++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เคาะข่าวริมโขง : สับแหลก "ชายจืด" แหลซึ่งหน้า ชมม็อบถ่อยภูมิซรอล โยนบาปใส่คณะทวงคืน พท.4.6 ตร.กม.

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

รายการ "เคาะข่าวริมโขง" ออกอากาศทาง "อีสานทีวี" ช่วงเวลา 18.30-20.30
น.วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม มี นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย
เป็นผู้ดำเนินรายการหลัก และเชิญ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก
มาร่วมเป็นพิธีกรรับเชิญ ส่วนแขกที่ร่วมพูดคุยในวันนี้ ได้แก่ นายโสภณ
องค์การณ์ อดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น
และหนึ่งในพิธีกรรายการ NEWS HOUR สุดสัปดาห์ ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี
นายประพันธ์ คูณมี กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ รวมทั้ง พ.อ.ไพโรจน์
นิยมพันธ์ อดีตเสนาธิการกองทัพบก มาวิเคราะห์ถึงประเด็นข่าวที่น่าสนใจ
ซึ่งมีหลากหลายหัวข้อ ไม่ว่าจะเป็น กรณี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
อดีตนายกรัฐมนตรี และมีศักดิ์เป็นน้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
พร้อมบริวารทาสทักษิณ ได้เดินทางไปเยี่ยม
รวมถึงแจกเงินสดตบรางวัลให้ชาวบ้านภูมิซรอล ที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
ซึ่งก่อนหน้านี้ เคยจัดตั้งม็อบมาดักทำร้ายคณะผู้เดินทางไปทวงคืนพื้นที่
4.6 ตร.กม.รอบปราสาทเขาพระวิหาร

นอกจากนี้ ยังกรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
ออกมายืนยันว่า จะให้ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ
มาทำหน้าที่เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แทน นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์
ที่ลาออกตำแหน่งไปก่อนหน้านี้ ส่วนผู้ที่จะไปทำหน้าที่รองนายกรัฐมนตรี
ดูแลด้านเศรษฐกิจแทน นายกอร์ปศักดิ์ คือ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี

น.ส.อัญชะลี กล่าวเปิดประเด็น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
เดินทางไปให้กำลังใจชาวบ้านภูมิซรอล
ที่เคยจัดตั้งม็อบมาดักทำร้ายคณะผู้เดินทางไปทวงคืนพื้นที่ 4.6
ตร.กม.รอบปราสาทเขาพระวิหาร โดยกรณีนี้ นายประพันธ์ กล่าวเสริมว่า วันนี้
นายสมชาย ได้เดินทางไปพร้อมลิ่วล้อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
อดีตนายกรัฐมนตรี อาทิ นายนพดล ปัทมะ
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ นายสุพล ฟองงาม
อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.)
ซึ่ง นายสมชาย ได้พูดคุยกับชาวบ้าน พร้อมกล่าวหาว่า
คณะผู้เดินทางมาทวงคืนพื้นที่ 4.6
ตร.กม.เป็นผู้บุกรุกที่เข้ามาสร้างความเดือดร้อนให้แก่คนในพื้นที่
ทั้งนี้ ตนฟังที่ นายสมชาย พูดแล้วถึงกลับอึ้ง
เพราะไม่ว่าคำพูดเหล่านี้จะหลุดมาจากปากคนที่เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้พิพากษา
การกระทำของ นายสมชาย และลิ่วล้อ พ.ต.ท.ทักษิณ แสดงให้เห็นว่า
เห็นด้วยกับพฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และควรกระทำ
ทั้งที่คนกลุ่มคนไม่มีสิทธิ์จะไปทำร้ายผู้อื่นตามอำเภอใจ
เนื่องจากถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และไร้มนุษยธรรม

พ.อ.ไพโรจน์ กล่าวเสริมว่า นายสมชาย พื้นเพเป็นคนภาคใต้
แต่นิสัยกลับต่างกันราวเป็นดิน เพราะแท้จริงแล้วคนภาคนี้เป็นคนยุติธรรม
จริงใจและกล้ายอมรับผิด
แต่สิ่งที่นายสมชายเป็นเต็มไปด้วยความชั่วร้ายอยู่ในตัว
แม้จะเป็นถึงอดีตผู้พิพากษาแต่กลับทำตัวช่วยพวกโจร
ซึ่งตนไม่กล่าวโทษสถาบันการศึกษา ที่ นายสมชาย ร่ำเรียนจนจบมา
หากจะต่อว่าคงต้องฝากไปถึง นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือ เจ๊แดง
ที่เป็นน้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะคนๆ นี้ได้ครอบงำ นายสมชาย
จนไม่เหลือความดี หรืออุดมการณ์ของอดีตผู้พิพากษา มิหนำซ้ำ
ยังเคยเป็นถึงนายกรัฐมนตรีบริหารประเทศ
นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายกับยศและตำแหน่งสูงๆ แต่ทำตัวไม่คู่ควร

น.ส.อัญชะลี กล่าวว่า นอกจากนี้ นายสมชาย
ยังได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
และไม่เห็นด้วยกับการเอาเงินจำนวน 2,000 ล้านบาท
ไปใช้เพื่อทำประชามติฟังความคิดเห็นประชาชน
โดยอ้างว่ารัฐใช้เงินก้อนโตแลกกับการซื้อเวลาบริหารประเทศ

กรณีนี้ นายประพันธ์ กล่าวว่า ตอนนี้พรรคเพื่อไทย ชักสับสนไปหมด
ไร้จุดยืนในทางความคิด ร.ต.อ.เฉลิม พูดเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกอย่าง
พ.ต.ท.ทักษิณ พูดอีกอย่าง ทางด้าน นายวิทยา บุรณศิริ
ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน พูดไปอีกอย่าง
จึงทำให้เกิดความสับสนไปหมด ไม่รู้ว่ามีจุดยืนเรื่องนี้อย่างไร ดังนั้น
ตนอยากให้ไปพูดคุยหรือปรึกษากันให้ดีก่อน แล้วออกมาแสดงจุดยืนเรื่องนี้

พ.อ.ไพโรจน์ กล่าวเสริมว่า เหตุผลที่พรรคเพื่อไทย
อยากให้ประเทศไทยกลับมาใช้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540
เนื่องจากถือเป็นรัฐธรรมนูญที่เอื้อประโยชน์ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ
โกงกินชาติบ้านเมืองมากที่สุด
อีกทั้งยังเป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่มีความเข้มข้นในการเอาผิดนักการเมืองชั่ว
จึงทำให้เห็นพฤติกรรมที่ส่อไปทางไม่ดีอย่างต่อเนื่อง
สำหรับรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ถือว่ามีจุดเด่นที่แตกต่างจากปี 2540
เนื่องจากมีกฎหมายที่ปราบกลโกงนักการเมืองที่กระทำความผิดต่อบ้านเมืองได้ดี
ยิ่งกว่า

นายโสภณ กล่าวเสริมกรณีเดียวกัน ว่า เวลานี้พรรคเพื่อไทย
ดูจะแตกแยกกันทางความคิด มีหลายฝ่ายความเห็นไม่ลงรอยกัน โดยวันนี้
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้ลาออกจากการเป็นประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย
เพราะมีกระแสข่าวว่าผิดใจทางความคิดกับประธานวิปฝ่ายค้าน ซึ่งสำหรับตน
หากถามว่า รัฐธรรมนูญปี 2540 หรือ ปี 2550 ฉบับไหนดีกว่ากัน ตนคิดว่า ปี
2550 ดีกว่า เพราะมีการทำประชามติ ถามความคิดเห็นประชาชน และทำให้
พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้ที่โกงกินชาติบ้านเมือง จองจำอยู่ต่างประเทศได้
ตนถือว่าเป็นฉบับที่ดีกว่าปี 2540

ช่วงต่อมา น.ส.อัญชะลี กล่าวถึงกรณี นายอภิสิทธิ์ ยืนยันจะให้
นายกอร์ปศักดิ์ มาทำหน้าที่เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แทน นายนิพนธ์
พร้อมพันธุ์ ที่ลาออกตำแหน่งไป ส่วนผู้ที่จะไปทำหน้าที่รองนายกรัฐมนตรี
ดูแลด้านเศรษฐกิจแทน นายกอร์ปศักดิ์ คือ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี
โดยประเด็นนี้ นายโสภณ กล่าวว่า ต้องถาม นายอภิสิทธิ์ ว่าการให้
นายกอร์ปศักดิ์ มาทำหน้าที่ดังกล่าว มีใครสั่งการอยู่เบื้องหลังหรือไม่
ซึ่งเรื่องนี้มีแต่นายกรัฐมนตรีเท่านั้น ที่จะตอบคำถามได้
แต่ส่วนตนรู้สึกการที่ นายกอร์ปศักดิ์ มาทำหน้าที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ก็มีส่วนดี เพราะ นายกอร์ปศักดิ์ เป็นผู้ทำงานละเอียดรอบคอบ
น่าจะให้การตามใจพรรคร่วมรัฐบาลในการขออนุมัติโครงการต่างๆ
ได้รับการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบมากขึ้น

พ.อ.ไพโรจน์ กล่าวเสริมว่า ตนอยากฝากถึงการทำหน้าที่ของ
นายไตรรงค์ ว่า ควรจะยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ เพราะเห็นว่า ที่ผ่านมา
นายไตรรงค์ มักใจดีกับภาคเอกชน
แต่บทบาทที่จะก้าวขึ้นไปเป็นถึงรองนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ
ดังนั้น ต้องมีความใจแข็ง และเด็ดเดี่ยวมากกว่านี้
เพื่อควบคุมปัญหาการทุจริตโครงการต่างๆ ของรัฐให้มีวงจำกัดมากขึ้น


http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9520000119970

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น