เมื่อสัปดาห์ ก่อนได้กล่าวถึงอาการของต่อมลูกหมากโตกันไปแล้ว
แม้จะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่หากเกิดอาการที่รบกวนคุณภาพชีวิต
ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยนะคะ
วันนี้มาติดตามวิธีรักษาต่อมลูกหมากโตที่ถูกต้องเหมาะสมสำหรับแต่ละคนค่ะ
วิธีการรักษาต่อมลูกหมากโต
1.หากอาการไม่มากนัก แพทย์จะรอดูอาการและแนะนำวิธีการปฏิบัติตัว ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการกลั้นปัสสาวะเพราะจะทำให้มีอาการมากขึ้น
- ก่อนนอนอย่าดื่มน้ำมากและให้ปัสสาวะก่อนเข้านอน
เพื่อจะได้ไม่ต้องตื่นมาปัสสาวะตอนกลางคืนบ่อยๆ
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะจะทำให้ปัสสาวะมาก
- ไม่ควรนั่งจักรยานหรือทำอะไรที่สะเทือนต่อมลูกหมาก อาจทำให้ปัสสาวะไม่ออก
- ถ้าเป็นไปได้ควรมีการร่วมเพศบ้าง
น้ำเชื้อที่ออกมาจะทำให้ต่อมลูกหมากไม่บวม
- แพทย์มักแนะนำไม่ให้รับประทานยาลดน้ำมูก
เพราะผลข้างเคียงของยาจะทำให้ปัสสาวะไม่ออก
นอกจากนี้
ควรไปพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอเพื่อประเมินว่าต่อมลูกหมากโตเกิดปัญหาต่อ
สุขภาพหรือยัง ผู้ป่วยที่ต่อมลูกหมากโตไม่มากประมาณ 1 ใน 3
อาการจะดีขึ้นเองได้ หากมีอาการผิดปกติมากขึ้น
จึงจะเริ่มให้การรักษาด้วยยา
2.การรักษาด้วยยา
บางชนิดเป็นยาที่ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณต่อมลูกหมากคลายตัว
ลดอาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อที่บีบรัดท่อปัสสาวะ
ขยายหลอดเลือดทำให้ความดันโลหิตลดลงและทำให้ปัสสาวะคล่องขึ้น
บางชนิดเป็นยาที่ทำให้ขนาดของต่อมลูกหมากเล็กลง
มีผลข้างเคียงคือความต้องการทางเพศลดลงด้วย แต่เมื่อหยุดยา
ความต้องการทางเพศก็จะกลับมาเป็นปกติ
3.การรักษาด้วยการผ่าตัด
- การใช้พลังงานความร้อนจากเลเซอร์ คลื่นไมโครเวฟ หรือคลื่นวิทยุ
ทำให้เนื้อต่อมลูกหมากฝ่อลง โดยใส่เครื่องมือผ่านทางท่อปัสสาวะ
การรักษานี้จะทำให้ปัสสาวะไหลดีขึ้น
และไม่ทำให้เกิดปัสสาวะเล็ดหรือความรู้สึกทางเพศลดลง
แต่อาจไม่ได้ผลหากต่อมลูกหมากโตมาก
- Transurethral Resection of the Prostate (TURP)
คือการใส่เครื่องมือเข้าทางท่อปัสสาวะ
และใช้เครื่องมือตัดเนื้อต่อมลูกหมากออกเป็นชิ้นเล็กๆ
วิธีการนี้ยังคงเป็นการรักษาที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง
- Transurethral Incision of the Prostate (TUIP)
ใช้ในกรณีที่ต่อมลูกหมากไม่โตมาก โดยใส่เครื่องมือเข้าทางท่อปัสสาวะ
แล้วกรีดต่อมลูกหมาก 2-3 รอย ไม่มีการตัดชิ้นเนื้อต่อมลูกหมาก
วิธีนี้จะช่วยลดความดันในต่อมลูกหมาก ทำให้ปัสสาวะออกง่ายขึ้น
- การผ่าตัดผ่านทางหน้าท้องเอาต่อมลูกหมากออก ใช้ในกรณีที่ต่อมลูกหมากโตมาก
- การขยายท่อปัสสาวะส่วนที่ต่อมลูกหมากอยู่โดยการใช้บัลลูน
วิธีนี้จะทำให้ปัสสาวะไหลดีขึ้น
แต่มีข้อเสียคืออาจจะมีเลือดออกและเกิดการติดเชื้อได้
เมื่อใดควรผ่าตัดต่อมลูกหมากโต
- ปัสสาวะไม่ออก
- ปัสสาวะล้นไปที่ไต ทำให้ไตเสื่อม
- มีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะบ่อย
- มีเลือดออกในทางเดินปัสสาวะ
- มีนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
การปฏิบัติตัวหลังการผ่าตัด
หลัง การผ่าตัดจะมีเลือดออกได้หลายวัน ต้องนอนโรงพยาบาลประมาณ
3-10 วันโดยมีการคาสายสวนปัสสาวะไว้เพื่อให้กระเพาะปัสสาวะได้หยุดพัก
รอให้แผลภายในหายดีขึ้น หลังจากนำสายสวนปัสสาวะออก
จะสามารถปัสสาวะได้คล่องกว่าเดิม และอาการดีขึ้นเรื่อยๆ ภายใน 2-4
สัปดาห์
ระหว่างที่แผลผ่าตัดยังไม่หายดี มีข้อควรปฏิบัติดังนี้
- ดื่มน้ำมากกว่าวันละ 8 แก้ว
- รับประทานผักและผลไม้ให้มากเพื่อป้องกันท้องผูก
- อย่าเบ่งถ่ายอุจจาระแรงๆ
- อย่ายกของหนัก
- หลีกเลี่ยงการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร
อาการแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด
- หลังจากนำสายสวนปัสสาวะออก
จะรู้สึกว่าปัสสาวะแรงขึ้นและอาจมีอาการปวดขัดในช่วงแรก
- ช่วงแรกหลังการผ่าตัดจะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
- อาจจะมีเลือดออกได้ หากปัสสาวะมีเลือดออกไม่หยุดให้ปรึกษาแพทย์
- เมื่อร่วมเพศและถึงจุดสุดยอด จะไม่มีการหลั่งน้ำออก
เนื่องจากน้ำเชื้อจะไหลกลับเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งไม่อันตราย
การผ่าตัดไม่ทำให้ความรู้สึกทางเพศลดลงและไม่มีผลต่อการแข็งตัวของอวัยวะเพศ
หลังการรักษา ต่อมลูกหมากอาจโตขึ้นอีกได้ และยังไม่มีวิธีป้องกัน
เพราะยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดที่ทำให้ต่อมลูกหมากโตขึ้น
ชายที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรตรวจสุขภาพประจำปี
รวมถึงการตรวจต่อมลูกหมาก
ซึ่งจะตรวจได้ทั้งต่อมลูกหมากโตและมะเร็งต่อมลูกหมาก
ซึ่งพบได้ในผู้ชายสูงอายุเช่นกัน
ติดตามฟังรายการ "Happy & Healthy"
ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00-12.00 น.
ทางคลื่นของประชาชน FM 97.75 MHz
และ www.managerradio.com
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000121767
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น