++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เคาะข่าวริมโขง : มวลชนร่วมจุดเทียนเล่มแรกกำเนิดพรรค ก.ม.ม. โหวต "สนธิ" นั่งเก้าอี้ผู้นำ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

รายการ "เคาะข่าวริมโขง" ออกอากาศทาง "อีสานทีวี" ช่วงเวลา
18.30-20.30 น.วันอังคารที่ 6 ตุลาคม มี นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย และ
น.ส.วรรษมน ช่างปรีชา พิธีกรคนใหม่ที่มาทำหน้าที่ดำเนินรายการแทน
นายประพันธ์ คูณมี และน.ส.อัญชะลี ไพรีรัก
ติดภารกิจไปรับใช้พี่น้องพันธมิตรฯ ในบทบาทอื่นๆ

ทั้งนี้ วันนี้ได้มีการเชิญ อ.สันติ ตั้งรพีพากร นักวิชาการอิสระ
มาเป็นแขกรับเชิญร่วมพูดคุยถึงบทบาทพรรคการเมืองใหม่
ซึ่งวันนี้มีการจัดประชุมใหญ่ครั้งแรก
โดยบรรดาสมาชิกพรรคทั่วทั้งประเทศเดินทางมาร่วมลงคะแนนเลือกหัวหน้าพรรคและ
กรรมการบริหารพรรคด้วยวิธีโปร่งใสสุจริตทุกขั้นตอน

ช่วงต้นรายการ อ.สันติ กล่าวว่า การประชุมของพรรคการเมืองใหม่
ถือเป็นปรากฏการณ์และเหตุการณ์สำคัญ
ที่ผู้คนมากมายซึ่งเป็นสมาชิกพรรคจากทั่วประเทศ
ได้เดินทางมารวมตัวกันเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคด้วยตนเอง
โดยแตกต่างจากที่ผ่านมา ซึ่งมีการจ้างคนมาประชุมกันโหวตเลือก
แต่ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นหรือใช้สิทธิ์ตามระบอบประชาธิปไตยได้อย่างแท้
จริง ทั้งนี้ ตนเห็นว่า การขับเคลื่อนของพรรคการเมืองใหม่
เป็นการสร้างรากฐานการเมืองในอีกมติหนึ่ง
ที่เปิดโอกาสให้มวลชนได้แสดงพลังและเป็นเจ้าของพรรคการเมืองได้อย่างแท้จริง

ต่อจากนั้น ทางรายการได้ต่อสายสัมภาษณ์สด นายประพันธ์ คูณมี
หนึ่งในกรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ที่เพิ่งได้รับโหวตเลือกมาสดๆร้อนๆ
โดย นายประพันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้
เลือกกรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่เสร็จสิ้นแล้ว
โดยขั้นตอนการคัดเลือกจะดำเนินการอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม
และเปิดโอกาสให้ประชาชนอย่างเต็มที่ ทั้งนี้
ในส่วนการลงคะแนนได้จัดการอย่างเป็นระบบ
มีการลงคะแนนลับและนำไปใส่หีบบัตรเรียบร้อย
จากนั้นจะผลคะแนนที่ได้ไปรวบรวม
พร้อมทั้งประกาศสู้สาธราณชนให้สมาชิกพรรคทราบผล

นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า
ที่ผ่านมามีคนถามตนว่าการเมืองเก่ากับการเมืองใหม่แตกต่างกันอย่างไร
วันนี้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าการเมืองใหม่มีประชาชนเป็นเจ้าของ
สามารถแสดงสิทธิในการแสดงออกได้อย่างชัดเจน ระบบพรรคการเมืองเก่า
สมาชิกพรรคอาจไม่มีโอกาสได้สัมผัสแล้วคุ้นเคยกับหัวหน้าพรรค
แต่สำหรับพรรคการเมืองใหม่
มีการเลือกหัวหน้าพรรคโดยเสียงของสมาชิกพรรคทั่วประเทศ
ถือเป็นการตัดสินใจร่วมกัน ไม่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง
ทำกันด้วยความสมัครใต นับเป็น Mass Party
หรือพรรคการเมืองที่ขับเคลื่อนด้วยมวลชนอย่างแท้จริง อีกทั้ง
พรรคการเมืองใหม่ไม่มีนายทุนหนุนหลังเหมือนพรรคการเมืองระบอบเก่า

ช่วงต่อมา น.ส.วรรษมน กล่าวถึงตำแหน่งสำคัญในพรรคการเมืองใหม่
โดยหัวหน้าพรรค ได้แก่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ส่วนคณะที่ปรึกษาพรรค
มีทั้งหมด 15 คน ได้แก่ ดร.สมปอง สุจริตกุล ศ.ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช
นายอุดร ตันติสุนทร นายสมพจน์ ปิยะอุย นายพิภพ ธงไชย พล.อ.ปานเทพ
ภูวนารถนุรักษ์ พล.อ.อ.สามารถ โสตสถิตย์ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ดร.พิชาย
รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รศ.ดร.สุวินัย ภรณวลัย รศ.ดร.ชวินทร์ ลีนะบรรจง
อาจารย์สมบัติ เบญจศิริมงคล ดร.ประยูร อัครบวร นายอัมรินทร์ คอมันตร์
และนายสมศักดิ์ อิสมันยี หรือ อ๊อด คีตาญชลี

อ.สันติ กล่าวเสริมว่า พรรคการเมืองใหม่
ถือว่ามีรูปแบบและนโยบายที่เด็ดขาด
เพราะเป็นการนำความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่มาร่วมกันทำประโยชน์ให้แก่ประเทศ
ชาติและสังคมส่วนรวม
ซึ่งแตกต่างจากการเมืองระบบเก่าที่เห็นแก่พวกพ้องตนเอง มากกว่าสิ่งอื่น
โดยสำหรับ นายสนธิ ตนเห็นว่าตำแหน่งหัวหน้าพรรคมีความเหมาะสม
เพราะที่ผ่านมา นายสนธิ แสดงความเป็นผู้นำในภาคประชาชนได้อย่างเด็ดขาด
อีกทั้งเป็นผู้จุดเทียนเล่มแรกให้คนหันมาสนใจและใส่ใจเพื่อส่วนรวม
โดยจากคำขวัญแสดงให้เห็นถึงหลักการต่อสู้ตามระบอบประชาธิปไตย
ที่มีการตั้งมั่นหลักเสียสละ ซื่อสัตย์ กล้าหาญ และทำงานเป็น
ในการปฏิบัติหน้าที่

น.ส.วรรษมน กล่าวว่า หลังจากที่ นายสนธิ
ได้รับการโหวตให้เป็นหัวหน้าพรรค
ได้มีนักการเมืองมากหน้าหลายตาแสดงความคิดเห็น หนึ่งในนั้น คือ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ระบุว่า ยินดีกับนายสนธิ
จะได้เข้ามาต่อสู้ทางการเมืองกันในสภา โดยกรณี นายชัชวาลย์ กล่าวเสริม
ว่า สิ่งที่ ร.ต.อ.เฉลิม พูด ถือเป็นการพูดแบบนักการเมืองเก่า
ที่มีความคิดไม่สร้างสรรค์ เพราะการที่มีพรรคการเมืองใหม่เกิดขึ้น
ไม่ได้หมายความว่าพันธมิตรฯ จะยุติบทบาทหรือหยุดการต่อสู้กับความถูกต้อง
แต่พรรคการเมืองใหม่ถือเป็นอาวุธสำหรับที่จะช่วยพันธมิตรฯ
ให้ต่อสู้ได้อย่างเข้มข้นมากขึ้น แต่ทั้งนี้ ต้องขอยืนยันว่า
พันธมิตรฯและพรรคการเมืองใหม่ ไม่ได้สู้เพื่อคนๆเดียว เหมือน
กลุ่มคนเสื้อแดงที่ต่อสู้อย่างถวายหัวให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
อดีตนายหรัฐมนตรี

อ.สันติ กล่าวปิดท้ายว่า
พรรคการเมืองใหม่ถือว่าเริ่มต้นในช่วงเวลาที่ดีและเหมาะสม
ได้รับแรงหนุนจากมวลชน ที่ต้องการให้เข้ามาทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ
ไม่ได้เป็นพรรคการเมืองที่แบ่งชนชั้น มีข้อจำกัดเรื่องสิทธิมนุษยชน
ขอเพียงแค่บุคคลที่เข้ามาเป็นสมาชิกพรรคเป้นผู้ที่มีอุดมการณ์และยึดถือความ
ถูกต้องเป็นสำคัญเพียงแค่นี้ก้อสามารถเข้าร่วมกับพรรคการเมืองใหม่ได้แล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น