกจำกลิ่นแม่ได้ไม่คลายจาง
ต่อนี้ไปจะมีใครกางปีกปก ลูกมีอกแม่อุ่นไม่เคยห่าง
โอ้แม่จ๋าลูกมีแม่เคยนำทาง ลูกอ้างว้างเพราะใครหนอเขาก่อเวร

พลัดพรากจากกันและตายจากกัน

ภาพแม่แพะถูกจูงไปเข่นฆ่า เหมือนรู้ว่าต้องพรากจากลูกขวัญ
แม่กับลูกต่างมองหน้ากันและกัน ต่างโศกศัลย์เศร้านักความรักเรา
แม่จ๋าอย่าไป อย่าไป ให้เขาฆ่า จงกลับมาอยู่กับลูกให้คลายเหงา
ในที่สุดแม่ต้องไปจากพวกเรา เป็นเรื่องเศร้าพลัดพรากตายจากกัน
ถ้ามนุษย์หยุดฆ่าหยุดรับประทาน คงไม่ต้องถูกประหารอย่างหฤหรรษ์
คงไม่ต้องเห็นภาพบาดชีวัน ต้องยึดมั่นศีลข้อหนึ่งพึงจดจำ

วิงวอนขอชีวิต

เสียงทอดถอนโทมนัสพ่อโคเฒ่า นั่งคุกเข่าวอนเพชฌฆาตขอชีวิต
มีดขาววับระดับคอรอชีพปลิด ในดวงจิตปวดร้าวน้ำตาริน เคยรับใช้ไถนามานานปี
ไม่เคยมีความชอบช่างลืมสิ้น ต้องถูกฆ่าเป็นอาหารให้เขากิน
ชั่วชีวินวัวควายอาหารคน ประพันธ์โดย ประภาพรรณ เสน่ห์มิตร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น